ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้เอกสารประกอบการเรียนที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
รายวิชาสุขศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดปริก อำเภอเทพา
จังหวัดสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3
ผู้รายงาน นางดรุณี กุลศิริ
ปีที่ศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียนวิชาสุขศึกษาที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80 /80 (E1/E2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้สุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดปริก ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนและเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนทีมีต่อเอกสารประกอบการเรียนวิชาสุขศึกษากลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดปริก
กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดปริก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 14 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย
เอกสารประกอบการเรียนวิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 4 เล่ม ได้แก่ เล่มที่ 1 การเจริญเติบโตของมนุษย์ เล่มที่ 2 ครอบครัว
สุขสันต์ เล่มที่ 3 การถูกล่วงละเมิดทางเพศ เล่มที่ 4 อาหารหลัก 5 หมู่
แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาสุขศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประกอบด้วยสาระการเรียนรู้ ได้แก่ สาระที่ 1 การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ จำนวน 5 แผน สาระที่ 2 ชีวิตและครอบครัว จำนวน 6 แผน และ สาระที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรค จำนวน 6 แผน รวม 17 แผน รวม 17 ชั่วโมง(ไม่รวมเวลาที่ใช้ในการปฐมนิเทศ การทดสอบกลางภาค การทดสอบปลายภาคเรียน/ปลายปี)
แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบ
การเรียนวิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า
5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ จำนวน 1 ฉบับและทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ( X ) , ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) , ค่าร้อยละ , ค่า t - test Dependent
สรุปผลการวิจัย
1. ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน วิชาสุขศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 81.88/85.48 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 14.57 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
( S.D) เท่ากับ 1.16 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 25.79 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D) เท่ากับ 0.89 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน สูงกว่าระหว่างเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เอกสารประกอบการเรียนวิชาสุขศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา โดยภาพรวม อยู่ในระดับ มากที่สุด