ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
ตอบรับการเผยแพร่บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน

ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์

ผู้รายงาน เอื้องจิต ชัยชนะ ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ชำนาญการ

โรงเรียนบ้านแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ปีที่ศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ เพื่อศึกษาผลการพัฒนาทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ระหว่างการจัดกิจกรรมโดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม เพื่อศึกษาเปรียบเทียบทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมโดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม ประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็นเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 9 คน เป็นเด็กชาย 5 คน เด็กหญิง 4 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์ จำนวน 10 ชุด ชุดละ 3 กิจกรรม รวมทั้ง 30 กิจกรรม 2) แผนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 30 แผน 3) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ก่อนและหลังการจัดแผนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 4 ชุด จำนวน 20 ข้อ ประกอบด้วย ชุดที่1แบบทดสอบวัดทักษะการสังเกต 5 ข้อ ชุดที่ 2 ทักษะการจำแนก 5 ข้อชุดที่3 ทักษะการวัด 5 ข้อ และชุดที่ 4 ทักษะการลงความเห็น 5 ข้อ เก็บและรวบรวมข้อมูลโดยการรวบรวมทักษะการทดสอบก่อนการจัดกิจกรรม และทดสอบหลังการจัดกิจกรรม เมื่อจัดกิจกรรมครบ 30 กิจกรรมและรวบรวมผลการประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมช่วงสัปดาห์ จำนวน 10 ครั้ง ตามแผนการจัดประสบการณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยจำนวน 30 แผน เพื่อศึกษาผลการพัฒนาระหว่างจัดกิจกรรมและรวบรวมผลการทดสอบก่อนและหลังการจัดกิจกรรมไว้วิเคราะห์หาค่าความแตกต่างของคะแนนก่อนการจัดกิจกรรมและหลังการจัดกิจกรรม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย (ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน

ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์

ผู้รายงาน เอื้องจิต ชัยชนะ ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ชำนาญการ

โรงเรียนบ้านแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ปีที่ศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ เพื่อศึกษาผลการพัฒนาทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ระหว่างการจัดกิจกรรมโดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม เพื่อศึกษาเปรียบเทียบทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมโดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม ประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็นเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 9 คน เป็นเด็กชาย 5 คน เด็กหญิง 4 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์ จำนวน 10 ชุด ชุดละ 3 กิจกรรม รวมทั้ง 30 กิจกรรม 2) แผนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 30 แผน 3) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ก่อนและหลังการจัดแผนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 4 ชุด จำนวน 20 ข้อ ประกอบด้วย ชุดที่1แบบทดสอบวัดทักษะการสังเกต 5 ข้อ ชุดที่ 2 ทักษะการจำแนก 5 ข้อชุดที่3 ทักษะการวัด 5 ข้อ และชุดที่ 4 ทักษะการลงความเห็น 5 ข้อ เก็บและรวบรวมข้อมูลโดยการรวบรวมทักษะการทดสอบก่อนการจัดกิจกรรม และทดสอบหลังการจัดกิจกรรม เมื่อจัดกิจกรรมครบ 30 กิจกรรมและรวบรวมผลการประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมช่วงสัปดาห์ จำนวน 10 ครั้ง ตามแผนการจัดประสบการณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยจำนวน 30 แผน เพื่อศึกษาผลการพัฒนาระหว่างจัดกิจกรรมและรวบรวมผลการทดสอบก่อนและหลังการจัดกิจกรรมไว้วิเคราะห์หาค่าความแตกต่างของคะแนนก่อนการจัดกิจกรรมและหลังการจัดกิจกรรม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน () และค่า ร้อยละของความก้าวหน้า คือ ร้อยละของคะแนนที่เปลี่ยนแปลง (Precentage + Change : P.C) นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบของตารางประกอบการพรรณา

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาล ปีที่ 2 ระหว่างการจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม พบว่าทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะการวัดและทักษะการลงความเห็น ทักษะการสังเกต เริ่มสัปดาห์แรกมีการจัดกิจกรรมประเมินผล ผลการประเมินอยู่ในระดับพอใช้ 1.67, 1.55, 1.48, 1.45,1.54 ตามลำดับ จากนั้นมีการจัดกิจกรรมและประเมินผลพัฒนาการอย่างต่อเนื่องจนถึงสัปดาห์ที่ 7 ผลปรากฏว่า เด็กมีผลการพัฒนาการเพิ่มขึ้นทุกทักษะทักษะการสังเกตตั้งแต่สัปดาห์ ที่ 7-10 อยู่ในระดับดี มีพัฒนาการเพิ่มสูงสุดสัปดาห์ที่ 10 อยู่ในระดับดี (3.00) ส่วนทักษะการจำแนก มีพัฒนาการ สัปดาห์ที่ 8-10 เพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ในระดับดี (2.93) ทักษะการวัดผลการพัฒนาเพิ่มขึ้นตามลำดับและในสัปดาห์ที่ 8-10 อยู่ในระดับดีสูงสุด (2.89) ทักษะการลงความเห็น ผลการพัฒนาเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่ 8-10 เพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ในระดับดี (2.89) เด็กมีผลการพัฒนารายทักษะอยู่ในระดับดี 3.00,2.93, 2.89,2.89,/2.93 และภาพรวมสัปดาห์แรกอยู่ในระดับพอใช้ (1.54)ต่อมามีการจัดกิจกรรมและประเมินผลปรากฎว่าเด็กมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นตามลำดับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ถึงสัปดาห์ที่ 7 อยู่ในระดับพอใช้1.67,1.82,1.97,2.17,2.31,2.46ในสัปดาห์ที่ 8 ถึงสัปดาห์ที่ 10อยู่ในระดับดี 2.65,2.81,2.93 ได้ค่าคะแนนเฉลี่ย 10 สัปดาห์อยู่ที่ 2.23 อยู่ในระดับพอใช้

2. ผลการเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรม การทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม พบว่า ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะการวัดและทักษะการลงความเห็น เด็กมีคะแนนการทดสอบหลังใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ได้คะแนนเฉลี่ย 4.78, 4.22 ,4.11,4.33 และภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 4.36 มากกว่าคะแนนการทดสอบก่อนการใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ได้คะแนนเฉลี่ย 1.22, 1.11 ,1.00,1.44 และภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย1.19 แสดงว่าความแตกต่างกันระหว่างก่อนและหลังการจัดกิจกรรม 3.58,3.11,3.11,2.89 เมื่อทดสอบความก้าวหน้าด้วยค่าร้อยละ ปรากฎว่าเด็กมีผลคะแนนความก้าวหน้าทักษะการสังเกต ร้อยละ 69.40 ทักษะการจำแนก ร้อยละ 61.60 ทักษะการวัด ร้อยละ 61.40 ทักษะการลงความเห็น ร้อยละ 63.00 และภาพรวมร้อยละ63.85 ตามลำดับแสดงว่า ผลการเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เด็กมีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะการวัดและทักษะการลงความเห็นและภาพรวมสูงกว่าก่อนจัดกิจกรรม

ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน

ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์

ผู้รายงาน เอื้องจิต ชัยชนะ ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ชำนาญการ

โรงเรียนบ้านแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ปีที่ศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ เพื่อศึกษาผลการพัฒนาทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ระหว่างการจัดกิจกรรมโดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม เพื่อศึกษาเปรียบเทียบทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมโดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม ประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็นเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 9 คน เป็นเด็กชาย 5 คน เด็กหญิง 4 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์ จำนวน 10 ชุด ชุดละ 3 กิจกรรม รวมทั้ง 30 กิจกรรม 2) แผนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 30 แผน 3) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ก่อนและหลังการจัดแผนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 4 ชุด จำนวน 20 ข้อ ประกอบด้วย ชุดที่1แบบทดสอบวัดทักษะการสังเกต 5 ข้อ ชุดที่ 2 ทักษะการจำแนก 5 ข้อชุดที่3 ทักษะการวัด 5 ข้อ และชุดที่ 4 ทักษะการลงความเห็น 5 ข้อ เก็บและรวบรวมข้อมูลโดยการรวบรวมทักษะการทดสอบก่อนการจัดกิจกรรม และทดสอบหลังการจัดกิจกรรม เมื่อจัดกิจกรรมครบ 30 กิจกรรมและรวบรวมผลการประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมช่วงสัปดาห์ จำนวน 10 ครั้ง ตามแผนการจัดประสบการณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยจำนวน 30 แผน เพื่อศึกษาผลการพัฒนาระหว่างจัดกิจกรรมและรวบรวมผลการทดสอบก่อนและหลังการจัดกิจกรรมไว้วิเคราะห์หาค่าความแตกต่างของคะแนนก่อนการจัดกิจกรรมและหลังการจัดกิจกรรม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน () และค่า ร้อยละของความก้าวหน้า คือ ร้อยละของคะแนนที่เปลี่ยนแปลง (Precentage + Change : P.C) นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบของตารางประกอบการพรรณา

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาล ปีที่ 2 ระหว่างการจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม พบว่าทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะการวัดและทักษะการลงความเห็น ทักษะการสังเกต เริ่มสัปดาห์แรกมีการจัดกิจกรรมประเมินผล ผลการประเมินอยู่ในระดับพอใช้ 1.67, 1.55, 1.48, 1.45,1.54 ตามลำดับ จากนั้นมีการจัดกิจกรรมและประเมินผลพัฒนาการอย่างต่อเนื่องจนถึงสัปดาห์ที่ 7 ผลปรากฏว่า เด็กมีผลการพัฒนาการเพิ่มขึ้นทุกทักษะทักษะการสังเกตตั้งแต่สัปดาห์ ที่ 7-10 อยู่ในระดับดี มีพัฒนาการเพิ่มสูงสุดสัปดาห์ที่ 10 อยู่ในระดับดี (3.00) ส่วนทักษะการจำแนก มีพัฒนาการ สัปดาห์ที่ 8-10 เพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ในระดับดี (2.93) ทักษะการวัดผลการพัฒนาเพิ่มขึ้นตามลำดับและในสัปดาห์ที่ 8-10 อยู่ในระดับดีสูงสุด (2.89) ทักษะการลงความเห็น ผลการพัฒนาเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่ 8-10 เพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ในระดับดี (2.89) เด็กมีผลการพัฒนารายทักษะอยู่ในระดับดี 3.00,2.93, 2.89,2.89,/2.93 และภาพรวมสัปดาห์แรกอยู่ในระดับพอใช้ (1.54)ต่อมามีการจัดกิจกรรมและประเมินผลปรากฎว่าเด็กมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นตามลำดับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ถึงสัปดาห์ที่ 7 อยู่ในระดับพอใช้1.67,1.82,1.97,2.17,2.31,2.46ในสัปดาห์ที่ 8 ถึงสัปดาห์ที่ 10อยู่ในระดับดี 2.65,2.81,2.93 ได้ค่าคะแนนเฉลี่ย 10 สัปดาห์อยู่ที่ 2.23 อยู่ในระดับพอใช้

2. ผลการเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรม การทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม พบว่า ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะการวัดและทักษะการลงความเห็น เด็กมีคะแนนการทดสอบหลังใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ได้คะแนนเฉลี่ย 4.78, 4.22 ,4.11,4.33 และภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 4.36 มากกว่าคะแนนการทดสอบก่อนการใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ได้คะแนนเฉลี่ย 1.22, 1.11 ,1.00,1.44 และภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย1.19 แสดงว่าความแตกต่างกันระหว่างก่อนและหลังการจัดกิจกรรม 3.58,3.11,3.11,2.89 เมื่อทดสอบความก้าวหน้าด้วยค่าร้อยละ ปรากฎว่าเด็กมีผลคะแนนความก้าวหน้าทักษะการสังเกต ร้อยละ 69.40 ทักษะการจำแนก ร้อยละ 61.60 ทักษะการวัด ร้อยละ 61.40 ทักษะการลงความเห็น ร้อยละ 63.00 และภาพรวมร้อยละ63.85 ตามลำดับแสดงว่า ผลการเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เด็กมีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะ การวัดและทักษะการลงความเห็นและภาพรวมสูงกว่าก่อนจัดกิจกรรม

ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน

ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์

ผู้รายงาน เอื้องจิต ชัยชนะ ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ชำนาญการ

โรงเรียนบ้านแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ปีที่ศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ เพื่อศึกษาผลการพัฒนาทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ระหว่างการจัดกิจกรรมโดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม เพื่อศึกษาเปรียบเทียบทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมโดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม ประชากรที่ใช้ในการศึกษาเป็นเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 9 คน เป็นเด็กชาย 5 คน เด็กหญิง 4 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) กิจกรรมการทดลองวิทยาศาสตร์ จำนวน 10 ชุด ชุดละ 3 กิจกรรม รวมทั้ง 30 กิจกรรม 2) แผนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 30 แผน 3) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ก่อนและหลังการจัดแผนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 4 ชุด จำนวน 20 ข้อ ประกอบด้วย ชุดที่1แบบทดสอบวัดทักษะการสังเกต 5 ข้อ ชุดที่ 2 ทักษะการจำแนก 5 ข้อชุดที่3 ทักษะการวัด 5 ข้อ และชุดที่ 4 ทักษะการลงความเห็น 5 ข้อ เก็บและรวบรวมข้อมูลโดยการรวบรวมทักษะการทดสอบก่อนการจัดกิจกรรม และทดสอบหลังการจัดกิจกรรม เมื่อจัดกิจกรรมครบ 30 กิจกรรมและรวบรวมผลการประเมินระหว่างการจัดกิจกรรมช่วงสัปดาห์ จำนวน 10 ครั้ง ตามแผนการจัดประสบการณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยจำนวน 30 แผน เพื่อศึกษาผลการพัฒนาระหว่างจัดกิจกรรมและรวบรวมผลการทดสอบก่อนและหลังการจัดกิจกรรมไว้วิเคราะห์หาค่าความแตกต่างของคะแนนก่อนการจัดกิจกรรมและหลังการจัดกิจกรรม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน () และค่า ร้อยละของความก้าวหน้า คือ ร้อยละของคะแนนที่เปลี่ยนแปลง (Precentage + Change : P.C) นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบของตารางประกอบการพรรณา

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาล ปีที่ 2 ระหว่างการจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม พบว่าทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะการวัดและทักษะการลงความเห็น ทักษะการสังเกต เริ่มสัปดาห์แรกมีการจัดกิจกรรมประเมินผล ผลการประเมินอยู่ในระดับพอใช้ 1.67, 1.55, 1.48, 1.45,1.54 ตามลำดับ จากนั้นมีการจัดกิจกรรมและประเมินผลพัฒนาการอย่างต่อเนื่องจนถึงสัปดาห์ที่ 7 ผลปรากฏว่า เด็กมีผลการพัฒนาการเพิ่มขึ้นทุกทักษะทักษะการสังเกตตั้งแต่สัปดาห์ ที่ 7-10 อยู่ในระดับดี มีพัฒนาการเพิ่มสูงสุดสัปดาห์ที่ 10 อยู่ในระดับดี (3.00) ส่วนทักษะการจำแนก มีพัฒนาการ สัปดาห์ที่ 8-10 เพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ในระดับดี (2.93) ทักษะการวัดผลการพัฒนาเพิ่มขึ้นตามลำดับและในสัปดาห์ที่ 8-10 อยู่ในระดับดีสูงสุด (2.89) ทักษะการลงความเห็น ผลการพัฒนาเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่ 8-10 เพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ในระดับดี (2.89) เด็กมีผลการพัฒนารายทักษะอยู่ในระดับดี 3.00,2.93, 2.89,2.89,/2.93 และภาพรวมสัปดาห์แรกอยู่ในระดับพอใช้ (1.54)ต่อมามีการจัดกิจกรรมและประเมินผลปรากฎว่าเด็กมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นตามลำดับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ถึงสัปดาห์ที่ 7 อยู่ในระดับพอใช้1.67,1.82,1.97,2.17,2.31,2.46ในสัปดาห์ที่ 8 ถึงสัปดาห์ที่ 10อยู่ในระดับดี 2.65,2.81,2.93 ได้ค่าคะแนนเฉลี่ย 10 สัปดาห์อยู่ที่ 2.23 อยู่ในระดับพอใช้

2. ผลการเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรม การทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม พบว่า ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะการวัดและทักษะการลงความเห็น เด็กมีคะแนนการทดสอบหลังใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ได้คะแนนเฉลี่ย 4.78, 4.22 ,4.11,4.33 และภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 4.36 มากกว่าคะแนนการทดสอบก่อนการใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ได้คะแนนเฉลี่ย 1.22, 1.11 ,1.00,1.44 และภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย1.19 แสดงว่าความแตกต่างกันระหว่างก่อนและหลังการจัดกิจกรรม 3.58,3.11,3.11,2.89 เมื่อทดสอบความก้าวหน้าด้วยค่าร้อยละ ปรากฎว่าเด็กมีผลคะแนนความก้าวหน้าทักษะการสังเกต ร้อยละ 69.40 ทักษะการจำแนก ร้อยละ 61.60 ทักษะการวัด ร้อยละ 61.40 ทักษะการลงความเห็น ร้อยละ 63.00 และภาพรวมร้อยละ63.85 ตามลำดับแสดงว่า ผลการเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เด็กมีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะการวัดและทักษะการลงความเห็นและภาพรวมสูงกว่าก่อนจัดกิจกรรม (µ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (σ) และค่าร้อยละของความก้าวหน้า คือ ร้อยละของคะแนนที่เปลี่ยนแปลง (Precentage + Change : P.C) นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบของตารางประกอบการพรรณา

ผลการศึกษาพบว่า

1. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ระหว่างการจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม พบว่าทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะการวัดและทักษะการลงความเห็น ทักษะการสังเกต เริ่มสัปดาห์แรกมีการจัดกิจกรรมประเมินผล ผลการประเมินอยู่ในระดับพอใช้ 1.67, 1.55, 1.48, 1.45,1.54 ตามลำดับ จากนั้นมีการจัดกิจกรรมและประเมินผลพัฒนาการอย่างต่อเนื่องจนถึงสัปดาห์ที่ 7 ผลปรากฏว่า เด็กมีผลการพัฒนาการเพิ่มขึ้นทุกทักษะทักษะการสังเกตตั้งแต่สัปดาห์ ที่ 7-10 อยู่ในระดับดี มีพัฒนาการเพิ่มสูงสุดสัปดาห์ที่ 10 อยู่ในระดับดี (3.00) ส่วนทักษะการจำแนก มีพัฒนาการ สัปดาห์ที่ 8-10 เพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ในระดับดี (2.93) ทักษะการวัดผลการพัฒนาเพิ่มขึ้นตามลำดับและในสัปดาห์ที่ 8-10 อยู่ในระดับดีสูงสุด (2.89) ทักษะการลงความเห็น ผลการพัฒนาเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่ 8-10 เพิ่มขึ้นสูงสุดอยู่ในระดับดี (2.89) เด็กมีผลการพัฒนารายทักษะอยู่ในระดับดี 3.00,2.93, 2.89,2.89,/2.93 และภาพรวมสัปดาห์แรกอยู่ในระดับพอใช้ (1.54)ต่อมามีการจัดกิจกรรมและประเมินผลปรากฎว่าเด็กมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นตามลำดับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 ถึงสัปดาห์ที่ 7 อยู่ในระดับพอใช้1.67,1.82,1.97,2.17,2.31,2.46ในสัปดาห์ที่ 8 ถึงสัปดาห์ที่ 10อยู่ในระดับดี 2.65,2.81,2.93 ได้ค่าคะแนนเฉลี่ย 10 สัปดาห์อยู่ที่ 2.23 อยู่ในระดับพอใช้

2. ผลการเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรม การทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งรายทักษะและภาพรวม พบว่า ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะการวัดและทักษะการลงความเห็น เด็กมีคะแนนการทดสอบหลังใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ได้คะแนนเฉลี่ย 4.78, 4.22 ,4.11,4.33 และภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 4.36 มากกว่าคะแนนการทดสอบก่อนการใช้กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ได้คะแนนเฉลี่ย 1.22, 1.11 ,1.00,1.44 และภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย1.19 แสดงว่าความแตกต่างกันระหว่างก่อนและหลังการจัดกิจกรรม 3.58,3.11,3.11,2.89 เมื่อทดสอบความก้าวหน้าด้วยค่าร้อยละ ปรากฎว่าเด็กมีผลคะแนนความก้าวหน้าทักษะการสังเกต ร้อยละ 69.40 ทักษะการจำแนก ร้อยละ 61.60 ทักษะการวัด ร้อยละ 61.40 ทักษะการลงความเห็น ร้อยละ 63.00 และภาพรวมร้อยละ63.85 ตามลำดับแสดงว่า ผลการเปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เด็กมีทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนก ทักษะการวัดและทักษะการลงความเห็นและภาพรวมสูงกว่าก่อนจัดกิจกรรม

โพสต์โดย ป่าน : [28 มิ.ย. 2561 เวลา 12:31 น.]
อ่าน [3369] ไอพี : 27.145.184.64
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,413 ครั้ง
เรื่องกล้วย ๆ
เรื่องกล้วย ๆ

เปิดอ่าน 13,782 ครั้ง
คู่มือหาความสุข
คู่มือหาความสุข

เปิดอ่าน 14,714 ครั้ง
QR CODE คืออะไร
QR CODE คืออะไร

เปิดอ่าน 79,881 ครั้ง
รับชมย้อนหลังการประชุมทางไกล การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูฯ
รับชมย้อนหลังการประชุมทางไกล การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูฯ

เปิดอ่าน 22,055 ครั้ง
ตำนานคิวปิด
ตำนานคิวปิด

เปิดอ่าน 9,322 ครั้ง
ยุทธศาสตร์การกระจายอำนาจ...โรงเรียนนิติบุคคลที่มุ่งคุณภาพผู้เรียน
ยุทธศาสตร์การกระจายอำนาจ...โรงเรียนนิติบุคคลที่มุ่งคุณภาพผู้เรียน

เปิดอ่าน 19,068 ครั้ง
ฟักทองญี่ปุ่น
ฟักทองญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 5,336 ครั้ง
ตั๋วเครื่องบินไประนอง ดูโปรดี ๆ พร้อมเที่ยวบินราคาถูก
ตั๋วเครื่องบินไประนอง ดูโปรดี ๆ พร้อมเที่ยวบินราคาถูก

เปิดอ่าน 9,440 ครั้ง
ชาแบบไหน เหมาะกับคุณ
ชาแบบไหน เหมาะกับคุณ

เปิดอ่าน 23,099 ครั้ง
ปลา สัตว์มงคลนำโชคลาภ
ปลา สัตว์มงคลนำโชคลาภ

เปิดอ่าน 12,371 ครั้ง
สมาธิสั้นเทียม
สมาธิสั้นเทียม

เปิดอ่าน 8,499 ครั้ง
5เทคนิคสุขภาพดีสำหรับคุณแม่ที่ยุ่งตลอดเวลา
5เทคนิคสุขภาพดีสำหรับคุณแม่ที่ยุ่งตลอดเวลา

เปิดอ่าน 22,254 ครั้ง
ลักษณะนิ้วมือบ่งบอกอะไร?
ลักษณะนิ้วมือบ่งบอกอะไร?

เปิดอ่าน 13,094 ครั้ง
เข้าใจและยอมรับ... แล้วคุณจะมีความสุข
เข้าใจและยอมรับ... แล้วคุณจะมีความสุข

เปิดอ่าน 15,774 ครั้ง
ระวัง! ท่านอาจจะทำร้ายสมองลูกโดยไม่รู้ตัว
ระวัง! ท่านอาจจะทำร้ายสมองลูกโดยไม่รู้ตัว

เปิดอ่าน 19,812 ครั้ง
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
เปิดอ่าน 12,644 ครั้ง
การศึกษาไทย 2.0
การศึกษาไทย 2.0
เปิดอ่าน 20,939 ครั้ง
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับความฝัน ที่คุณอาจไม่เคยรู้
เปิดอ่าน 21,737 ครั้ง
คำขอมับัตรประจำตัวหรือขอบัตรประจำตัวใหม่ ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542
คำขอมับัตรประจำตัวหรือขอบัตรประจำตัวใหม่ ตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542
เปิดอ่าน 28,712 ครั้ง
ม.44 ศธ. เรื่องข่าวลือที่สร้างความเข้าใจผิด
ม.44 ศธ. เรื่องข่าวลือที่สร้างความเข้าใจผิด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ