ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสาม

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้

แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว

ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ผู้วิจัย นางสยามนต์ บุญชิต

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียน ตระกาศประชาสามัคคี ตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

สังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

ปีที่พิมพ์ 2558

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้ แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพบริบทด้านแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น และความต้องการจำเป็นในการจัดการเรียนรู้ด้วยหลักการ ซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการ ซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 30 คน ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัย ด้านการวัดผลและประเมินผล ด้านการนิเทศ และการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 5 ท่าน เจ้าของแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น จำนวน 10 คน ครูผู้สอนวิชาภาษาไทยระดับ ชั้นมัธยมศึกษาเพื่อร่วมถอดบทเรียนในการประเมินรูปแบบการเรียนการสอน จำนวน 5 คน

ดำเนินการวิจัยโดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงพัฒนา (Research and Develop-ment) แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพบริบทด้าน แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น และความต้องการจำเป็นในการจัดการเรียนรู้ด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับ การใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการ ซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสอบถามเกี่ยวกับความพร้อมของสภาพบริบทด้านแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี จำนวน 1 ฉบับ 2) แบบสัมภาษณ์เกี่ยวกับความพร้อมของสภาพบริบทด้านแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี จำนวน 1 ฉบับ 3) แบบสอบถามความต้องการจำเป็นในการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา จำนวน 1 ฉบับ 4) รูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และเอกสารประกอบรูปแบบ 5) แบบทดสอบวัดความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว จำนวน 1 ฉบับ 6) แบบวัดความ พึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ฉบับ และ 7) แบบบันทึกการถอดบทเรียนการประเมินรูปแบบ การเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพื้นฐาน ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หาประสิทธิภาพของรูปแบบโดยใช้สูตร E1/E2 และทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดย การทดสอบที (t-test Dependence Sample) ในส่วนของข้อมูลเชิงคุณภาพผู้วิจัยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีพรรณนาวิเคราะห์ (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน เป็นการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน ที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย ผลการศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ประกอบด้วย สาระการอ่าน สาระการเขียน สาระการฟัง การดู และการพูด สาระหลักการใช้ภาษาไทย และสาระวรรณคดีและวรรณกรรม ผลการศึกษาสภาพความพร้อมของบริบทแหล่งเรียนรู้ภายในท้องถิ่นและความต้องการจำเป็นในการรู้ภาษาไทยด้วยหลักการซิปปา ได้ข้อสรุปว่า หลักการ ทฤษฎีต่าง ๆ ที่ผู้วิจัยศึกษาเพื่อใช้เป็นกรอบแนวคิดในการสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนมีความเหมาะสมสอดคล้องกับรูปแบบที่สร้างขึ้น และเมื่อศึกษาสภาพความพร้อมของบริบทแหล่งเรียนรู้ภายในท้องถิ่น โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี พบว่า แหล่งเรียนรู้มีความพร้อมและเอื้อต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนนี้ ทั้งเจ้าของแหล่งเรียนรู้ยังยินดีให้ความร่วมมือ และพร้อมอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ แก่นักเรียน นอกจากนี้ ผลการศึกษาความต้องการจำเป็นในการเรียนรู้ด้วยหลักการซิปปา พบว่า นักเรียนมีความต้องการจำเป็นในการเรียนรู้ด้วยหลักการซิปปาอยู่ในระดับมากที่สุด

2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้ แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พบว่า ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 ท่าน มีความคิดเห็นว่าทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านความเหมาะสมสอดคล้องของหลักการทฤษฎีต่าง ๆ ด้านความเป็นไปได้ของรูปแบบ และด้านความเป็นประโยชน์ของรูปแบบ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และโดยภาพรวม รูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้ แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ที่สร้างขึ้นมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (X bar = 4.64)

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้คะแนนเฉลี่ยความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวก่อนเรียนด้วยรูปแบบ เท่ากับ 23.23 และได้คะแนนเฉลี่ยความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวหลังเรียนด้วยรูปแบบ เท่ากับ 41.77 จากคะแนนเต็ม 48 คะแนน เมื่อพิจารณาผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยมีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 87.07/87.01 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80

4. ผลการประเมินรูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้วิจัยพิจารณาอยู่ 3 ประเด็น กล่าวคือ 1) ประเด็นผลผลิต คือความสามารถของนักเรียนด้านการเขียนสารคดี 2) ประเด็นความพึงพอใจของผู้ใช้รูปแบบ คือความพึงพอใจของนักเรียน และ 3) ประเด็นการนำไปใช้และพัฒนาต่อเนื่อง ศึกษาจากครูผู้สอนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 5 ท่าน พบว่า ความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนประเด็นความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนด้วยหลักการซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย อยู่ในระดับมากที่สุด (X bar = 4.59) และผลการถอดบทเรียนเพื่อประเมินรูปแบบ โดยสรุป พบว่า ครูผู้สอนภาษาไทยเห็นพ้องต้องกันว่ารูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีความเป็นประโยชน์ และเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ เหมาะกับการพัฒนานักเรียนและสามารถต่อยอด ประยุกต์ในเนื้อหาอื่น ๆ และรายวิชาอื่น ๆ ได้อย่างดี

โพสต์โดย krutee400 : [20 มี.ค. 2559 เวลา 12:50 น.]
อ่าน [4025] ไอพี : 223.205.244.3
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 19,175 ครั้ง
หลักเกณฑ์การคำนวณเงินค่าเสาเข็มฐานรากอาคารเรียนและอาคารประกอบ
หลักเกณฑ์การคำนวณเงินค่าเสาเข็มฐานรากอาคารเรียนและอาคารประกอบ

เปิดอ่าน 8,778 ครั้ง
ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ต้องเร่งแก้ไขพฤติกรรม
ลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ต้องเร่งแก้ไขพฤติกรรม

เปิดอ่าน 10,899 ครั้ง
นร.ยืน หัวดีกว่า นร.นั่งเรียนปกติ
นร.ยืน หัวดีกว่า นร.นั่งเรียนปกติ

เปิดอ่าน 12,990 ครั้ง
พระคุณแม่  (ตอนที่ 1)
พระคุณแม่ (ตอนที่ 1)

เปิดอ่าน 24,464 ครั้ง
สอนออนไลน์ง่ายขึ้นด้วยโปรแกรม ClassPoint บน PowerPoint
สอนออนไลน์ง่ายขึ้นด้วยโปรแกรม ClassPoint บน PowerPoint

เปิดอ่าน 13,920 ครั้ง
แนวทางการดำเนินงานตามนโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา อนุบาล-จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี2557
แนวทางการดำเนินงานตามนโยบายการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา อนุบาล-จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี2557

เปิดอ่าน 249,444 ครั้ง
การกล่าวแสดงความยินดี : Congratulations
การกล่าวแสดงความยินดี : Congratulations

เปิดอ่าน 12,043 ครั้ง
กลิ่นหอมหวาน ช่วยให้ทนความเจ็บปวด
กลิ่นหอมหวาน ช่วยให้ทนความเจ็บปวด

เปิดอ่าน 85,635 ครั้ง
พันธุ์ไม้ในในป่าชายเลน
พันธุ์ไม้ในในป่าชายเลน

เปิดอ่าน 37,642 ครั้ง
วิธีปลูกหอมญี่ปุ่น
วิธีปลูกหอมญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 32,183 ครั้ง
สรรพคุณของ "ปวยเล้ง"
สรรพคุณของ "ปวยเล้ง"

เปิดอ่าน 8,241 ครั้ง
ยันแก๊สโซฮอล์ ไม่ได้ก่อมลพิษฯ ทำให้เกิดมะเร็ง
ยันแก๊สโซฮอล์ ไม่ได้ก่อมลพิษฯ ทำให้เกิดมะเร็ง

เปิดอ่าน 12,278 ครั้ง
กินแบบไทย ไล่มะเร็ง
กินแบบไทย ไล่มะเร็ง

เปิดอ่าน 17,059 ครั้ง
กินช็อกโกแลต ดื่มชาและเหล้าไวน์ ช่วยบำรุงสติปัญญาได้
กินช็อกโกแลต ดื่มชาและเหล้าไวน์ ช่วยบำรุงสติปัญญาได้

เปิดอ่าน 404,273 ครั้ง
ดาวน์โหลด แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6
ดาวน์โหลด แบบฝึกเพื่อพัฒนาทักษะการคิดเลขเร็ว ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6

เปิดอ่าน 62,288 ครั้ง
เพลงประจำอาเซียน (ASEAN SONG)
เพลงประจำอาเซียน (ASEAN SONG)
เปิดอ่าน 11,642 ครั้ง
ระวัง นุ่งกางเกงคับรัดติ้ว แข้งขาเป็นเหน็บชาได้
ระวัง นุ่งกางเกงคับรัดติ้ว แข้งขาเป็นเหน็บชาได้
เปิดอ่าน 15,312 ครั้ง
พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย
พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย
เปิดอ่าน 11,590 ครั้ง
9 สถานที่ท่องเที่ยว สุดประทับใจ คุณไปมารึยัง?
9 สถานที่ท่องเที่ยว สุดประทับใจ คุณไปมารึยัง?
เปิดอ่าน 10,578 ครั้ง
ดื่มนม ช่วยป้องกันโรคอ้วน อย่างนี้ก็มีด้วย
ดื่มนม ช่วยป้องกันโรคอ้วน อย่างนี้ก็มีด้วย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ