บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อพัฒนาและหาคุณภาพของรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนเทศบาลวัดวรนาถบรรพต ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ แบบทดสอบวัดทักษะการคิด แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด แบบแผนการวิจัยเป็นแบบ One - Group Pretest - Posttest Design สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
การทดสอบค่าที t-test (Dependent samples) และการทดสอบค่าที t-test (One sample)
ผลการวิจัยพบว่า
1.รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า BTAKE Model โดยมีองค์ประกอบดังนี้ หลักการ วัตถุประสงค์ ระบบทางสังคม หลักการตอบสนอง ระบบที่นำมาสนับสนุน และกระบวนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 กระตุ้นสมอง (Brain stimulation : B) ขั้นที่ 2 ลองคิดให้สนุก (Thinking motivation : T) ขั้นที่ 3 ประยุกต์และสร้างสรรค์ (Adaptation and creation : A) ขั้นที่ 4 แบ่งปันความรู้ (Knowledge sharing : K) ขั้นที่ 5 มุ่งสู่การประเมิน (Evaluation : E) รูปแบบการเรียนการสอนมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด และมีค่าประสิทธิภาพ ( E1/E2) ของรูปแบบการเรียนการสอน เท่ากับ 81.90/83.11 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2.ทักษะการคิดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีทักษะการคิดหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4.ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมาก