|
|
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนโดยการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2.8 โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย สำนักการศึกษาเทศบาลนครเชียงราย จังหวัดเชียงราย จำนวน 35 คน ได้ดำเนินการในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่ แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ จำนวน 10 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ แบบสอบถามความพึงพอใจและแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ ศึกษาคะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการตอบแบบสอบถามความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่าง สถิติที่ใช้คือ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test) พร้อมกับนำเสนอข้อมูลโดยการบรรยายใต้ตารางด้วยความเรียง
ผลการศึกษาพบว่า
1.ผลการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จากการนำไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2.8จำนวน 35 คน พบว่า มีประสิทธิภาพโดยรวมเท่ากับ 86.27/88.79 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 80/80 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
2.ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านจับใจความสำคัญหลังเรียนสูงกว่าคะแนนทดสอบก่อนเรียน แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 จากคะแนนเต็ม 40 คะแนน ทดสอบก่อนเรียนเท่ากับ 17.09 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 42.71 ส่วนคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 35.51 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 88.79 และมีคะแนนความก้าวหน้ามีพัฒนาการเฉลี่ยเท่ากับ 18.43 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 46.07 สรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3.ระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านความรู้สึก ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระภาษาไทย ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านบทบาทของผู้เรียน และด้านบทบาทการสอนของครูมีค่าความพึงพอใจเฉลี่ย เท่ากับ 4.99 ซึ่งเป็นความพึงพอใจในระดับมากที่สุด
|
โพสต์โดย ติ๊ก : [26 ส.ค. 2562 เวลา 16:02 น.] อ่าน [4160] ไอพี : 58.9.37.244
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 64,624 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,691 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,658 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,262 ครั้ง
| เปิดอ่าน 55,106 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,867 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,831 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,777 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,720 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,901 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,777 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,694 ครั้ง
| เปิดอ่าน 45,202 ครั้ง
| เปิดอ่าน 48,153 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,896 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 42,951 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,523 ครั้ง
| เปิดอ่าน 4,313 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,283 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,744 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|