ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเชิงรุก เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการทำโครงงาน รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 22102 สำหรั

เรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเชิงรุก เพื่อส่งเสริมความสามารถ

ในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการทำโครงงาน รายวิชาประวัติศาสตร์

รหัสวิชา ส 22102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้เขียน นางทิพยวรรณ สุพล

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ

สังกัด โรงเรียนปากช่องพิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

ปีที่พิมพ์ 2560

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเชิงรุก เพื่อส่งเสริมความสามารถ

ในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการทำโครงงาน รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 22102สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเชิงรุก เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการทำโครงงาน รายวิชาประวัติศาสตร์

รหัสวิชา ส 22102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพ ของรูปแบบการเรียนการสอนเชิงรุก เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถ ในการทำโครงงาน รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 2210 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนเชิงรุก เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการทำโครงงาน รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 22102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อประเมินรูปแบบ การเรียนการสอนเชิงรุก เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการทำโครงงาน รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 22102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนเสริมงามวิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 38 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เนื่องจากการจัดนักเรียนแต่ละห้องเรียนเป็นการจัดแบบคละความสามารถ เครื่องมือ ที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหา แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการทำโครงงาน แบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน 6) แบบประเมินรูปแบบการเรียนการสอนเชิงรุก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test (Dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนรายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ต่ำกว่าเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนด (เกณฑ์กำหนด 2.50) นักเรียนขาดประสบการณ์ในการทำโครงงานทางประวัติศาสตร์ ขาดการฝึกทักษะความสามารถในการคิดแก้ปัญหา ผลการทดสอบความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอยู่ในระดับต่ำและนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนสาระประวัติศาสตร์อยู่ในระดับปานกลาง ต่ำกว่าเกณฑ์ ที่โรงเรียนกำหนด (เกณฑ์กำหนดระดับมาก) ผลการสอบถามความต้องการของนักเรียนพบว่า นักเรียนต้องการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนหลากหลายลักษณะ ทั้งในและนอกโรงเรียน ต้องการเรียนรู้การทำโครงงานประวัติศาสตร์ ต้องการฝึกทักษะด้านการคิดแก้ปัญหา ต้องการ มีส่วนร่วมในการประเมินตนเองและประเมินเพื่อน ผลการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญการสอน สาระประวัติศาสตร์ จำนวน 5 ท่าน พบว่า ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวทางในการพัฒนาการเรียน การสอนในปัจจุบันต้องบ่มเพาะให้นักเรียนเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ในศตวรรษที่ 21 และสนองต่อ การเป็นผู้เรียนในยุคไทยแลนด์ 4.0 และสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนปากช่องพิทยาคม ให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนด้วยความกระตือรือร้น ฝึกให้นักเรียนมีทักษะการคิดแก้ปัญหา ฝึกทักษะการทำโครงงานประวัติศาสตร์ ฝึกใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ ฝึกให้นักเรียนใฝ่รู้ สามารถแสวงหาข้อมูล ให้สามารถสรุปองค์ความรู้ มีความสามารถในการสื่อสาร ได้แลกเปลี่ยนความรู้และรู้จักประยุกต์ใช้ความรู้ในการดำเนินชีวิต มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์และสามารถ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

2. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอนเชิงรุกเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการทำโครงงาน รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 22102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 พบว่า รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีชื่อรูปแบบว่า “SPTEPE Model” องค์ประกอบสำคัญคือ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน สาระหลัก ระบบสังคม หลักการตอบสนอง ระบบสนับสนุน การนำรูปแบบการเรียนการสอนไปใช้ การประเมินผล ผลที่จะเกิดขึ้นจากการสอนทั้งทางตรงและทางอ้อม กระบวนการเรียนการสอนมี 6 ขั้น ได้แก่ ขั้นที่ 1

เร้าความสนใจ (Stimulation : S) ขั้นที่ 2 ฝึกทักษะทำโครงงานและใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ (Practicing about Project Work and Historical Method Skills : P) ขั้นที่ 3 ฝึกคิดแก้ปัญหา (Training problem-solving skills : T) ขั้นที่ 4 อธิบายขยายความคิดและสรุปองค์ความรู้ (Explanation and Conclusion : E) ขั้นที่ 5 นำเสนอและประยุกต์ใช้ (Present and application : P) ขั้นที่ 6 ประเมินและสะท้อนกลับ (Evaluation and feedback : E)

ผลการหาประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 พบว่า ทุกหน่วยการเรียนมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

3. ผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนเชิงรุกเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการทำโครงงาน รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 22102 สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 ค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 33.71 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 1.77 นักเรียนมีความสามารถในการทำโครงงานหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 25.03 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 1.87 และนักเรียนมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 25.11 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 2.02

4. ผลการประเมินรูปแบบการเรียนการสอนเชิงรุกเพื่อส่งเสริมความสามารถ

ในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการทำโครงงาน รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัสวิชา ส 22102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ประเมินโดยนักเรียนพบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.15, S.D. = 0.93) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านเรียงลำดับจากมากไปน้อย ได้ดังนี้ ด้านประโยชน์ของรูปแบบการเรียนการสอนอยู่ในระดับมาก ( = 4.32, S.D. = 0.84) ด้านการวัดประเมินผลอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.27, S.D. = 0.92) ด้านกิจกรรมการเรียน การสอนอยู่ในระดับมาก ( = 4.09, S.D. = 0.94) ด้านครูผู้สอนอยู่ในระดับมาก ( = 3.96, S.D. = 0.96) ผลการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญพบว่า รูปแบบการเรียนการสอนเชิงรุก

มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี

โพสต์โดย ครูแมว : [22 ม.ค. 2562 เวลา 07:51 น.]
อ่าน [3392] ไอพี : 61.19.123.230
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,048 ครั้ง
ฮือฮา เปิดภาพลับ"สตีฟ จ็อบส์"คิดค้น"ไอแพด"ได้ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน
ฮือฮา เปิดภาพลับ"สตีฟ จ็อบส์"คิดค้น"ไอแพด"ได้ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน

เปิดอ่าน 14,751 ครั้ง
10 เคล็ดลับคลายความเหนื่อยล้า ปลุกพลังกลับมาอีกครั้ง
10 เคล็ดลับคลายความเหนื่อยล้า ปลุกพลังกลับมาอีกครั้ง

เปิดอ่าน 34,363 ครั้ง
ความหมายยันต์
ความหมายยันต์

เปิดอ่าน 16,128 ครั้ง
คู่มือ/แนวทางการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน
คู่มือ/แนวทางการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 695,875 ครั้ง
บัณฑิตน้อย "ความบ้าใบ" ของการศึกษาไทย โดย ผศ.ดร.ประภาศ ปานเจี้ยง
บัณฑิตน้อย "ความบ้าใบ" ของการศึกษาไทย โดย ผศ.ดร.ประภาศ ปานเจี้ยง

เปิดอ่าน 18,742 ครั้ง
VTR การพัฒนาครูในรูปแบบใหม่ โดยการใช้การพัฒนาอย่างครบวงจร
VTR การพัฒนาครูในรูปแบบใหม่ โดยการใช้การพัฒนาอย่างครบวงจร

เปิดอ่าน 13,787 ครั้ง
การเลือกซื้อเครื่องอิงค์เจ็ตพรินเตอร์
การเลือกซื้อเครื่องอิงค์เจ็ตพรินเตอร์

เปิดอ่าน 15,480 ครั้ง
เทคนิคซ้อนฉากหลังของหนังฮอลลีวูด เจ๋งจริงๆ
เทคนิคซ้อนฉากหลังของหนังฮอลลีวูด เจ๋งจริงๆ

เปิดอ่าน 25,489 ครั้ง
ระเบียบ ก.ค.ศ. ว่าด้วยระบบทะเบียนประวัติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2555
ระเบียบ ก.ค.ศ. ว่าด้วยระบบทะเบียนประวัติข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2555

เปิดอ่าน 14,230 ครั้ง
การบรรจุกลับเข้ารับราชการ
การบรรจุกลับเข้ารับราชการ

เปิดอ่าน 10,776 ครั้ง
ตัดวงจรเครียด...ก่อนระเบิด
ตัดวงจรเครียด...ก่อนระเบิด

เปิดอ่าน 15,562 ครั้ง
ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น
ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 13,363 ครั้ง
กินผลไม้พื้นบ้านต้านโรค
กินผลไม้พื้นบ้านต้านโรค

เปิดอ่าน 17,905 ครั้ง
การบริหารกล้ามเนื้อตา
การบริหารกล้ามเนื้อตา

เปิดอ่าน 14,842 ครั้ง
คลี่ปม "หนี้ครู" 1.2 ล้านล้านบาทมาจากไหน?
คลี่ปม "หนี้ครู" 1.2 ล้านล้านบาทมาจากไหน?

เปิดอ่าน 90,159 ครั้ง
ตัวอย่างการแต่งกายของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ
ตัวอย่างการแต่งกายของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ
เปิดอ่าน 12,401 ครั้ง
เทคโนโลยีคัดกรองตัวอ่อน ความหวังใหม่ของคนอยากมีลูก (ปลอดโรคทางพันธุกรรม)
เทคโนโลยีคัดกรองตัวอ่อน ความหวังใหม่ของคนอยากมีลูก (ปลอดโรคทางพันธุกรรม)
เปิดอ่าน 13,021 ครั้ง
ชมคลิปวิดีโอการบรรยายเรื่อง "หลักการ พ.ร.บ.Undo" โดยผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง
ชมคลิปวิดีโอการบรรยายเรื่อง "หลักการ พ.ร.บ.Undo" โดยผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง
เปิดอ่าน 11,173 ครั้ง
การจัดทำสัญญาอนุญาตให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษาต่อภายในประเทศ
การจัดทำสัญญาอนุญาตให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษาต่อภายในประเทศ
เปิดอ่าน 1,009 ครั้ง
มาตรฐาน Image Metadata
มาตรฐาน Image Metadata

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ