ครูบ้านนอก

บทคัดย่อ

การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ของโรงเรียนเทศบาลวัดท้าวโคตร ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 45 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 4 ชนิด ได้แก่ 1) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นข้อสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 3) คู่มือการใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ดำเนินการวิจัยในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 20 ชั่วโมง โดยผู้วิจัยได้ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) จำนวน 30 ข้อ

แล้วจัดการเรียนรู้โดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยในระหว่างเรียนได้ให้นักเรียนทำแบบทดสอบย่อยจำนวน 6 ครั้ง จากนั้นให้นักเรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (Post-test) จำนวน 30 ข้อ และให้นักเรียนตอบแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติที่ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ ได้แก่ การหาค่าความตรงของเครื่องมือ โดยการคำนวณค่าดัชนีความสอดคล้อง (Item-Objective Congruence index: IOC) ค่าความยาก (p) ค่าอำนาจจำแนก ( r ) ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบโดยสูตร KR-20 ของคูเดอร์ริชาร์ดสัน (Kuder Richardson’s KR-20) และหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามความพึงพอใจโดยใช้สัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาค (Cronbach’s coefficient alpha) สถิติที่ใช้ในการหาประสิทธิภาพของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ใช้การหาค่า E1 และ E2 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ด้วยสถิติทดสอบ t-test แบบ dependent และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ด้วยการหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.89/83.41 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องคำกลอนสอนชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะการแต่งกลอนสุภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยมีคะแนนเฉลี่ย 4.77 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.42 อยู่ในระดับมากที่สุด

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 4,443 ครั้ง รู้ไหมว่า เวลา "ฝนตก" จึงทำให้เรา "นอนหลับ" ได้ลึกขึ้น	เปิดอ่าน 10,613 ครั้ง "เดอะ เกรท ไฟร์วอลล์" กรณีศึกษา "อินเทอร์เน็ต เกตเวย์" จากจีน	เปิดอ่าน 13,971 ครั้ง เจ๋ง! วิธีทำหน้าจอคอมฯ ให้มีแต่คนที่ใส่แว่นเท่านั้นที่เห็น
เปิดอ่าน 107,417 ครั้ง "จิ้งหรีด" เลี้ยงเล่นๆ รายได้เดือนเกือบหมื่น	เปิดอ่าน 11,758 ครั้ง 7 วิธีทำให้หน้าเด็ก	เปิดอ่าน 16,250 ครั้ง วันออกพรรษา
เปิดอ่าน 12,303 ครั้ง โรคกระดูกพรุน..ภัยเงียบที่คาดไม่ถึง	เปิดอ่าน 3,208 ครั้ง 3 อันดับทุเรียนเปลี่ยนรูปให้พลังงานสูง แนะทานให้เหมาะสมต่อร่างกาย	เปิดอ่าน 48,754 ครั้ง ฟุตปาธ-บาทวิถี : ภาษาไทยน่ารู้
เปิดอ่าน 11,468 ครั้ง สมุนไพรไม่ปลอดภัยเสมอไป	เปิดอ่าน 50,982 ครั้ง การศึกษาไทย ไปถึงไหนแล้ว?? ผู้เขียน สหัส แก้วยัง	เปิดอ่าน 13,299 ครั้ง ทั้งซาบซึ้ง-สะเทือนใจ หนูน้อย 7 ขวบสละชีวิต บริจาค"ไต"เพื่อช่วยชีวิตแม่
เปิดอ่าน 3,865 ครั้ง ธุรกิจแบบไหนควรจดสิทธิบัตรทั่วโลก หรือ PCT	เปิดอ่าน 15,496 ครั้ง ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ขอสินเชื่อใหม่ไม่ยากอย่างที่คิด	เปิดอ่าน 16,789 ครั้ง ผลวิจัย "ซุปไก่สกัด" มีผลดีต่อสมองและร่างกาย

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory