ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนาหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เพื่อสร้างเสริมทักษะชีวิต เรื่อง “ลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย” กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา

ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เพื่อสร้างเสริมทักษะชีวิต เรื่อง “ลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย” กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -3

ผู้วิจัย นางตวงรัตน์ รื่นยุทธ์

ปีที่วิจัย 2561

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการพัฒนาหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เพื่อสร้างเสริมทักษะชีวิตเรื่อง “ลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย” กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -3 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานการพัฒนาหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เพื่อสร้างเสริมทักษะชีวิต เรื่อง “ลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย” กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 2) เพื่อพัฒนาหลักสูตร 3) เพื่อศึกษาการใช้หลักสูตร และ 4) เพื่อประเมินผลการใช้หลักสูตร การวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำรวจปัญหาและความต้องการ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษา นักวิชาการ ศึกษานิเทศก์ นักเรียน ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา จำนวน 100 คน ระยะที่ 2 การสร้างและพัฒนาหลักสูตร กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล 6 (วัดตันตยาภิรม) จำนวน 40 คน ระยะที่ 3 การทดลองใช้หลักสูตร กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนที่กำลังเรียนชั้นอยู่ประถมศึกษาปีที่ 1-3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนเทศบาล 6 (วัดตันตยาภิรม) จำนวน 45 คน ระยะที่ 4 ประเมินหลักสูตร กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้หลักสูตร จำนวน 60 คน หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เพื่อสร้างเสริมทักษะชีวิต เรื่อง “ลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย” กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 7 หน่วยการเรียน 20 แผนการเรียนรู้ ใช้เวลา 40 ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูล ได้แก่ 1) แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ 2) แบบวัดความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 3) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อหลักสูตร แบบวัดความพึงพอใจของครูและคณะกรรมการสถานศึกษาที่มีต่อหลักสูตร และ 5) แบบประเมินการใช้หลักสูตร สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมุติฐานด้วย t - test (Dependent Samples)

ผลการวิจัย พบว่า

1) สภาพปัญหาของสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กไทย คือ การเสียชีวิตจากการ จมน้ำ โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอมใหญ่ภาคฤดูร้อน 3 เดือน (มีนาคม-พฤษภาคม) ซึ่งเป็นช่วงที่มีเด็กจมน้ำเสียชีวิตมากที่สุด ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กอายุ 5-9 ปี เพื่อลดจำนวนการเสียชีวิตของเด็กไทย ความต้องการมากที่สุด คือ

1.1) ต้องการเปลี่ยนวิชาว่ายน้ำ "ให้เป็น" หลักสูตร “ลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย” โดยการพัฒนาหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เพื่อสร้างเสริมทักษะชีวิต เรื่อง “ลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย” กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -3

1.2) นักเรียนต้องมีทักษะในการในการเอาชีวิตรอดทางน้ำ ตั้งแต่อายุ 6 ปีขึ้นไป

1.3) นักเรียนควรได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริงและมีการวัดผลประเมินผลที่เหมาะสมสื่อ และแหล่งเรียนรูที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ควรสร้างเสริมทักษะชีวิต

2) ผลการพัฒนาหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เพื่อสร้างเสริมทักษะชีวิต เรื่อง “ลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย” กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -3 ประกอบไปด้วย บทนำ หลักการ จุดมุ่งหมาย คำอธิบายรายวิชา ผลการเรียนรู้ โครงสร้างรายวิชา การจัดการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล ผลการประเมินความเหมาะสมของของหลักสูตร พบว่า โดยภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.65 , S.D. = 0.48)

3) ผลการใช้หลักสูตร พบว่า

3.1) ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เฉลี่ยเท่ากับ 25.51 ผ่านเกณฑ์ทีกำหนด คิดเป็นร้อยละ 85.04

3.2) สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านการใช้ทักษะชีวิต พบว่านักเรียนมีพัฒนาการทักษะชีวิตหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3.3) ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยหลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เพื่อสร้างเสริมทักษะชีวิต เรื่อง “ลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย” ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 2.91 , S.D. = 0.27)

3.4) ครูและคณะกรรมการสถานศึกษามีความพึงพอใจต่อหลักสูตรภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.71, S.D. = 0.47)

4) การประเมินผลการพัฒนาหลักสูตร กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้หลักสูตร จำนวน 60 คน พบว่า หลักสูตรรายวิชาเพิ่มเติม เพื่อสร้างเสริมทักษะชีวิต เรื่อง “ลอยน้ำได้ ว่ายน้ำเป็น เล่นน้ำปลอดภัย” กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -3 มีความเหมาะสม ในระดับ มากที่สุด ใช้ในการเรียนการสอนเพื่อสร้างเสริมทักษะชีวิตให้แก่ผู้เรียนต่อไป

โพสต์โดย ครูหญิง : [24 ส.ค. 2562 เวลา 14:54 น.]
อ่าน [4379] ไอพี : 159.192.230.189
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,498 ครั้ง
วิธีห่อของขวัญอย่างง่าย ต้อนรับ วันปีใหม่ 2558 ที่กำลังจะมาถึงนี้
วิธีห่อของขวัญอย่างง่าย ต้อนรับ วันปีใหม่ 2558 ที่กำลังจะมาถึงนี้

เปิดอ่าน 17,472 ครั้ง
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน
สุดทึ่ง นักโบราณคดีอึ้ง รูปปั้นนักรบเฝ้าสุสานจีน 7 พันตัว ถูกปั้น"ตามใบหน้าจริงแต่ละคน

เปิดอ่าน 10,007 ครั้ง
อะแคนทะมีบา ภัย คอนแทคเลนส์
อะแคนทะมีบา ภัย คอนแทคเลนส์

เปิดอ่าน 9,175 ครั้ง
ประทับใจ! คลิปช่วยลูกช้างขึ้นจากหลุม ก่อนวิ่งหาแม่ด้วยความดีใจ
ประทับใจ! คลิปช่วยลูกช้างขึ้นจากหลุม ก่อนวิ่งหาแม่ด้วยความดีใจ

เปิดอ่าน 10,516 ครั้ง
คลิปน่ารัก เด็กชายวัย4ขวบร้องเพลงแบบอินสุดๆ
คลิปน่ารัก เด็กชายวัย4ขวบร้องเพลงแบบอินสุดๆ

เปิดอ่าน 29,258 ครั้ง
สอนลูกให้เป็น “ดิน” เพื่อจะเป็น “ดาว” / ดร.แพง ชินพงศ์
สอนลูกให้เป็น “ดิน” เพื่อจะเป็น “ดาว” / ดร.แพง ชินพงศ์

เปิดอ่าน 33,401 ครั้ง
การเต้นเป็นกลุ่มที่เรียกว่า "ฮาร์เล็ม เชค Harlem Shake" คืออะไร?
การเต้นเป็นกลุ่มที่เรียกว่า "ฮาร์เล็ม เชค Harlem Shake" คืออะไร?

เปิดอ่าน 295,377 ครั้ง
รายการคำทับศัพท์รวบรวมจากการสะกดตามราชบัณฑิตยสถาน
รายการคำทับศัพท์รวบรวมจากการสะกดตามราชบัณฑิตยสถาน

เปิดอ่าน 59,347 ครั้ง
ความหมายของเลขบัตรประชาชนทั้ง 13 หลัก
ความหมายของเลขบัตรประชาชนทั้ง 13 หลัก

เปิดอ่าน 19,290 ครั้ง
เหงื่อบอกโรค
เหงื่อบอกโรค

เปิดอ่าน 7,595 ครั้ง
เข้าใจนวัตกรรม การศึกษาฟินแลนด์
เข้าใจนวัตกรรม การศึกษาฟินแลนด์

เปิดอ่าน 26,005 ครั้ง
 กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รับเงินเดือนในอัตรากำลังทดแทน พ.ศ.2551
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รับเงินเดือนในอัตรากำลังทดแทน พ.ศ.2551

เปิดอ่าน 14,543 ครั้ง
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ จำนวน 5 รายการ
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ จำนวน 5 รายการ

เปิดอ่าน 2,593 ครั้ง
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี

เปิดอ่าน 106,606 ครั้ง
เทคนิคเดลฟาย (Delphi technique)
เทคนิคเดลฟาย (Delphi technique)

เปิดอ่าน 64,440 ครั้ง
"นายกรัฐมนตรี" อธิบาย "ไทยแลนด์ 4.0" และ "คนไทย 4.0" ให้เข้าใจง่าย
"นายกรัฐมนตรี" อธิบาย "ไทยแลนด์ 4.0" และ "คนไทย 4.0" ให้เข้าใจง่าย
เปิดอ่าน 12,180 ครั้ง
เช้าควบเที่ยง เสี่ยงโรคอ้วน
เช้าควบเที่ยง เสี่ยงโรคอ้วน
เปิดอ่าน 11,807 ครั้ง
"สับปะรด" ลดริ้วรอยบนใบหน้า
"สับปะรด" ลดริ้วรอยบนใบหน้า
เปิดอ่าน 17,517 ครั้ง
ประโยชน์ของทุเรียน
ประโยชน์ของทุเรียน
เปิดอ่าน 19,531 ครั้ง
"ว่านธรณีสาร" คืออะไร มีประโยชน์ตามความเชื่ออย่างไร?
"ว่านธรณีสาร" คืออะไร มีประโยชน์ตามความเชื่ออย่างไร?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ