ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการนิเทศการสอน โดยใช้เครือข่ายการเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการนิเทศการสอน โดยใช้เครือข่ายการเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์

เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ของโรงเรียนในสังกัดองค์การ

บริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น

ผู้ศึกษา เทวา ตั้งวานิชกพงษ์

ปีที่ทำการศึกษา พ.ศ. 2559

สถานที่ศึกษา โรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการในการแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ของโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น 2) พัฒนารูปแบบการนิเทศการสอนโดยใช้เครือข่ายการเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์ เพื่อแก้ปัญหาการอ่าน ไม่ออกเขียนไม่ได้ ของโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น 3) ศึกษาผลของการใช้รูปแบบการนิเทศการสอนโดยใช้เครือข่ายการเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์ เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ของโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น และ 4) ประเมินและปรับปรุงการใช้รูปแบบการนิเทศการสอนโดยใช้เครือข่ายการเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์ เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ของโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น

ดำเนินการวิจัยและพัฒนา แบ่งเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษา วิเคราะห์ ข้อมูลพื้นฐาน กลุ่มเป้าหมายในการวิจัยคือ ครูภาษาไทย จำนวน 85 คน ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น จำนวน 45 คน ระยะที่ 2 การออกแบบและพัฒนารูปแบบการนิเทศการสอน (ร่าง) กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ ครูภาษาไทย จำนวน 2 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ จำนวน 20 คน ระยะที่ 3 การนำรูปแบบการนิเทศการสอนไปใช้ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ ครูภาษาไทยที่สอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 16 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีปัญหาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ จำนวน 170 คน ระยะที่ 4 การประเมินผลรูปแบบการนิเทศการสอน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ ครูภาษาไทยที่สอนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 16 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีปัญหาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ จำนวน 170 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แบบวิเคราะห์เนื้อหา 2) แบบสัมภาษณ์ 3) แบบทดสอบ 4) แบบสอบถาม 5) แบบประเมินและประเด็นการสนทนากลุ่ม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (X ̅) ค่าเฉลี่ยร้อยละ (X ̅%) ค่าเบี่ยงแบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าที (t – test dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) นำเสนอข้อมูลของการวิจัย ในลักษณะพรรณนาความ และการพรรณนาความประกอบตาราง

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน เพื่อการพัฒนารูปแบบการนิเทศการสอน โดยใช้เครือข่าย

การเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์ เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ของโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหาร

ส่วนจังหวัดขอนแก่น ด้วยวิธีการเชิงปริมาณพบว่า นโยบายของสถานศึกษา บรรยากาศขององค์กร นวัตกรรมและการใช้เทคโนโลยี และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ มีการปฏิบัติอยู่ในระดับน้อย และมีความต้องการอยู่ในระดับมาก ส่วนสภาพที่เป็นปัญหา ได้แก่ บุคลากรขาดความเข้าใจในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ และโรงเรียนขาดการกำกับติดตามนิเทศ อย่างเป็นระบบ

2. รูปแบบการนิเทศการสอน ใช้ชื่อว่า เทวาโมเดล (THEWA coaching Model) ซึ่งมี กระบวนการนิเทศ 5 ขั้น คือ 1) การฝึกอบรม และวางแผนเป็นทีมสร้างวิสัยทัศน์และผู้นำ (Training and Team planning : T) 2) การทุ่มเททำงานเต็มที่และเสริมพลังการทำงานเป็นทีมร่วมกัน (Hearting and Team empowering : H) 3) การกระตุ้นส่งเสริมสู่การศึกษาบทเรียนและการนิเทศ (Encouraging to Lesson study and Supervising : E) 4) การปฏิบัติการทำงานนิเทศติดตามและสะท้อนผล (Working out , Supervising and Reflecting :W) และ 5) การประเมินผลและปรับปรุงนำไปใช้ (Assessing and Implementing : A)

3. ผลการตรวจสอบประสิทธิภาพของรูปแบบการนิเทศการสอน โดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน พบว่า รูปแบบการนิเทศการสอนมีประสิทธิภาพ และผลจากการนำรูปแบบการนิเทศการสอนไปใช้ในโรงเรียน พบว่า ภายหลังการใช้รูปแบบการนิเทศการสอน ครูผู้สอนมีความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ สูงกว่าก่อนได้รับการนิเทศ โดยมีร้อยละของคะแนนเฉลี่ยทักษะด้านจัดการเรียนการสอนของครูเพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ หลังการใช้รูปแบบการนิเทศการสอน อยู่ในระดับสูงมาก (X ̅ = 16.47, X ̅% = 82.35) สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการนิเทศการสอน ซึ่งอยู่ในระดับต่ำ (X ̅ = 9.00, X ̅% = 45.00) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านการอ่านและการเขียน ของนักเรียนก่อนและหลังการเรียน โดยใช้รูปแบบการนิเทศการสอน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. ความพึงพอใจของครูผู้รับการนิเทศที่มีต่อรูปแบบการนิเทศการสอน โดยใช้เครือข่าย การเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์ เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ ของโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการสอนของครูภาษาไทย อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย เทวา : [22 มี.ค. 2560 เวลา 14:37 น.]
อ่าน [3815] ไอพี : 49.48.125.3
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,296 ครั้ง
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของตัวแปรปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของครูในจังหวัดนค
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของตัวแปรปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของครูในจังหวัดนค

เปิดอ่าน 14,640 ครั้ง
"SEGWAY" นวตกรรมแห่งโลกอนาคต
"SEGWAY" นวตกรรมแห่งโลกอนาคต

เปิดอ่าน 11,565 ครั้ง
"พิกุล" สรรพคุณดีกว่าที่คิด
"พิกุล" สรรพคุณดีกว่าที่คิด

เปิดอ่าน 13,599 ครั้ง
สูด "ควันบุหรี่มือสอง" แค่ 30 นาทีมีสิทธิเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
สูด "ควันบุหรี่มือสอง" แค่ 30 นาทีมีสิทธิเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ

เปิดอ่าน 20,743 ครั้ง
หลักสูตรการสอบภาค ค ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558
หลักสูตรการสอบภาค ค ครูผู้ช่วย สพฐ. ตามหนังสือ ว14/2558

เปิดอ่าน 22,693 ครั้ง
คลิปครูเต้น-รวมเพลงเด็กในตำนาน ของ ร.ร.บางมดฯ
คลิปครูเต้น-รวมเพลงเด็กในตำนาน ของ ร.ร.บางมดฯ

เปิดอ่าน 24,933 ครั้ง
นักฟิสิกส์ไทยสร้างผลงานแห่งประวัติศาสตร์ ค้นพบสูตรคำนวณฟิสิกส์ ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก
นักฟิสิกส์ไทยสร้างผลงานแห่งประวัติศาสตร์ ค้นพบสูตรคำนวณฟิสิกส์ ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก

เปิดอ่าน 20,244 ครั้ง
เกณฑ์สอบผู้บริหารสถานศึกษา ปี 2555 (ว22-ว23)
เกณฑ์สอบผู้บริหารสถานศึกษา ปี 2555 (ว22-ว23)

เปิดอ่าน 19,041 ครั้ง
ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กปัญหาคุณภาพคนรากหญ้า...สู่ปัญหาชาติ
ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กปัญหาคุณภาพคนรากหญ้า...สู่ปัญหาชาติ

เปิดอ่าน 13,494 ครั้ง
PowerPoint  ประกอบการประชุมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)
PowerPoint ประกอบการประชุมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)

เปิดอ่าน 2,975 ครั้ง
ภาพแบบ Bitmap
ภาพแบบ Bitmap

เปิดอ่าน 11,026 ครั้ง
ทบทวนระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้... ฤๅว่าจะสายเกินไป
ทบทวนระบบการประกันคุณภาพ การศึกษาของไทยเดี๋ยวนี้... ฤๅว่าจะสายเกินไป

เปิดอ่าน 83,495 ครั้ง
หลักการใช้ Verb to have
หลักการใช้ Verb to have

เปิดอ่าน 10,557 ครั้ง
วิธีแก้แบตเตอรี่ iPhone-iPad บนiOS 5.1.1 ให้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ
วิธีแก้แบตเตอรี่ iPhone-iPad บนiOS 5.1.1 ให้ใช้งานเต็มประสิทธิภาพ

เปิดอ่าน 13,625 ครั้ง
"ผลสอบ" วัดความสามารถ การทำงานได้จริงหรือ ?
"ผลสอบ" วัดความสามารถ การทำงานได้จริงหรือ ?

เปิดอ่าน 27,320 ครั้ง
จะซื้อกล้องดิจิตอล ต้องดูอะไรบ้าง
จะซื้อกล้องดิจิตอล ต้องดูอะไรบ้าง
เปิดอ่าน 1,154 ครั้ง
อยากเป็นติวเตอร์ ครูสอนพิเศษหางานสอนพิเศษที่ไหนดี?
อยากเป็นติวเตอร์ ครูสอนพิเศษหางานสอนพิเศษที่ไหนดี?
เปิดอ่าน 10,779 ครั้ง
8 ข้อปฏิบัติอยู่อย่างเป็นสุข
8 ข้อปฏิบัติอยู่อย่างเป็นสุข
เปิดอ่าน 248,108 ครั้ง
มาตรฐานวิชาชีพครู
มาตรฐานวิชาชีพครู
เปิดอ่าน 13,915 ครั้ง
แนวปฎิบัติการจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษาสำหรับโรงเรียนต้นแบบและโรงเรียนพร้อมใช้หลักสูตรแกนกลางฯ2551
แนวปฎิบัติการจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษาสำหรับโรงเรียนต้นแบบและโรงเรียนพร้อมใช้หลักสูตรแกนกลางฯ2551

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ