ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึก เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ
และการป้องกันโรค ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้ศึกษาค้นคว้า ภัชรินทร์ ขันติมาตร์
ปีที่วิจัย 2557
บทคัดย่อ
จากการจัดการเรียนรู้ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนบ้านสังแก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ในสภาพปัจจุบันยังประสบปัญหาคือในปีการศึกษา 2556 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา คิดเป็นร้อยละ 58.50 ซึ่งต่ำกว่า ที่โรงเรียนได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ร้อยละ 80.00 ซึ่งปัญหาดังกล่าวถ้าไม่ได้รับการแก้ไข จะส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึก เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างขึ้นที่มีประสิทธิภาพ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการเรียนโดยใช้แบบฝึก 3) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการสอนโดยใช้แบบฝึก เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อ การสอนโดยใช้แบบฝึก เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค กลุ่มสาระ การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านสังแก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 11 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แบบฝึกเรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าสร้างขึ้น จำนวน 4 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 20 แผน ใช้สอนในชั่วโมงปกติ ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 ระหว่างวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 ถึงวันที่ 26 มีนาคม 2558 เวลา 13.30 14.30 น. ใช้เวลาในการทดลอง วันละ 1 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 1 วัน รวมเวลาที่ใช้ ในการทดลองทั้งสิ้น 20 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 1 ฉบับ จำนวน 30 ข้อ และแบบทดสอบวัดความสามารถทางการเรียนท้ายแบบฝึก เป็นแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 4 ฉบับ ฉบับละ 10 ข้อ แบบทดสอบ มีค่าความยากง่าย ตั้งแต่ 0.26 ถึง 0.57 และค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.56 ถึง 0.93 ค่าความเชื่อมั่น มีค่าเท่ากับ .7210 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการสอนโดยใช้แบบฝึก เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ซึ่งมี 5 ระดับ จำนวน 1 ฉบับ จำนวน 15 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ ตั้งแต่ 1.780 ถึง 2.703 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ .725 สถิติที่ใช้ ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐาน โดยใช้สูตร t test (Dependent Samples)
สรุปผลการค้นคว้า
1. แบบฝึกเรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกันโรคและความปลอดภัย
ในชีวิต ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการ (E1)
และผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 86.27/82.12 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการสอน โดยใช้แบบฝึกเรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค เท่ากับ 0.5462 หรือคิดเป็นร้อยละ 54.62
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้แบบฝึกหลังเรียนมีคะแนนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจความพึงพอใจต่อการสอนโดยใช้แบบฝึก เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษาอยู่ในระดับมาก ( = 4.44, S.D. = .07) เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้