ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ GILS Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

บทคัดย่อ

รายงานผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ GILS Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ GILS Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ และ 2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ GILS Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) โดยมีขั้นตอนของการวิจัย คือ ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ (Research: R1) ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ (Development: D2) ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ (Research: R2) และขั้นตอนที่ 4 การศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (Development: D2) ตัวแปรที่ใช้ในการวิจัยประกอบไปด้วย ตัวแปรต้น ได้แก่การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ GILS Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ ตัวแปรตาม ได้แก่ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ 1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 18 คน และ 2) ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้ GILS Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ GILS Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ จำนวน 9 แผน จำนวน 17 สัปดาห์ โดยแบ่งเป็นสัปดาห์ละ 1 ครั้งๆละ 2 ชั่วโมง จำนวน 1 แผน และ แผนละ 4 ชั่วโมง รวมเป็น 2 สัปดาห์ / แผน จำนวน 8 แผนรวมเวลา 32 ชั่วโมง รวมเวลาที่หมด 34 ชั่วโมง และเวลาที่นักเรียนใช้ในการปฏิบัติงานด้วยตนเองนอกเวลาเป็นจำนวน 3 ชั่วโมง ไม่รวมการจัดนิทรรศการโครงงานคอมพิวเตอร์ จำนวน 1 ครั้ง เวลา 2 ชั่วโมง และการสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอีก 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 ชั่วโมง และ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัยจำนวน 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ

สรุปผลการวิจัย

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ GILS Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ ในครั้งนี้ผู้วิจัยได้นำเสนอผลสรุปการวิจัยดังนี้

ตอนที่ 1 ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ GILS Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ

1. รูปแบบที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมาจากการสังเคราะห์ ผลการศึกษา วิเคราะห์ แนวคิด หลักการทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ GILS Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ มี 5 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่

1.1 หลักการ พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ GILS Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ เป็นรูปแบบที่ประกอบด้วยนวัตกรรม 2 อย่างคือ นวัตกรรมการเรียนแบบร่วมมือด้วยเทคนิคกลุ่มสืบค้นหรือ Group Investigation หรือ GI เป็นการจัดกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการศึกษาค้นคว้าแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ผู้เรียนแต่ละกลุ่มได้รับมอบหมายให้ค้นคว้าหาความรู้มานำเสนอประกอบเนื้อหาที่เรียน เป็นการทำงานตามใบงานที่กำหนด โดยที่ทุกคนในกลุ่มรับรู้และช่วยกันทำงาน สมาชิกในกลุ่มจะช่วยกันศึกษาค้นคว้าหาคำตอบหรือความรู้มานำเสนอต่อชั้นเรียน ผู้เรียนจะนำเสนอผลงานทีละกลุ่ม แล้วร่วมกันประเมินผลงาน ส่วนนวัตกรรมที่ 2 คือการศึกษาชั้นเรียน (Lesson Study) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ เน้นการเตรียมแผนการจัดการเรียนรู้ที่ให้นักเรียนได้มีประสบการณ์หลากหลาย ซึ่งเกิดจากการเรียนรู้ร่วมกันของคณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี โดยผู้วิจัยได้ปรับขั้นตอนในการจัดกิจกรรมให้กับนักเรียนตามขั้นตอนของ ไสว ฟักขาว (2544) คือ 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 2) ขั้นสอน ประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้คือ 2.1 ) ขั้นการเลือกหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา (Topic Selection) 2.2 ) ขั้นการวางแผนร่วมมือกันในการทำงาน (Cooperative Planning) 2.3) ขั้นการดำเนินงานตามแผนการที่วางไว้ (Implementation) 2.4) ขั้นการวิเคราะห์และสังเคราะห์งานที่ทำ (Analysis and Synthesis) 2.5) ขั้นการนำเสนอผลงาน (Presentation of Final Report) 2.6) ขั้นการประเมินผล (Evaluation และ 3) ขั้นสรุป

2.2 วัตถุประสงค์ ยึดตามแนวคิดของ อาภรณ์ ใจเที่ยง (2550) ได้เสนอวัตถุประสงค์ (Objective) คือ

2.2.1 เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะกระบวนการกลุ่มได้ฝึกบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบในการทำงานกลุ่ม

2.2.2 เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะการคิดค้นคว้า ทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ทักษะการคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา การตัดสินใจ การตั้งคำถาม ตอบคำถาม การใช้ภาษา การพูด ฯลฯ

2.2.3 เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะทางสังคม การอยู่ร่วมกับผู้อื่น การมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น การเสียสละ การยอมรับกันและกัน การไว้วางใจ การเป็นผู้นำ ผู้ตาม ฯลฯ

2.2.4 เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์

2.3 กระบวนการจัดการเรียนรู้ ผู้วิจัยได้ใช้ขั้นตอนการศึกษาชั้นเรียน (Lesson study)ที่ปรับมาจากขั้นตอนของ ไมตรี อินทร์ประสิทธิ์ ( 2551) โดยใช้ร่วมกับการเรียนแบบร่วมมือด้วยเทคนิคกลุ่มสืบค้นหรือ Group Investigation ของ ไสว ฟักขาว (2544) โดยมี ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 ขั้นการเลือกหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา (Topic Selection)

ขั้นตอนที่ 2 ขั้นสอน ประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้

2.1 ขั้นการเลือกหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา (Topic Selection)

2.2 ขั้นการวางแผนร่วมมือกันในการทำงาน (Cooperative Planning)

2.3 ขั้นการดำเนินงานตามแผนการที่วางไว้ (Implementation)

2.4 ขั้นการวิเคราะห์และสังเคราะห์งานที่ทำ (Analysis and Synthesis)

2.5 ขั้นการนำเสนอผลงาน (Presentation of Final Report)

2.6 ขั้นการประเมินผล (Evaluation)

ขั้นตอนที่ 3 ขั้นสรุป

2.4 เนื้อหา เนื้อหาที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นเนื้อหาตามหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 รายวิชา (เพิ่มเติม) โครงงานคอมพิวเตอร์ รหัส ง32226 ประกอบไปด้วยหน่วยการเรียนรู้จำนวน 4 หน่วย คือ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงาน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การเขียนเค้าโครงของโครงงาน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การดำเนินงานจัดทำโครงงาน และหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การนำเสนอโครงงาน

2.5 การวัดและประเมินผล การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ 30 คะแนน

ตอนที่ 2 ผลการศึกษาการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ GILS Model เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชุมชนวัดหนองค้อ พบว่านักเรียนกลุ่มเป้าหมายสามารถทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์ จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน เกณฑ์ความรอบรู้ที่กำหนดไว้คือร้อยละ 70 ของคะแนนเต็มหรือร้อยละ 70 ของคะแนน 30 คะแนนคือ 24 คะแนน มีนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์คะแนนจำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 83.33 สรุปได้ว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์ ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ ให้มีจำนวนนักเรียนอย่างน้อยร้อยละ 70 มีคะแนนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็มขึ้นไป

โพสต์โดย matthanida : [16 ส.ค. 2562 เวลา 19:30 น.]
อ่าน [3250] ไอพี : 118.174.200.128
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 24,072 ครั้ง
รามเกียรติ์
รามเกียรติ์

เปิดอ่าน 45,493 ครั้ง
อักษรไทยสมัยสุโขทัย
อักษรไทยสมัยสุโขทัย

เปิดอ่าน 2,301 ครั้ง
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี

เปิดอ่าน 16,908 ครั้ง
ไก่เคยูเบตง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค
ไก่เคยูเบตง สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค

เปิดอ่าน 115,104 ครั้ง
มารู้จักปุ่ม F บนคีย์บอร์ดกันดีกว่า
มารู้จักปุ่ม F บนคีย์บอร์ดกันดีกว่า

เปิดอ่าน 19,915 ครั้ง
กฎของก๊าซ (THE GAS LAWS)
กฎของก๊าซ (THE GAS LAWS)

เปิดอ่าน 20,045 ครั้ง
เครื่องคชาภรณ์ (เครื่องแต่งตัวช้างสำคัญ)
เครื่องคชาภรณ์ (เครื่องแต่งตัวช้างสำคัญ)

เปิดอ่าน 17,523 ครั้ง
VPN คืออะไร
VPN คืออะไร

เปิดอ่าน 16,681 ครั้ง
กินแตงโม...ลดความดันเลือด
กินแตงโม...ลดความดันเลือด

เปิดอ่าน 22,905 ครั้ง
ประเพณีสงกรานต์ล้านนา
ประเพณีสงกรานต์ล้านนา

เปิดอ่าน 101,630 ครั้ง
ประเภทของลูกเสือ
ประเภทของลูกเสือ

เปิดอ่าน 44,171 ครั้ง
วิกฤต... "บัณฑิตแห่ตกงาน" อีกหนึ่งความล้มเหลว... อุดมศึกษาไทย
วิกฤต... "บัณฑิตแห่ตกงาน" อีกหนึ่งความล้มเหลว... อุดมศึกษาไทย

เปิดอ่าน 9,178 ครั้ง
ตะลึง!!! 90% ของอีเมล์เป็น "สแปม"
ตะลึง!!! 90% ของอีเมล์เป็น "สแปม"

เปิดอ่าน 6,403 ครั้ง
โครงการ DifferSheet ออกฟีเจอร์ใหม่ WorkSheet (สื่อการเรียนการสอนดิจิทัล) ให้ครูใช้ฟรีช่วงโควิด
โครงการ DifferSheet ออกฟีเจอร์ใหม่ WorkSheet (สื่อการเรียนการสอนดิจิทัล) ให้ครูใช้ฟรีช่วงโควิด

เปิดอ่าน 48,355 ครั้ง
มาแรง!! มะนาวแป้นพันธุ์ใหม่ 8 เดือนให้ผล 300 ลูก ปลูกได้หลายแบบตามความเหมาะสม
มาแรง!! มะนาวแป้นพันธุ์ใหม่ 8 เดือนให้ผล 300 ลูก ปลูกได้หลายแบบตามความเหมาะสม

เปิดอ่าน 19,535 ครั้ง
ทำอย่างไรดี...คอเคล็ดพราะตกหมอน
ทำอย่างไรดี...คอเคล็ดพราะตกหมอน
เปิดอ่าน 50,611 ครั้ง
การเก็บรวบรวมข้อมูล (Collection of Data)
การเก็บรวบรวมข้อมูล (Collection of Data)
เปิดอ่าน 15,593 ครั้ง
นวดหน้าลดริ้วรอย
นวดหน้าลดริ้วรอย
เปิดอ่าน 29,422 ครั้ง
โลกธรรม 8
โลกธรรม 8
เปิดอ่าน 19,811 ครั้ง
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ