|
|
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ในระดับมัธยมศึกษายังมีปัญหาในการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยเฉพาะ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ ซึ่งมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากรายงานสรุปผลการเรียนกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ประจำ ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนพลพัฒนาศึกษา อยู่ในระดับที่ไม่น่าพอใจ วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะเป็นเทคนิควิธีการจัดกิจกรรม การเรียนรู้วิธีหนึ่งซึ่งน่านำมาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถคิดวิเคราะห์ แยกแยะเนื้อหา นำประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องในการเรียนรู้ ดังนั้นในการศึกษาครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) หาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะเรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 2 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนพลพัฒนาศึกษา อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น จำนวน 16 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มี 3 ชนิด คือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่องอัตราส่วนและร้อยละ โดยใช้วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ จำนวน 12 แผน ใช้เวลาสอนแผนละ 2 ชั่วโมง (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.270.83 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (rcc) เท่ากับ 0.85 และ (3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีค่าอำนาจจำแนก (rxy) ตั้งแต่ 0.330.87
ค่าความเชื่อมั่น (α) ทั้งฉบับเท่ากับ 0.75 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏดังนี้
1. แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ กลุ่มสาระการเรียนคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.60/81.25
เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ กลุ่มสาระการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ มีค่าเท่ากับ 0.8991 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้คิดเป็นร้อยละ 89.91
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีความพึงพอใจ โดยรวมและและรายด้านทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้านสื่อและอุปกรณ์การเรียน และด้านสาระการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด และมีความพึงพอใจด้านการวัดและประเมินผลอยู่ในระดับมาก
โดยสรุป วิธีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสม มีกระบวนการเรียนรู้ที่ทำให้นักเรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจในบทเรียน เนื้อหาเรียงลำดับจากง่ายไปหายาก ทำความเข้าใจได้ง่าย เกิดความสนุกสนาน ได้เรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริงด้วยตนเอง จนเกิดความสำเร็จนำเสนอชิ้นงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่น จึงทำให้ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนสูงขึ้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในสาระการเรียนรู้อื่น ๆ เพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนสร้างความคิดรวบยอดและเชื่อมโยงกับความรู้เดิมที่ดี ทำให้ผู้เรียนคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น ส่งผลให้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้
|
โพสต์โดย ครูเป้ : [5 พ.ค. 2561 เวลา 09:33 น.] อ่าน [4504] ไอพี : 202.28.119.41
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 50,474 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,373 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,714 ครั้ง
| เปิดอ่าน 40,601 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,856 ครั้ง
| เปิดอ่าน 37,641 ครั้ง
| เปิดอ่าน 35,183 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,568 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,891 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,129 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,872 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,951 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,140 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,830 ครั้ง
| เปิดอ่าน 23,478 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 41,061 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,744 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,569 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,007 ครั้ง
| เปิดอ่าน 304,984 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|