บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และการหารทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลไม่น้อยกว่า 0.5 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และการหารทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ใช้รูปแบบการวิจัยแบบหนึ่งกลุ่ม ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนซึ่งกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านหัวด่านนาปูน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 3 จำนวน 3 คน ได้มาโดยการเลือกตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และการหารทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 7 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการบวก การลบ การคูณ และการหารทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 40 ข้อ มีความยาก(p)อยู่ระหว่าง 0.43 0.70 ค่าอำนาจจำแนก(r) อยู่ระหว่าง 0.03- 0.87 และมีค่าความเชื่อมั่นคงของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.95 และแบบทดสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และ การหารทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ และทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ (Dependent Sampling t test) ผลการวิจัยพบว่า
1) แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และ การหารทศนิยมชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 6 มีประสิทธิภาพ (E₁/E₂) เท่ากับ 82.38/ 80.75 และค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และการหารทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 0.6262 นั่นแสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นหลังจากเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เท่ากับร้อยละ 62.62
2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และการหารทศนิยม มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่องการบวก การลบ การคูณ และการหารทศนิยม ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (¯x = 4.21,S.D.=0.40)
สรุปได้ว่า แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบ การคูณ และการหารทศนิยม ชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 6 ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น สามารถทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น จึงควรสนับสนุนให้ครูนำแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ไปใช้เป็นสื่อในการจัดการเรียนการสอนต่อไป