ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่่เอื้อต่อการเรียนรุ้ของนักเรียนโรงเรียนคุรุประชานุกูล

ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน

โรงเรียนคุรุประชานุกูล อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ

ผู้รายงาน นายเกษม แซดกระโทก

ปีการศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในสถานศึกษาเป็นความจำเป็นและเป็นส่วนหนึ่ง ของการบริหารงานในโรงเรียน สภาพแวดล้อมเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญา อารมณ์และสุขภาพจิตของนักเรียน รวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในโรงเรียนนั้น เนื่องจากอาณาบริเวณอาคารเรียนและสภาพแวดล้อมของโรงเรียนต้องมีการพัฒนาในอีกหลายด้าน การศึกษารายงานการพัฒนาผลการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนคุรุประชานุกูล อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียน คุรุประชานุกุล อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ตามกรอบการศึกษาค้นคว้า 2 ด้าน คือ สภาพแวดล้อมทางกายภาพและสภาพแวดล้อมทางจิตภาพ โดยใช้หลักการวิจัยปฏิบัติการ (Action Research) ดำเนินการพัฒนาเป็น 2 วงรอบ ซึ่งแต่ละวงรอบประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ การวางแผน (Planning) การปฏิบัติ (Action) การสังเกต (Observation) และการสะท้อนผล (Reflection) กลยุทธ์ที่ใช้ในการพัฒนา ได้แก่ การประชุมระดมความคิด การทำงานแบบมีส่วนร่วมและการนิเทศแบบชี้แนะ (Coaching) กลุ่มผู้ร่วมศึกษารายงาน ประกอบด้วย ผู้รายงานซึ่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนคุรุประชานุกูล ผู้ร่วมศึกษารายงาน 27 คน รวมจำนวน 28 คน กลุ่มผู้ให้ข้อมูล จำนวน 297 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสังเกตความคิดเห็น แบบสัมภาษณ์และแบบสอบถามความพึงพอใจ การจัดกระทำและการตรวจสอบข้อมูลใช้เทคนิคการตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า (Triangulation Technique) และนำเสนอการรายงานผลเชิงพรรณนา

ผลการพัฒนา พบว่า การพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ในวงรอบที่ 1 โดยใช้กลยุทธ์การประชุมระดมความคิด การทำงานแบบมีส่วนร่วมและการนิเทศแบบชี้แนะ(Coaching) ทำให้ผู้ร่วมศึกษารายงานมีความรู้ความเข้าใจ และความตระหนักในความสำคัญของการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และสามารถดำเนินงานตามแผนได้ การดำเนินงานแบบมีส่วนร่วม ทำให้ผู้ร่วมศึกษารายงานมีส่วนร่วมในการวางแผน การดำเนินงานและการประเมินผลงานร่วมกัน จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน สามารถดำเนินการพัฒนาร่วมกับครูประจำชั้นและนักเรียน ทำให้การจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียน มีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้น ห้องเรียนสะอาด มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย วัสดุและอุปกรณ์ในการักษาความสะอาดถูกจัดเก็บไว้ได้อย่างเหมาะสม มีป้ายให้ความรู้และมีมุมค้นคว้า ทำให้ห้องเรียนมีบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ ด้านการจัดสภาพแวดล้อมภายนอกห้องเรียน หลังจากได้รับการพัฒนาบางบริเวณมีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้น มีความสะอาด ร่มรื่น สวยงาม สามารถใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ได้ แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ยังไม่บรรลุจุดมุ่งหมายของการพัฒนาเพราะครูที่ปรึกษาดูแลได้ไม่ทั่วถึง การนิเทศไม่ต่อเนื่อง นักเรียนขาดความรู้ความเข้าใจ ขาดความตระหนักในการปรับปรุงพัฒนาสภาพแวดล้อมภายนอกห้องเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ ต้องดำเนินการพัฒนาในวงรอบที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์การประชุมระดมความคิด การทำงานแบบมีส่วนร่วม และการนิเทศแบบชี้แนะ (Coaching) ให้คำปรึกษาแนะนำ กระตุ้นและให้กำลังใจ ครูที่ปรึกษาและนักเรียนมีความตระหนักเห็นความสำคัญ มีความกระตือรือร้นให้ความร่วมมือในการดำเนิน การพัฒนาการจัดและตกแต่งห้องเรียนทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน ให้เป็นระเบียบและสวยงาม ถูกสุขลักษณะของห้องเรียน คือ มีป้ายจัดนิทรรศการเพื่อการเรียนรู้ ป้ายแสดงผลงานนักเรียน และป้ายแสดงผลงานครูทั้งภายในและภายนอกห้องเรียน ป้ายประกาศต่างๆ ทำให้สภาพแวดล้อมภายนอกห้องเรียนทุกบริเวณมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงดีขึ้น บริเวณโรงเรียนมีความเป็นระเบียบ สะอาด ร่มรื่น สวยงาม สภาพแวดล้อมภายนอกห้องเรียนเอื้อต่อการเรียนรู้มากขึ้น ส่งผลให้โรงเรียนมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เป็นที่พอใจของผู้ร่วมศึกษารายงานทุกคน บรรลุความมุ่งหมายของการศึกษารายงาน

ผลการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนคุรุประชานุกูล อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ โดยสอบถามความคิดเห็นและความพึงพอใจของกลุ่มผู้ให้ข้อมูล ปรากฏผลดังนี้ สภาพแวดล้อมทางกายภาพ พบว่า โดยภาพรวม การดำเนินงานอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.54) สภาพแวดล้อมทางจิตภาพ โดยภาพรวม การดำเนินงานอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56) โดยภาพรวม ทั้งสองด้านอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.55)

โดยสรุป การพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียน โรงเรียนคุรุประชานุกูล อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ โดยใช้กลยุทธ์การประชุมระดมความคิด การทำงานแบบมีส่วนร่วม และการนิเทศแบบชี้แนะ (Coaching) ช่วยให้สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนทั้งทางกายภาพและทางจิตภาพมีบรรยากาศที่เอื้อต่อการแสวงหาความรู้ทั้งภายในห้องเรียนและภายในบริเวณโรงเรียน ส่งผลให้การพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสติปัญญานักเรียน ให้มีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ นักเรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถรวบรวมความรู้สะสมและบูรณาการความรู้เข้ากัน สร้างเป็นองค์ความรู้ นำความรู้สู่วิถีชีวิตได้อย่างมีความสุขและช่วยให้เกิดการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา จึงควรส่งเสริมสนับสนุน ให้นำกลยุทธ์ดังกล่าวไปใช้พัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของนักเรียนในโรงเรียนอื่นๆ ต่อไป

โพสต์โดย นายเกษม แซดกระโทก : [26 พ.ค. 2561 เวลา 08:28 น.]
อ่าน [3607] ไอพี : 124.121.173.16
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 6,734 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่7
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่7

เปิดอ่าน 7,315 ครั้ง
การประยุกต์สถิติในชีวิตประจำวัน
การประยุกต์สถิติในชีวิตประจำวัน

เปิดอ่าน 22,827 ครั้ง
ตัวหนังสือไทยต่างๆ นอกราชอาณาจักรไทย
ตัวหนังสือไทยต่างๆ นอกราชอาณาจักรไทย

เปิดอ่าน 8,607 ครั้ง
ประโยชน์ของการหัวเราะ
ประโยชน์ของการหัวเราะ

เปิดอ่าน 20,298 ครั้ง
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565
นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565

เปิดอ่าน 10,927 ครั้ง
มันมากับ กาแฟ ไม่ใช่คาเฟอีน!!
มันมากับ กาแฟ ไม่ใช่คาเฟอีน!!

เปิดอ่าน 47,546 ครั้ง
ทีวีดิจิทัล หรือ ทีวีดิจิตอล (Digital television)
ทีวีดิจิทัล หรือ ทีวีดิจิตอล (Digital television)

เปิดอ่าน 53,527 ครั้ง
ความหมายและความสำคัญของการเกษตร
ความหมายและความสำคัญของการเกษตร

เปิดอ่าน 11,413 ครั้ง
อยากรู้มั้ยว่าทำไม ? คนไทยถึงรักพระเจ้าแผ่นดิน
อยากรู้มั้ยว่าทำไม ? คนไทยถึงรักพระเจ้าแผ่นดิน

เปิดอ่าน 19,045 ครั้ง
ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กปัญหาคุณภาพคนรากหญ้า...สู่ปัญหาชาติ
ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กปัญหาคุณภาพคนรากหญ้า...สู่ปัญหาชาติ

เปิดอ่าน 20,269 ครั้ง
ภาษาพูด
ภาษาพูด

เปิดอ่าน 5,561 ครั้ง
วันเกิด...บอกนิสัยการทำงาน
วันเกิด...บอกนิสัยการทำงาน

เปิดอ่าน 13,024 ครั้ง
เพลงลูกเทวดา ฮอตฮิต! ถูกค้นมากสุดในปี
เพลงลูกเทวดา ฮอตฮิต! ถูกค้นมากสุดในปี '53

เปิดอ่าน 15,300 ครั้ง
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อระบบการศึกษาไทยในแบบ "รองเท้าเบอร์เดียว"
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อระบบการศึกษาไทยในแบบ "รองเท้าเบอร์เดียว"

เปิดอ่าน 14,030 ครั้ง
7 อาหารอร่อยช่วยเยียวยา
7 อาหารอร่อยช่วยเยียวยา

เปิดอ่าน 31,251 ครั้ง
“การพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ”
“การพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ”
เปิดอ่าน 12,473 ครั้ง
ประเภทของเครื่องปรับอากาศ และวิธีใช้อย่างประหยัด
ประเภทของเครื่องปรับอากาศ และวิธีใช้อย่างประหยัด
เปิดอ่าน 9,345 ครั้ง
วัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้รอดพ้นโรคร้ายได้มากถึง1ใน5
วัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยให้รอดพ้นโรคร้ายได้มากถึง1ใน5
เปิดอ่าน 50,435 ครั้ง
ยาจำพวกซัลฟา
ยาจำพวกซัลฟา
เปิดอ่าน 22,413 ครั้ง
ประวัติของทุเรียนในประเทศไทย
ประวัติของทุเรียนในประเทศไทย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ