ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะต๋อย จังหวัดเชียงใหม่
ผู้วิจัย นางปทิตตา ไมรินทร์
ปีที่ทำการวิจัย 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินผลการดําเนินโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะต๋อย จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้การประเมินรูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน ผู้เชี่ยวชาญ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พนักงานครู และนักเรียน ตามประเด็น 4 ด้าน ได้แก่ ด้านบริบท (Context) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ด้านกระบวนการ (Process) และด้านผลผลิต (Product) แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 1) กลุ่มที่ให้ข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน จํานวน 2 คน ผู้เชี่ยวชาญ จํานวน 5 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จํานวน 15 คน และพนักงานครู จํานวน 30 คน รวม 52 คน 2) กลุ่มที่ให้ข้อมูลโดยการตอบแบบสอบถาม ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 และมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 355 คน 3) กลุ่มที่ให้ข้อมูลโดยการสนทนากลุ่ม ได้แก่ ตัวแทนนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ระดับชั้นละ 10 คน รวม 60 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสัมภาษณ์ แบบสอบถาม และแบบสนทนากลุ่ม ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง ผ่านการตรวจสอบคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และการวิเคราะห์เนื้อหาสรุปข้อความคิดเห็น (Content analysis)
ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้
1. ด้านบริบท (Context) พบว่า การประเมินความสอดคล้องของวัตถุประสงค์กับนโยบายของสำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครเชียงใหม่ ความต้องการของโรงเรียน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 นโยบายของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ นโยบายของสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย นโยบายของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และความต้องการของบุคลากรของโรงเรียนต่อการดำเนินงานโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ความคิดเห็นโดยรวม อยู่ในระดับมาก
2. ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) พบว่า การประเมินความพร้อมและความสามารถของผู้บริหาร ในการดำเนินโครงการ ความพร้อม ความเหมาะสม และความสามารถของครูผู้รับผิดชอบโครงการ ในการดำเนินโครงการ ความเพียงพอของคู่มือ วัสดุอุปกรณ์ บุคลากร และงบประมาณ ในการปฏิบัติกิจกรรมโครงการ และความเหมาะสมของระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินโครงการ ความคิดเห็นโดยรวม อยู่ในระดับมาก
3. ด้านกระบวนการ (Process) พบว่า การประเมินการควบคุมการบริหารโครงการเกี่ยวกับการวางแผนดำเนินโครงการสู่การปฏิบัติ การประชาสัมพันธ์โครงการ การติดตามประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง การกำหนดหลักเกณฑ์และระยะเวลาในการประเมินผลโครงการ การดำเนินกิจกรรมโครงการตามแผน การการดำเนินการจัดกิจกรรมในรูปแบบที่หลากหลายเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด การกำกับ ติดตาม ควบคุมการดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ การการแก้ไขปรับปรุงวิธีการดำเนินการโครงการเมื่อพบว่าบกพร่อง การประเมินผลแต่ละกิจกรรมโดยใช้เทคนิคและวิธีการที่หลากหลายครบทุกกิจกรรม เป็นระบบและ มีความต่อเนื่อง มีการเผยแพร่และขยายผลการปฏิบัติกิจกรรม ความคิดเห็นโดยรวม อยู่ในระดับมาก
4. ด้านผลผลิต (Product)
4.1 การดําเนินโครงการตามเกณฑ์มาตรฐานการประเมินโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ พบว่า ผู้บริหารโรงเรียนมีการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการในโรงเรียนที่สอดคล้องกับการดำเนินงานโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนและพนักงานครูส่งเสริมสุขศึกษา การออกกำลัง กีฬา นันทนาการแก่นักเรียน ส่งเสริมให้นักเรียนได้รับโภชนาการและอาหารที่ปลอดภัย จัดสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนที่เอื้อต่อสุขภาพอนามัยของนักเรียน พนักงานครู และบุคลากรของโรงเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้คำปรึกษา แนะนำ และช่วยเหลือ ให้การสนับสนุนทางสังคม ชุมชนรับฟังและเสนอความคิดเห็น และมีการร่วมมือระหว่างโรงเรียนและชุมชนในการดำเนินงานโครงการโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ ความคิดเห็นโดยรวม อยู่ในระดับมาก
4.2 การประเมินผลกระทบทางสุขภาพ (Health Impact Assessment : HIA)
1. ด้านการมีสุขภาพดี (ดี) นักเรียนมีจิตใจที่ดีงาม มีคุณธรรมจริยธรรม มีเหตุผลและยอมรับฟังเหตุผลผู้อื่น มีวินัยและปฏิบัติตามกฎระเบียบของสังคม มีความมั่นใจในตนเอง กล้าแสดงความคิดเห็นอย่างเหมาะสมและเคารพความคิดเห็นผู้อื่น มีความเป็นประชาธิปไตยและยอมรับฟังเสียงข้างมาก รักความเป็นไทย มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีจิตสำนึกต่อส่วนรวมร่วมสร้างสรรค์สังคม มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติ มีพฤติกรรมการออกกำลังกายสม่ำเสมอและตรวจสุขภาพประจำปี มีสุขภาพอนามัยสมบูรณ์แข็งแรง และมีการทดสอบสมรรถภาพทางกายด้วยตนเองเป็นประจำ
2. ด้านการดูแลสุขภาพ (เก่ง) นักเรียนมีสมรรถภาพในการดำเนินชีวิตตามวิถีความเป็นไทย สามารถเลือกตัดสินใจแก้ปัญหาโดยสันติวิธีหรือไม่ใช้ความรุนแรง เลือกวิธีการปรึกษาเพื่อน/พ่อ-แม่/ญาติพี่น้อง/ครูทุกครั้งที่มีปัญหา มีความสามารถใช้ทักษะชีวิตในการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง สามารถตัดสินใจเลือกวิธีการปฏิเสธทุกครั้งเมื่อถูกชักชวนให้ยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด/การพนัน/ โรคเอดส์/เพศศึกษา/การใช้ความรุนแรง รู้จักเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าถูกหลักโภชนาการและปลอดภัย ไม่รับประทานอาหารที่มีอันตรายต่อสุขภาพ มีความพร้อมในการพัฒนาศักยภาพตนเองเพื่อประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ สามารถร่วมกลุ่มเพื่อนจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพขึ้นตามแผนงานโรงเรียน และมีส่วนร่วมในการรณรงค์ป้องกันปัญหาสารเสพติด/การพนัน/โรคเอดส์/เพศศึกษา/ปัญหาความรุนแรงในโรงเรียน บ้าน และชุมชนไม่น้อยกว่าคนละ 1 กิจกรรม
3. ด้านการมีความสุข (สุข) นักเรียนมีความสุขทั้งทางร่างกายและจิตใจมีบุคลิกภาพทางกายและทางจิตที่เหมาะสมกับวัย มีสุขภาพจิตดี มีนิสัยร่าเริงแจ่มใสและมองโลกในแง่ดี มีจิตใจมั่นคง เข้มแข็ง และไม่อ่อนไหวต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มีมนุษย์สัมพันธ์ดีต่อเพื่อน ครู และผู้อื่น มีเสรีภาพและมีอิสรภาพในการจัดกิจกรรม ปลอดภัยจากสารเสพติด/การพนัน/โรคเอดส์/เพศศึกษา/การใช้ความรุนแรงและอบายมุขทั้งปวง สามารถดำรงชีวิตได้อย่างพอเพียงตามอัตภาพ สามารถตัดสินใจเลือกแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยแนวคิดเชิงบวกทุกครั้ง เป็นผู้มีประชาธิปไตยและยอมรับฟังเหตุผลผู้อื่นเสมอ และเป็นคนที่ยอมรับสภาพความเป็นจริงของชีวิต และสามารถปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้