ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านเหนือคลอง ปีการ ศึกษา 2561 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล ( โดย นายโกม

บทสรุปผู้บริหาร

การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านเหนือคลอง ปีการ ศึกษา 2561 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านสภาวะแวดล้อม ปัจจัยเบื้องต้น กระบวนการดำเนินงาน และผลผลิตของโครงการ ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมิน คือ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน รวมจำนวน 224 คน กรอบการประเมินใช้รูปแบบซิปป์ (CIPP Model) เครื่องมือที่ใช้ประเมินคือ แบบสอบถามประเภทมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 6 ฉบับประกอบด้วย แบบสอบถามประเมินสภาวะแวดล้อม ปัจจัยเบื้องต้น กระบวนการดำเนินงาน และผลผลิตของโครงการ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

สรุปผลการประเมิน

1. ผลการประเมินสภาวะแวดล้อม สรุปได้ดังนี้

1.1 ผลการประเมินสภาวะแวดล้อมด้าน ความเหมาะสมและความสอดคล้องของวัตถุประสงค์โครงการ โดยภาพรวมพบว่า มีความเหมาะสมและความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดการประเมินพบว่า มีความเหมาะสมและความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุดทุกตัวชี้วัด เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมินสรุปได้ว่า โดยภาพรวมและรายตัวชี้วัด ผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

1.2 ผลการประเมินสภาวะแวดล้อมด้านความต้องการจำเป็นของโครงการ พบว่า โดยภาพรวมมีความต้องการจำเป็นของโครงการอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดการประเมินพบว่า มีความต้องการจำเป็นอยู่ในระดับมากที่สุดทุกตัวชี้วัด เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมินสรุปได้ว่า ผลการประเมินโดยภาพรวมผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ และผลการประเมินรายตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ทุกตัวชี้วัด

1.3 ผลการประเมินสภาวะแวดล้อมของโครงการโดยภาพรวมคือ ด้านความเหมาะสม ความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ และความต้องการจำเป็นของโครงการ พบว่า มีความเหมาะสม มีความสอดคล้อง และความต้องการจำเป็นอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด การประเมินพบว่า วัตถุประสงค์โครงการมีความเหมาะสม มีความสอดคล้อง และความต้องการจำเป็นอยู่ในระดับมากที่สุดทุกตัวชี้วัด เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมินสรุปได้ว่า ผลการประเมินโดยภาพรวมผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ และผลการประเมินรายตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ทุกตัวชี้วัด

2. ผลการประเมินปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ พบว่า โดยภาพรวมปัจจัยเบื้องต้นของโครงการมีความเพียงพออยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้การประเมินพบว่า ตัวชี้วัดที่ 1 5 6 7 8 9 และ 10 มีความเพียงพออยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนตัวชี้วัดที่ 2 3 และ 4 มีความเพียงพออยู่ในระดับมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมินสรุปได้ว่า ผลการประเมินโดยภาพรวมผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ และผลการประเมินรายตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ทุกตัวชี้วัด

3. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินงานของโครงการ พบว่า โดยภาพรวมกระบวนการ ดำเนินงานมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้การประเมิน พบว่า ตัวชี้วัด ที่ 1 5 6 และ 8 มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนตัวชี้วัดที่ 2 3 4 และ 7 มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมินสรุปได้ว่า ผลการประเมินโดยภาพรวมผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ และผลการประเมินรายตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ทุกตัวชี้วัด

4. ผลการประเมินด้านผลผลิต สรุปได้ดังนี้

4.1. ผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ พบว่า โดยภาพรวมผลผลิตโครงการมีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดการประเมินพบว่า ตัวชี้วัดที่ 1 2 3 6 และ 8 มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนตัวชี้วัดที่ 4 5 7 และ 9 มีคุณภาพ อยู่ในระดับมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมิน สรุปได้ว่า ผลการประเมินโดยภาพรวมผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ และผลการประเมินรายตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ทุกตัวชี้วัด

4.2 ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อโครงการ สรุปได้ดังนี้

4.1.1 ความพึงพอใจที่มีต่อรูปแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ของนักเรียน พบว่า โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัดการประเมิน พบว่า ตัวชี้วัดที่ 1 2 3 และ 5 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนตัวชี้วัดที่ 4 มีความ พึงพอใจอยู่ในระดับมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมินสรุปได้ว่า ผลการประเมินโดยภาพรวมผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ และผลการประเมินรายตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ทุกตัวชี้วัด

4.1.2 ความพึงพอใจที่มีต่อบรรยากาศในการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียน พบว่า โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายตัวชี้วัด การประเมินพบว่า ตัวชี้วัดที่ 1 4 5 และ 7 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนตัวชี้วัดที่ 2 3 และ 6 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมินสรุปได้ว่า ผลการประเมินโดยภาพรวมผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ และผลการประเมินรายตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ทุกตัวชี้วัด

4.3 ผลการประเมินนิสัยรักการอ่านและการศึกษาค้นคว้าของนักเรียนโดยภาพรวมพบว่า นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านและการศึกษาค้นคว้าโดยปฏิบัติเป็นประจำร้อยละ 85.84 เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์การประเมินสรุปได้ว่า นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านและการศึกษาค้นคว้าผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 80

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะสำหรับนำผลการประเมินไปใช้

1.1 ผลการประเมิน พบว่า สภาพแวดล้อมด้านความเหมาะสม ความสอดคล้องของวัตถุประสงค์โครงการและความต้องการจำเป็นในการจัดทำโครงการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินชี้ให้เห็นว่า โรงเรียนมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดทำโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับนักเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณต่อไปเป็นโครงการต่อเนื่อง เพื่อสนองนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัดคือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานต่อไป

1.2 ผลการประเมิน พบว่า ปัจจัยเบื้องต้นที่สนับสนุนให้โครงการประสบความสำเร็จ บางปัจจัยมีความเพียงพอในอยู่ในระดับมาก ซึ่งอาจส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนมีคุณภาพน้อยลงตามสัดส่วนของปัจจัยสนับสนุนได้ ดังนั้นประเด็นที่ผู้รับผิดชอบโครงการและผู้บริหารโรงเรียนบ้านเหนือคลองควรคำนึงเป็นพิเศษเกี่ยวกับการเพิ่มปัจจัยเบื้องต้นให้เพียงพอสำหรับการสนับสนุนโครงการก่อนดำเนินงานโครงการคือ ควรเพิ่มวัสดุอุปกรณ์และงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินงานโครงการ ให้มีความเพียงพอเพิ่มขึ้นคือ อยู่ในระดับมากที่สุดต่อไป

1.3 ผลการประเมิน พบว่า โดยภาพรวมกระบวนการดำเนินงานโครงการมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ประเด็นที่ผู้รับผิดชอบโครงการและผู้บริหารโรงเรียนควรคำนึงเป็นพิเศษ เกี่ยวกับการปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานให้เหมาะสมยิ่งขึ้นคือ การนิเทศการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง การตรวจสอบทบทวนคุณภาพการดำเนินงานระหว่างการดำเนินงานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง และควรนำผลการการตรวจสอบทบทวนคุณภาพไปนิเทศเพื่อปรับปรุงการดำเนินงาน โครงการเพื่อให้ผลผลิตและผลลัพธ์ของโครงการบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด

1.4 ผลการประเมินด้านผลผลิต พบว่า ผลการดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการที่กำหนดไว้มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ผลการประเมินชี้ให้เห็นว่า กิจกรรมโครงการทั้ง 6 กิจกรรม เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านเพิ่มขึ้น ดังนั้นการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีครั้งต่อไปควรเพิ่มจำนวนกิจกรรมและความหลากหลายในรูปแบบของการจัดกิจกรรม ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านเพิ่มขึ้น อาทิ ควรเพิ่มกิจกรรมตามข้อเสนอแนะของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แก่ กิจกรรมค่ายรักการอ่าน กิจกรรมแข่งขันตั้งคำถามจากเรื่องที่อ่าน เป็นต้น

1.5 ผลการประเมินความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียนโดยภาพรวมพบว่า นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านและการศึกษาค้นคว้าคิดเป็นร้อยละ 85.84 ดังนั้นเพื่อให้ผู้ปกครองนักเรียนมีส่วนร่วมในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและการค้นคว้า โรงเรียนควรบรรจุกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการศึกษาค้นคว้า ที่ให้ผู้ปกครองนักเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจกรรม โดยเน้นกิจกรรมที่ให้เด็กได้ศึกษาค้นคว้าที่บ้านของนักเรียนเอง อาทิ กิจกรรมอ่านหนังสือให้พ่อแม่ฟังก่อนนอน กิจกรรมอ่านทบทวนบทเรียนประจำวันให้ผู้ปกครองฟัง เป็นต้น

2. ข้อเสนอแนะสำหรับการประเมินโครงการครั้งต่อไป

2.1 การประเมินครั้งต่อไปควรเพิ่มประเด็นการประเมิน โดยการตรวจสอบความเป็น ไปได้ของกิจกรรมว่ากิจกรรมใดส่งผลต่อการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านของนักเรียนอยู่ในระดับใด เพื่อคัดเลือกการปรับปรุงหรือขยายขอบเขตของกิจกรรมให้มีคุณภาพสูงขึ้นต่อไป

2.2 การประเมินโครงการครั้งต่อไปควรเพิ่มประเด็นในการประเมินคือ การประเมินความคุ้มค่าของการจัดทำโครงการโดยเปรียบเทียบกับงบประมาณที่ได้รับจัดสรรและผลผลิตที่ได้ รับจากการดำเนินงานโครงการ

โพสต์โดย วิวิธ : [30 มี.ค. 2562 เวลา 22:42 น.]
อ่าน [3755] ไอพี : 118.173.158.167
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,508 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 มีนาคม 2552
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 มีนาคม 2552

เปิดอ่าน 12,332 ครั้ง
คลิป ดช ตาบอด 4 ขวบ ไม่ท้อชีวิต ใช้ไม้เท้าฝึกข้ามถนนเอง
คลิป ดช ตาบอด 4 ขวบ ไม่ท้อชีวิต ใช้ไม้เท้าฝึกข้ามถนนเอง

เปิดอ่าน 16,735 ครั้ง
ครูยุคใหม่ แค่มีจิตวิญญาณครู-ไม่พอ
ครูยุคใหม่ แค่มีจิตวิญญาณครู-ไม่พอ

เปิดอ่าน 29,033 ครั้ง
ประเพณีการบอกหมาก ในงานแต่งงาน
ประเพณีการบอกหมาก ในงานแต่งงาน

เปิดอ่าน 2,598 ครั้ง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง
วัยทำงานนั่งนาน 8 ชั่วโมง เมินขยับ ไม่มีกิจกรรมทางกาย เสี่ยงอ้วนลงพุง

เปิดอ่าน 13,895 ครั้ง
พัฒนาทักษะสมองอย่างไรให้เป็นคนที่สำเร็จในอนาคต
พัฒนาทักษะสมองอย่างไรให้เป็นคนที่สำเร็จในอนาคต

เปิดอ่าน 11,340 ครั้ง
ทำไมขนมโดนัทจึงมีรู
ทำไมขนมโดนัทจึงมีรู

เปิดอ่าน 70,518 ครั้ง
การวาดภาพนกเบื้องต้น
การวาดภาพนกเบื้องต้น

เปิดอ่าน 9,414 ครั้ง
จดหมายฉบับที่ 56 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรา 44 ...ครูและนักเรียนได้อะไร ?
จดหมายฉบับที่ 56 ถึงนายกรัฐมนตรี+รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรา 44 ...ครูและนักเรียนได้อะไร ?

เปิดอ่าน 22,706 ครั้ง
ไอเดีย..โครงสร้างศธ.รูปแบบใหม่สลาย5แท่งหวนสู่ "กรม"!
ไอเดีย..โครงสร้างศธ.รูปแบบใหม่สลาย5แท่งหวนสู่ "กรม"!

เปิดอ่าน 18,989 ครั้ง
"ข่าลิง" คืออะไร?
"ข่าลิง" คืออะไร?

เปิดอ่าน 21,883 ครั้ง
วิธีการปลูกผักชี
วิธีการปลูกผักชี

เปิดอ่าน 27,770 ครั้ง
ครูทึ่ง ! เด็กป.1 ฝีมือบรรเจิด วาดภาพสวยเกินวัย-ความจำดีเลิศ
ครูทึ่ง ! เด็กป.1 ฝีมือบรรเจิด วาดภาพสวยเกินวัย-ความจำดีเลิศ

เปิดอ่าน 85,338 ครั้ง
ผักพื้นบ้าน 13 ชนิด ที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ไม่ทำลายตับ
ผักพื้นบ้าน 13 ชนิด ที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ไม่ทำลายตับ

เปิดอ่าน 15,740 ครั้ง
การสอนภาษาอังกฤษ ในสพฐ. จุดอ่อนที่ควรคำนึง
การสอนภาษาอังกฤษ ในสพฐ. จุดอ่อนที่ควรคำนึง

เปิดอ่าน 235,144 ครั้ง
ประวัติเครื่องหมายหาร  (÷)
ประวัติเครื่องหมายหาร (÷)
เปิดอ่าน 7,743 ครั้ง
ตอบโจทย์ "ปฏิรูปการศึกษา"?
ตอบโจทย์ "ปฏิรูปการศึกษา"?
เปิดอ่าน 19,202 ครั้ง
กิน "มะรุม" ยับยั้งมะเร็งแพร่ลำไส้ใหญ่ได้ แต่กินดิบระวังตับพัง แนะนำให้ปรุงสุกก่อนรับประทาน
กิน "มะรุม" ยับยั้งมะเร็งแพร่ลำไส้ใหญ่ได้ แต่กินดิบระวังตับพัง แนะนำให้ปรุงสุกก่อนรับประทาน
เปิดอ่าน 19,776 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครู
เปิดอ่าน 18,776 ครั้ง
ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกในมนุษย์
ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกในมนุษย์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ