ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
เรื่อง สุขศึกษาในวัยว้าวุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลดอกเงิน
สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่
ชื่อผู้ศึกษา นายธวัชชัย ดำรงค์พานิช ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาลดอกเงิน สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่
ปีที่รายงาน 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลดอกเงิน สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ (2) สร้างและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง สุขศึกษาในวัยว้าวุ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลดอกเงิน สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และดัชนีประสิทธิผล 0.5 (3) เปรียบเทียบความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง สุขศึกษาในวัยว้าวุ่น ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลดอกเงิน สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ และ (4) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง สุขศึกษาในวัยว้าวุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลดอกเงิน สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลดอกเงิน สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 20 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบบันทึก แบบสัมภาษณ์ สภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบประเมินความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าประสิทธิภาพ ( , ) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย ( ) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( )
ผลการศึกษาพบว่า
1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลดอกเงิน สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ มีปัญหาเกี่ยวกับการขาดทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ส่งผลให้มีปัญหาพฤติกรรมในลักษณะต่าง ๆ ซึ่งมีสาเหตุมาจากสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสื่อเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ครอบครัวมุ่งแต่การทำมาหากิน และให้ความสำคัญกับการอบรมเลี้ยงดูบุตรเป็นลำดับท้าย ๆ นอกจากนี้ครูผู้สอนยังมีทัศนคติต่อการเรียนรู้เรื่องเพศ รักในวัยเรียน หรือปัญหาอื่น ๆ ของวัยแรกรุ่น ยังไม่กว้างขวางพอ รวมทั้งการขาดสื่อ/นวัตกรรมที่เอื้อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ศึกษาจึงได้หาแนวทางการพัฒนาโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
เรื่อง สุขศึกษาในวัยว้าวุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลดอกเงิน สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่
2. แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง สุขศึกษาในวัยว้าวุ่น กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลดอกเงิน สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ จำนวน 5 หน่วยการเรียนรู้ รวมทั้งหมด 20 แผน ใช้เวลา 20 ชั่วโมง ประกอบด้วย มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและแหล่งเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล ใบกิจกรรม แบบประเมิน และแบบบันทึกผลการประเมิน มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.90/85.40 และดัชนีประสิทธิผล 0.7470 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลดอกเงิน สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ ได้คะแนนความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณก่อนเรียน รวมเฉลี่ย เท่ากับ 21.15 จากคะแนนเต็ม 50 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 42.30 และคะแนนความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียน รวมเฉลี่ย เท่ากับ 42.70 จากคะแนนเต็ม 50 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 85.40 ซึ่งมีร้อยละของความก้าวหน้า เท่ากับ 43.10
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลดอกเงิน สำนักการศึกษา เทศบาลนครเชียงใหม่ มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง สุขศึกษาในวัยว้าวุ่น เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.67, = 0.13)