ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินผลโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์นักเรียน โรงเรียนนาทรายวิทยาคม

ชื่อเรื่อง การประเมินผลโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์นักเรียน โรงเรียนนาทรายวิทยาคม

ผู้ประเมินโครงการ นายประหยัด ปัดถาวะโร

หน่วยงาน โรงเรียนนาทรายวิทยาคม

บทคัดย่อ

รายงานการประเมินผลโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โรงเรียนนาทรายวิทยาคม ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ

1) เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์นักเรียน โรงเรียนนาทรายวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี โดยใช้ชุดกิจกรรมพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์นักเรียน

2) เพื่อเปรียบเทียบระดับพฤติกรรมก่อนและหลังการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ของนักเรียนโรงเรียนนาทรายวิทยาคม

3) เพื่อประเมินความพึงพอใจที่มีต่อโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์นักเรียนโรงเรียนนาทรายวิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี

โดยใช้รูปแบบจำลองชิปป์ (CIPP MODEL) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ครู และนักเรียนรวมทั้งสิ้นจำนวน 327 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) และแบบประเมิน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย(μ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(σ) และค่า t – test โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป

สรุปผลการประเมินโครงการ พบว่า

1. ด้านสภาวะแวดล้อม พบว่า ระดับการปฏิบัติโดยรวมทุกข้อ อยู่ในระดับการปฏิบัติ มาก

เรียงอันดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 3 อันดับแรก คือ 1)เป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล 2) โครงการสอดคล้องกับการจัดการเรียนการสอนตามแนว 3) เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์แก่นักเรียน

2. ด้านปัจจัย พบว่า ระดับการปฏิบัติโดยรวมทุกข้อ อยู่ในระดับการปฏิบัติ มาก

เรียงอันดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 3 อันดับแรก คือ1)วิทยากรมาให้การอบรมมีความรู้ความสามารถ 2) มีคณะกรรมการดำเนินการที่ชัดเจน 3) ความร่วมมือของบุคลากรในการดำเนินโครงการ

3. ด้านกระบวนการ พบว่า ระดับการปฏิบัติโดยรวมทุกข้อ อยู่ในระดับการปฏิบัติ มาก

เรียงอันดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 3 อันดับแรก คือ 1)มีการวิเคราะห์และนำผลการประเมินมาพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง 2) มีการวางแผนการดำเนินโครงการ 3) มีการนิเทศ กำกับ ติดตาม การดำเนินโครงการ

4. ด้านผลผลิต พบว่า ระดับการปฏิบัติโดยรวมทุกข้อ อยู่ในระดับการปฏิบัติ มาก

เรียงอันดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 3 อันดับแรก คือ 1)มีการวิเคราะห์และนำผลการประเมินมาพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง 2) มีการวางแผนการดำเนินโครงการ 3) มีการนิเทศ กำกับ ติดตาม การดำเนินโครงการ

4.1 ผลการประเมินโครงการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์นักเรียนก่อนการพัฒนาและหลังการพัฒนา ผลการประเมิน พบว่า

ก่อนการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับการมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์โดยรวมทุกข้อ อยู่ในระดับการปฏิบัติ ปานกลาง เมื่อพิจารณารายข้ออยู่ในระดับการปฏิบัติ ปานกลาง ทุกข้อ เรียงอันดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 3 อันดับแรก คือ 1) ด้านใฝ่เรียนรู้ 2) ด้านอยู่อย่างพอเพียง 3)ด้านซื่อสัตย์สุจริต

หลังการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับการมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์โดยรวมทุกข้อ อยู่ในระดับการปฏิบัติ มาก เมื่อพิจารณารายข้ออยู่ในระดับการปฏิบัติ มาก ทุกข้อ เรียงอันดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 3 อันดับแรก คือ 1) ด้านอยู่อย่างพอเพียง 2) ด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 3)ด้านมีจิตสาธารณะ

เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนการประเมินก่อนการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์และหลังการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้วย t – test พบค่า t = 11.36 ซึ่งมีค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 จึงอาจกล่าวได้ว่า ผลสัมฤทธิ์หลังการพัฒนาสูงกว่าก่อนการพัฒนาอย่างเชื่อมั่นได้ที่ 99% ผลของการวิเคราะห์พออนุมานได้ว่า โครงการเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์นักเรียน มีประสิทธิภาพในการเพิ่มคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนให้สูงขึ้น

5. ด้านผลกระทบ พบว่า ระดับการปฏิบัติโดยรวมทุกข้อ อยู่ในระดับการปฏิบัติ มาก

เรียงอันดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 3 อันดับแรก คือ 1)สามารถปฏิบัติตนตามลักษณะอันคุณประสงค์ 2) สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปแนะนำคนอื่น 3) สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

6. ผลการประเมินระดับความพึงพอใจต่อกิจกรรมพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก เรียงอันดับตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 3 อันดับแรก คือ 1) ครูดูแลเอาใจใส่ ในการทำกิจกรรม 2) ความรู้ที่ได้รับหลังเข้าร่วมโครงการ 3)ความเหมาะสมของลำดับขั้นตอนการจัดกิจกรรม

โพสต์โดย prayatnasai : [11 ก.พ. 2559 เวลา 12:55 น.]
อ่าน [4041] ไอพี : 1.4.170.70
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 28,131 ครั้ง
เคล็ดลับหุงข้าวอย่างมืออาชีพ
เคล็ดลับหุงข้าวอย่างมืออาชีพ

เปิดอ่าน 17,346 ครั้ง
ร่ม ประโยชน์ที่มากกว่าการกันฝน
ร่ม ประโยชน์ที่มากกว่าการกันฝน

เปิดอ่าน 15,691 ครั้ง
สรรพคุณของพืชผัก
สรรพคุณของพืชผัก

เปิดอ่าน 107,933 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการจัดข้าราชการเข้าพักอาศัยในที่พักของทางราชการ พ.ศ. 2560
หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการจัดข้าราชการเข้าพักอาศัยในที่พักของทางราชการ พ.ศ. 2560

เปิดอ่าน 35,906 ครั้ง
คิดจะซื้อ "ทีวีจอแบน" ต้องรู้อะไรบ้าง ?
คิดจะซื้อ "ทีวีจอแบน" ต้องรู้อะไรบ้าง ?

เปิดอ่าน 32,339 ครั้ง
ประวัติ วัน คริสต์มาส
ประวัติ วัน คริสต์มาส

เปิดอ่าน 24,988 ครั้ง
ส่งเครื่องมือไปพิสูจน์หลักฐานว่ามนุษย์โลกเป็น ลูกหลานดาวอังคาร
ส่งเครื่องมือไปพิสูจน์หลักฐานว่ามนุษย์โลกเป็น ลูกหลานดาวอังคาร

เปิดอ่าน 12,957 ครั้ง
วิทยาศาสตร์น่าทึ่ง ทำเองได้ที่บ้าน
วิทยาศาสตร์น่าทึ่ง ทำเองได้ที่บ้าน

เปิดอ่าน 12,860 ครั้ง
สีสันกับสุขภาพจิต
สีสันกับสุขภาพจิต

เปิดอ่าน 9,054 ครั้ง
ทำไมคนเราถึงฝัน
ทำไมคนเราถึงฝัน

เปิดอ่าน 22,324 ครั้ง
ใช้กระดาษบางๆ ทำสะพานวางแก้วน้ำได้ ทำยังไง เทคนิคดีๆ เอาไว้สอนเด็กครับ
ใช้กระดาษบางๆ ทำสะพานวางแก้วน้ำได้ ทำยังไง เทคนิคดีๆ เอาไว้สอนเด็กครับ

เปิดอ่าน 12,254 ครั้ง
3 ปัจจัย ให้ได้งานเมื่อเรียนจบ
3 ปัจจัย ให้ได้งานเมื่อเรียนจบ

เปิดอ่าน 11,847 ครั้ง
อยากอยู่ร้อยปี ต้องสร้าง 10 นิสัยสุขภาพดี
อยากอยู่ร้อยปี ต้องสร้าง 10 นิสัยสุขภาพดี

เปิดอ่าน 32,981 ครั้ง
การเต้นเป็นกลุ่มที่เรียกว่า "ฮาร์เล็ม เชค Harlem Shake" คืออะไร?
การเต้นเป็นกลุ่มที่เรียกว่า "ฮาร์เล็ม เชค Harlem Shake" คืออะไร?

เปิดอ่าน 13,055 ครั้ง
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 เมษายน 2552
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 เมษายน 2552

เปิดอ่าน 96,510 ครั้ง
การปฐมพยาบาลแผลถูกแมงป่องต่อย ตะขาบหรือแมงมุมกัด
การปฐมพยาบาลแผลถูกแมงป่องต่อย ตะขาบหรือแมงมุมกัด
เปิดอ่าน 16,618 ครั้ง
คืนครูสู่ห้องเรียน
คืนครูสู่ห้องเรียน
เปิดอ่าน 18,693 ครั้ง
เงินเดือน ผู้ว่าฯ กทม. เท่าไหร่??
เงินเดือน ผู้ว่าฯ กทม. เท่าไหร่??
เปิดอ่าน 12,395 ครั้ง
ปากเหม็น...ทำไงดี!!!
ปากเหม็น...ทำไงดี!!!
เปิดอ่าน 25,091 ครั้ง
ศาลปกครองคืออะไร
ศาลปกครองคืออะไร

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ