ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
บทสรุปผู้บริหาร

บทสรุปผู้บริหาร

การประเมินโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนโรงเรียนบ้านเหนือคลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินด้านสภาวะแวดล้อม ปัจจัยเบื้องต้น กระบวนการดำเนินงาน และผลผลิตของโครงการ ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินคือ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ครู นักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน รวมจำนวน 195 คน กรอบการประเมินใช้รูปแบบซิปป์ (CIPP Model) เครื่องมือที่ใช้ประเมินคือ แบบสอบถามประเภทมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 6 ฉบับประกอบด้วย แบบสอบถามประเมินสภาวะแวดล้อม ปัจจัยเบื้องต้น กระบวนการดำเนินงาน และผลผลิตของโครงการ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

สรุปผลการประเมิน

1. ผลการประเมินสภาวะแวดล้อมด้านความเหมาะสมและความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ โครงการ พบว่า โดยภาพรวมมีความเหมาะสมและความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

2. ผลการประเมินสภาวะแวดล้อมด้านความต้องการจำเป็นของโครงการ พบว่า โดยภาพรวม มีความต้องการจำเป็นอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

3. ผลการประเมินสภาพแวดล้อมโดยภาพรวมของโครงการ พบว่า มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

4. ผลการประเมินปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ พบว่า โดยภาพรวมมีความเพียงพออยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

5. ผลการประเมินด้านกระบวนการดำเนินงาน พบว่า โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

6. ผลการประเมินด้านผลผลิตตามวัตถุประสงค์ของโครงการ พบว่า โดยภาพรวมผลผลิต มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

7. ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อโครงการด้าน รูปแบบและบรรยากาศในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน พบว่า โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ทั้งสองด้าน ผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ทั้งสองด้าน

8. ผลการประเมินนิสัยรักการอ่านและการศึกษาค้นคว้าของนักเรียน พบว่า โดยภาพรวมนักเรียนมีนิสัยรักการอ่านและการศึกษาค้นคว้าเป็นประจำ คิดเป็นร้อยละ 89.07 ผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

9. ข้อเสนอแนะสำหรับนำผลการประเมินไปใช้ที่สำคัญ ได้แก่

9.1 ผลการประเมิน พบว่า สภาวะแวดล้อมด้านความเหมาะสม ความสอดคล้องของวัตถุประสงค์โครงการและความต้องการจำเป็นในการจัดทำโครงการ มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการประเมินชี้ให้เห็นว่า โรงเรียนมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดทำโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับนักเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยจะต้องบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณต่อไปเป็นโครงการต่อเนื่อง เพื่อสนองนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัดคือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูลและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานต่อไป

9.2 ผลการประเมิน พบว่า ปัจจัยเบื้องต้นที่สนับสนุนให้โครงการประสบความสำเร็จ บางปัจจัยมีความเพียงพอในอยู่ในระดับมาก ซึ่งอาจส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ของโครงการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของนักเรียนมีคุณภาพน้อยลงตามสัดส่วนของปัจจัยสนับสนุนได้ ดังนั้นประเด็นที่ผู้รับผิดชอบโครงการและผู้บริหารโรงเรียนบ้านเหนือคลองควรคำนึงเป็นพิเศษเกี่ยวกับการเพิ่มปัจจัยเบื้องต้นให้เพียงพอสำหรับการสนับสนุนโครงการก่อนดำเนินงานโครงการคือ ควรเพิ่มวัสดุอุปกรณ์และงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินงานโครงการ ให้มีความเพียงพอเพิ่มขึ้นคือ อยู่ในระดับมากที่สุดต่อไป

9.3 ผลการประเมิน พบว่า โดยภาพรวมกระบวนการดำเนินงานโครงการมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ประเด็นที่ผู้รับผิดชอบโครงการและผู้บริหารโรงเรียนควรคำนึงเป็นพิเศษเกี่ยวกับการปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานให้เหมาะสมยิ่งขึ้นคือ การนิเทศการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง การตรวจสอบทบทวนคุณภาพการดำเนินงานระหว่างการดำเนินงานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง และควรนำผลการการตรวจสอบทบทวนคุณภาพไปนิเทศเพื่อปรับปรุงการดำเนินงาน โครงการเพื่อให้ผลผลิตและผลลัพธ์ของโครงการบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด

9.4 ผลการประเมินด้านผลผลิต พบว่า ผลการดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการที่กำหนดไว้มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ผลการประเมินชี้ให้เห็นว่า กิจกรรมโครงการทั้ง 6 กิจกรรม เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านเพิ่มขึ้น ดังนั้นการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีครั้งต่อไปควรเพิ่มจำนวนกิจกรรม และความหลากหลายในรูปแบบของการจัดกิจกรรมปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านเพิ่มขึ้น อาทิ ควรเพิ่มกิจกรรมตามข้อเสนอแนะของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้แก่ กิจกรรมค่ายรักการอ่าน กิจกรรมแข่งขันตั้งคำถามจากเรื่องที่อ่าน เป็นต้น

9.5 ผลการประเมินความคิดเห็นของผู้ปกครองนักเรียนโดยภาพรวมพบว่า นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านและการศึกษาค้นคว้าคิดเป็นร้อยละ 89.07 ดังนั้นเพื่อให้ผู้ปกครองนักเรียนมีส่วนร่วมในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและการค้นคว้า โรงเรียนควรบรรจุกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการศึกษาค้นคว้า ที่ให้ผู้ปกครองนักเรียนมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจกรรม โดยเน้นกิจกรรมที่ให้เด็กได้ศึกษาค้นคว้าที่บ้านของนักเรียนเอง อาทิ กิจกรรมอ่านหนังสือให้พ่อแม่ฟังก่อนนอน กิจกรรมอ่านทบทวนบทเรียนประจำวันให้ผู้ปกครองฟัง เป็นต้น

โพสต์โดย วิวิธ : [24 ก.พ. 2562 เวลา 11:01 น.]
อ่าน [3390] ไอพี : 118.173.216.84
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 24,838 ครั้ง
สรภัญตารางธาตุ
สรภัญตารางธาตุ

เปิดอ่าน 60,921 ครั้ง
9 เหตุผลที่คนเก่ง ก้าวไปได้ไม่ไกลในสายงาน
9 เหตุผลที่คนเก่ง ก้าวไปได้ไม่ไกลในสายงาน

เปิดอ่าน 9,776 ครั้ง
จามบ่อย ๆ เสี่ยงเป็นโรคไหมนะ
จามบ่อย ๆ เสี่ยงเป็นโรคไหมนะ

เปิดอ่าน 9,990 ครั้ง
ดูฟรี! เฉลยข้อสอบฟิสิกส์เข้ามหาวิทยาลัยทาง online
ดูฟรี! เฉลยข้อสอบฟิสิกส์เข้ามหาวิทยาลัยทาง online

เปิดอ่าน 9,573 ครั้ง
การล้างลำไส้ทำให้อาการสิวดีขึ้น
การล้างลำไส้ทำให้อาการสิวดีขึ้น

เปิดอ่าน 14,499 ครั้ง
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2558
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2558

เปิดอ่าน 8,043 ครั้ง
แอปเปิลออกอัพเดท iOS 8.1.1 เพิ่มความเร็วให้ iPhone 4s และ iPad 2
แอปเปิลออกอัพเดท iOS 8.1.1 เพิ่มความเร็วให้ iPhone 4s และ iPad 2

เปิดอ่าน 31,652 ครั้ง
เจาะลึกนาซา องค์การด้านอวกาศเพื่อมวลมนุษยชาติ
เจาะลึกนาซา องค์การด้านอวกาศเพื่อมวลมนุษยชาติ

เปิดอ่าน 9,502 ครั้ง
สวยสู้ฤดูหนาว ด้วยสารพัดอาหารผิวจากธรรมชาติ
สวยสู้ฤดูหนาว ด้วยสารพัดอาหารผิวจากธรรมชาติ

เปิดอ่าน 9,890 ครั้ง
วันเด็กปีนี้ ไปเที่ยวไหนดี
วันเด็กปีนี้ ไปเที่ยวไหนดี

เปิดอ่าน 9,917 ครั้ง
10 วิธีรักษาเงินสด
10 วิธีรักษาเงินสด

เปิดอ่าน 2,302 ครั้ง
สั่งสินค้าจากจีนไม่เป็น PCS Cargo ช่วยคุณเรื่องบริการนำเข้าสินค้าจากจีน
สั่งสินค้าจากจีนไม่เป็น PCS Cargo ช่วยคุณเรื่องบริการนำเข้าสินค้าจากจีน

เปิดอ่าน 11,598 ครั้ง
เทคนิคบริหารหน้าท้องให้เพรียวสวย
เทคนิคบริหารหน้าท้องให้เพรียวสวย

เปิดอ่าน 32,154 ครั้ง
10 อันดับของคำที่มักออกเสียงผิดบ่อยๆ
10 อันดับของคำที่มักออกเสียงผิดบ่อยๆ

เปิดอ่าน 9,834 ครั้ง
เคล็บลับอร่อยได้ดังใจ แต่..ไม่อ้วน
เคล็บลับอร่อยได้ดังใจ แต่..ไม่อ้วน

เปิดอ่าน 13,235 ครั้ง
ชมคลิป ครูนครสวรรค์ แปลงร่างเป็นฮีโร่ เด็กๆ ชอบมาก
ชมคลิป ครูนครสวรรค์ แปลงร่างเป็นฮีโร่ เด็กๆ ชอบมาก
เปิดอ่าน 11,582 ครั้ง
7 ตัวช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอีกครั้ง
7 ตัวช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวอีกครั้ง
เปิดอ่าน 32,527 ครั้ง
ประวัติศาสนาพุทธ
ประวัติศาสนาพุทธ
เปิดอ่าน 42,505 ครั้ง
สร้างหุ่นจำลอง DNA ด้วยกระดาษ
สร้างหุ่นจำลอง DNA ด้วยกระดาษ
เปิดอ่าน 12,854 ครั้ง
สมองเสื่อมหรือ... ขี้ลืมธรรมดาๆ
สมองเสื่อมหรือ... ขี้ลืมธรรมดาๆ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ