ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามแนวคิดท

รายงานการศึกษา การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์

ผู้ศึกษา นางสาวพรรณี กล่อมปัญญา ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ

สถานที่ศึกษา โรงเรียนพระธาตุขามแก่นพิทยาลัย ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น

ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2559

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้

คณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ 2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียน เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม โดยนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

ร้อยละ 70 ขึ้นไป

กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษา เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนพระธาตุ

ขามแก่นพิทยาลัย ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 23 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ จำนวน 15 แผนการจัดการเรียนรู้ 2) เครื่องมือที่ใช้ในการสะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบบันทึกการสังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการเรียน แบบบันทึกผลหลังการ

ใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ใบงาน และแบบทดสอบท้ายวงจร 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม การศึกษาครั้งนี้ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 วงจร การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และสรุปผลความเรียง

ผลการศึกษา พบว่า

1. การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ระบบจำนวนเต็ม ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีขั้นตอนในการจัดกิจกรรม 5 ขั้น ดังนี้ 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน เป็นการแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้โดยการให้นักเรียนหรือครูอ่านให้ฟัง และทบทวนความรู้เดิม โดยการเฉลยแบบฝึกทักษะ การเล่นเกมและการทบทวนเนื้อหาที่เป็นพื้นฐานของการเรียน 2) ขั้นสอน ประกอบด้วย (1) ขั้นเผชิญสถานการณ์ปัญหา เป็นการเผชิญสถานการณ์ปัญหาและแก้ปัญหารายบุคคลจากสถานการณ์ที่ครูกำหนดให้ (2) ขั้นไตร่ตรองทางปัญญา โดยแบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 4-5 คน แต่ละคนนำเสนอแนวคิดในการแก้ปัญหาของตนเองต่อกลุ่ม สมาชิกในกลุ่มร่วมกันพิจารณาตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดเป็นวิธีการแก้ปัญหาของกลุ่ม และบันทึกลงในใบงาน (3) ขั้นเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาของกลุ่มย่อยต่อทั้งชั้น ตัวแทนกลุ่มนำเสนอแนวทาง

การแก้ปัญหาของกลุ่มต่อชั้นเรียน

3) ขั้นสรุป นักเรียนและครูร่วมกันสรุปแนวคิด หลักการในเรื่องที่เรียน สมาชิกทุกคนอภิปรายและแสดงความคิดเห็นร่วมกันเพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสมที่สุดในการแก้ปัญหา 4) ขั้นฝึกทักษะ เป็นขั้นที่ให้นักเรียนฝึกทักษะจากแบบฝึกทักษะที่ครูสร้างขึ้น 5) ขั้นประเมิน เป็นขั้นประเมินความรู้ของนักเรียน จากการสังเกตการร่วมกิจกรรม การตรวจใบงาน และการตรวจแบบฝึกทักษะ

ผลสรุปที่ได้จากการสังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนได้ฝึกทักษะ

การคิดทักษะการทำงานกลุ่ม รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สามารถใช้ความรู้เดิมหรือประสบการณ์เดิมที่เกี่ยวข้องมาเชื่อมโยงในการแก้ปัญหาได้ มีการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันมีระเบียบวินัย และมีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย

2. ผลการทดสอบท้ายวงจรที่ 1 คะแนนเฉลี่ยทั้งชั้น 21.04 คิดเป็นร้อยละ 70.14 จำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ 17 คน คิดเป็นร้อยละ 73.91 ผลการทดสอบท้ายวงจรที่ 2 คะแนนเฉลี่ยทั้งชั้น 22.09 คิดเป็นร้อยละ 73.62 จำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ 18 คน คิดเป็นร้อยละ 78.26 ผลการทดสอบท้ายวงจรที่ 3 คะแนนเฉลี่ยทั้งชั้น 23.35 คิดเป็นร้อยละ 77.83 จำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ 19 คน คิดเป็นร้อยละ 82.61 และผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คะแนนเฉลี่ยทั้งชั้น 23.04 คิดเป็นร้อยละ 78.26 จำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์ 18 คน คิดเป็นร้อยละ 78.26

โพสต์โดย ตุ้ม : [29 ส.ค. 2560 เวลา 19:52 น.]
อ่าน [4476] ไอพี : 1.47.34.243
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 234,078 ครั้ง
การนับตัวเลข1-10(ภาษาจีน)
การนับตัวเลข1-10(ภาษาจีน)

เปิดอ่าน 16,341 ครั้ง
ประโยชน์ของโยเกิร์ต
ประโยชน์ของโยเกิร์ต

เปิดอ่าน 16,731 ครั้ง
ผลวิจัยชี้ใบสาบเสือแห้งห้ามเลือดได้ดีกว่าผ้าก๊อซ
ผลวิจัยชี้ใบสาบเสือแห้งห้ามเลือดได้ดีกว่าผ้าก๊อซ

เปิดอ่าน 13,181 ครั้ง
10 เหตุผลที่ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา
10 เหตุผลที่ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา

เปิดอ่าน 13,201 ครั้ง
เตาอบไมโครเวฟ ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ไหม
เตาอบไมโครเวฟ ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ไหม

เปิดอ่าน 18,277 ครั้ง
อาหารที่เคยคิดว่าดี แท้จริงคือตัวการทำร้ายสุขภาพ
อาหารที่เคยคิดว่าดี แท้จริงคือตัวการทำร้ายสุขภาพ

เปิดอ่าน 23,564 ครั้ง
วิธีเลือกซื้อปลาทู
วิธีเลือกซื้อปลาทู

เปิดอ่าน 10,533 ครั้ง
ดื่มน้ำอัดลม 0 แคลอรี่ ช่วยลดน้ำหนักได้ จริงหรือ? / พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล
ดื่มน้ำอัดลม 0 แคลอรี่ ช่วยลดน้ำหนักได้ จริงหรือ? / พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล

เปิดอ่าน 78,691 ครั้ง
เทคนิคการแรเงาน้ำหนัก
เทคนิคการแรเงาน้ำหนัก

เปิดอ่าน 8,321 ครั้ง
กรมอนามัย แนะ 10 วิธี ช่วยผู้สูงอายุนอนหลับดี เสริมสร้างสุขภาพที่ดี
กรมอนามัย แนะ 10 วิธี ช่วยผู้สูงอายุนอนหลับดี เสริมสร้างสุขภาพที่ดี

เปิดอ่าน 19,285 ครั้ง
เหงื่อบอกโรค
เหงื่อบอกโรค

เปิดอ่าน 11,246 ครั้ง
คุณแม่มือใหม่ดูเลย ที่ญี่ปุ่นมีโรงเรียนสอนแม่เลี้ยงลูก (รายการ ดูให้รู้)
คุณแม่มือใหม่ดูเลย ที่ญี่ปุ่นมีโรงเรียนสอนแม่เลี้ยงลูก (รายการ ดูให้รู้)

เปิดอ่าน 18,601 ครั้ง
ประติมากรรมรูปเคารพ
ประติมากรรมรูปเคารพ

เปิดอ่าน 44,588 ครั้ง
การจัดการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อแสวงหาแนวทาง ‘ปฏิรูป’ ผู้เขียน ดร.พีระพงษ์ สิทธิอมร
การจัดการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อแสวงหาแนวทาง ‘ปฏิรูป’ ผู้เขียน ดร.พีระพงษ์ สิทธิอมร

เปิดอ่าน 13,261 ครั้ง
กรุงเทพฯ กับ บางกอก
กรุงเทพฯ กับ บางกอก

เปิดอ่าน 9,649 ครั้ง
เผย"แรม"รุ่นใหม่-มาตรฐานใหม่ต้องเก็บความจำไว้ได้แม้ไม่มีไฟฟ้า
เผย"แรม"รุ่นใหม่-มาตรฐานใหม่ต้องเก็บความจำไว้ได้แม้ไม่มีไฟฟ้า
เปิดอ่าน 25,659 ครั้ง
เสริมมงคลแบบเสือ ๆ ต้อนรับปีขาล
เสริมมงคลแบบเสือ ๆ ต้อนรับปีขาล
เปิดอ่าน 54,730 ครั้ง
ประวัติ....ซานตาคลอส
ประวัติ....ซานตาคลอส
เปิดอ่าน 14,709 ครั้ง
15 วิธีกับ 15 นาที ออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา
15 วิธีกับ 15 นาที ออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา
เปิดอ่าน 10,602 ครั้ง
ทำไมเราถึงหาว รู้ไหม?
ทำไมเราถึงหาว รู้ไหม?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ