ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวารุณีโมเดล เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวารุณีโมเดล เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่าน

คิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย รหัส ท23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ชื่อผู้รายงาน นางวารุณี ปิ่นสันเทียะ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนพระทองคำวิทยา อำเภอพระทองคำ จังหวัดนครราชสีมา

สำนักการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

ปีที่พิมพ์เผยแพร่ 2559

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวารุณีโมเดล เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย รหัส ท23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานสำหรับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวารุณีโมเดล เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย รหัส ท23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวารุณีโมเดล เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย รหัส ท23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวารุณีโมเดล เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย รหัส ท23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวารุณีโมเดล เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย รหัส ท23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน คือ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนพระทองคำวิทยา การจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย การจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ การสนทนากลุ่มของครูผู้สอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนพระทองคำวิทยา แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/3 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาผลการทดลองใช้และประเมินการจัดการเรียนรู้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียน พระทองคำวิทยา อำเภอพระทองคำ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวารุณีโมเดล เพื่อส่งเสริมทักษะ การอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย รหัส ท23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)

ผลการศึกษาพบว่า

1. ข้อมูลสภาพปัจจุบันและความต้องการในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พบว่าสภาพปัจจุบันการจัดการเรียนรู้มุ่งเน้นให้นักเรียนได้เรียนตามเนื้อหาวิชา เน้นความรู้ความจำ นักเรียนไม่เห็นคุณค่าของการอ่าน ไม่ชอบอ่านหนังสือ โดยเฉพาะเนื้อเรื่องที่มีความยาว มากเกินไป ทำให้นักเรียนเกิดความเบื่อหน่าย และส่งผลให้นักเรียนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรื่องที่อ่าน ไม่สามารถคิดวิเคราะห์เรื่องที่อ่านได้ จึงทำให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทยต่ำลง และขาดทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ ความต้องการจะต้องพัฒนาวิธีการอ่านโดยการฝึกฝนจนเกิดทักษะสร้างนิสัยให้รักการอ่านและเป็นนักอ่านที่ดีให้แก่นักเรียน ช่วยเพิ่มพูนความรู้ ความคิดและประสบการณ์จากการอ่านคิดวิเคราะห์

2. การจัดการเรียนรู้แบบวารุณีโมเดล เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย รหัส ท23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการจัดการเรียนรู้ สาระหลัก และเงื่อนไขในการนำไปใช้ โดยมีขั้นตอน 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การตั้งข้อสงสัย 2) การปรับตัวสู่การเรียนรู้ 3) การอ่านและคิดตาม 4) การสร้างความเข้าใจ 5) ต้องตั้งคำถามและอภิปราย 6) การตรวจสอบ และ 7) การประเมินผลและลงข้อสรุป เมื่อนำไปทดลองใช้กับนักเรียนแบบภาคสนาม จำนวน 40 คน พบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.06/81.92 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80

3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนจากการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวารุณีโมเดล เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย รหัส ท23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบวารุณีโมเดล เพื่อส่งเสริมทักษะ การอ่านคิดวิเคราะห์ รายวิชาภาษาไทย รหัส ท23102 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ครูน้อย : [27 ธ.ค. 2560 เวลา 08:49 น.]
อ่าน [3900] ไอพี : 223.205.234.246
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 18,452 ครั้ง
การแก้ปัญหาการศึกษาไทย คันที่หลัง อย่าไปเกาที่ขา
การแก้ปัญหาการศึกษาไทย คันที่หลัง อย่าไปเกาที่ขา

เปิดอ่าน 13,211 ครั้ง
ในปี 2561 แมชชีนเลิร์นนิ่งจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุด นับตั้งแต่โลกใบนี้มีอินเทอร์เน็ต
ในปี 2561 แมชชีนเลิร์นนิ่งจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุด นับตั้งแต่โลกใบนี้มีอินเทอร์เน็ต

เปิดอ่าน 2,979 ครั้ง
ภาพแบบ Bitmap
ภาพแบบ Bitmap

เปิดอ่าน 13,212 ครั้ง
แชร์กระจาย ฝีมือการแต่งนิทานของเด็ก 7 ขวบ ครีเอทได้น่ารักมาก
แชร์กระจาย ฝีมือการแต่งนิทานของเด็ก 7 ขวบ ครีเอทได้น่ารักมาก

เปิดอ่าน 11,655 ครั้ง
การใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ผล
การใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ผล

เปิดอ่าน 14,314 ครั้ง
วิธีการชมฝนดาวตกเจมินิดส์
วิธีการชมฝนดาวตกเจมินิดส์

เปิดอ่าน 20,163 ครั้ง
เกมส์ทําอาหาร
เกมส์ทําอาหาร

เปิดอ่าน 222,092 ครั้ง
การคำนวณอัตรากำลังข้าราชการครูโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนมัธยมศึกษา
การคำนวณอัตรากำลังข้าราชการครูโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนมัธยมศึกษา

เปิดอ่าน 20,110 ครั้ง
24 กันยายน วันมหิดล
24 กันยายน วันมหิดล

เปิดอ่าน 17,264 ครั้ง
"แก่นตะวัน" สมุนไพรที่คนไทยควรรู้จักพืชเพื่อสุขภาพ-เป็นพลังงานทดแทน
"แก่นตะวัน" สมุนไพรที่คนไทยควรรู้จักพืชเพื่อสุขภาพ-เป็นพลังงานทดแทน

เปิดอ่าน 9,551 ครั้ง
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ
โอเมก้า 3 ใน ปลา ก็มีโทษ

เปิดอ่าน 55,776 ครั้ง
ขั้นตอนการขอต่อใบอายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ขั้นตอนการขอต่อใบอายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ

เปิดอ่าน 20,040 ครั้ง
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า
7 วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายที่ทำได้จริง เหลือเงินเก็บแน่นกระเป๋า

เปิดอ่าน 26,017 ครั้ง
จิตรกรรมไทยแบบประเพณี
จิตรกรรมไทยแบบประเพณี

เปิดอ่าน 14,848 ครั้ง
ชมดอกทานตะวันบานสะพรั่ง ณ ทุ่งทานตะวัน
ชมดอกทานตะวันบานสะพรั่ง ณ ทุ่งทานตะวัน

เปิดอ่าน 10,917 ครั้ง
ชิคุนกุนยา โรคร้าย ที่มากับยุงลาย
ชิคุนกุนยา โรคร้าย ที่มากับยุงลาย
เปิดอ่าน 11,927 ครั้ง
รู้จักยัง...Hate Speech คืออะไร ? เกิดจากอะไร ? และเราจะรับมือได้อย่างไร?
รู้จักยัง...Hate Speech คืออะไร ? เกิดจากอะไร ? และเราจะรับมือได้อย่างไร?
เปิดอ่าน 12,877 ครั้ง
สร้างบ่อปลาหน้าบ้านเสริมภูมิทัศน์ "เพิ่มพลังฮวงจุ้ย"
สร้างบ่อปลาหน้าบ้านเสริมภูมิทัศน์ "เพิ่มพลังฮวงจุ้ย"
เปิดอ่าน 15,353 ครั้ง
เสียว! ผลักเพื่อนลงทะเล เกือบถูกฉลามคาบไปกิน
เสียว! ผลักเพื่อนลงทะเล เกือบถูกฉลามคาบไปกิน
เปิดอ่าน 31,106 ครั้ง
6 ประโยชน์ของการอาบน้ำที่คุณอาจยังไม่รู้
6 ประโยชน์ของการอาบน้ำที่คุณอาจยังไม่รู้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ