1. การวัดและประเมินผลในชั้นเรียน เป็นกระบวนการเก็บรวบรวม วิเคราะห์ ตีความ บันทึกข้อมูลที่ได้จากการวัดและประเมินผลแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการตลอดระยะเวลาของการจัดการเรียนการสอน ทั้งก่อนการเรียนการสอน ระหว่างการเรียนการสอน และหลังการเรียนการสอน โดยใช้เครื่องมือและวิธีการที่หลากหลาย เพื่อเป็นข้อมูลย้อนกลับ รายงานความก้าวหน้า จุดเด่น จุดที่ต้องปรับปรุงให้แก่ผู้เรียน รวมถึงวางแผนออกแบบการจัดการเรียนการสอนของครูให้การจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ
2.การตัดสินผลการเรียน สถานศึกษาสามารถกำหนดสัดส่วนคะแนนระหว่างเรียน และคะแนนปลายปีปลายภาคได้ตามความเหมาะสม
2.1 คะแนนระหว่างเรียน สถานศึกษาสามารถนำคะแนนระหว่างการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ทั้งในห้องเรียนแบบ Onsite หรือผสมผสานกับ Distance learning ในแบบต่างๆ ที่ครูผู้สอนมอบหมายให้นักเรียนปฏิบัติ เช่น การตอบคำถาม การพูดคุย การนำเสนองาน ฯลฯ ด้วยวิธีการสื่อสารหลากหลายเช่น ซูม ไลน์ เฟซบุ๊ก ฯลฯ เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุคุณภาพตามมาตรฐานและตัวชี้วัดที่หลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 กำหนด
2.2 คะแนนปลายปี หรือปลายภาคเรียน สถานศึกษาไม่จำเป็นต้องใช้ข้อสอบเพียงอย่างเดียวอาจพิจารณาจากผลงานชิ้นงาน แฟ้มสะสมงาน การสอบปากเปล่า ผ่านซูม ไลน์ เฟซบุ๊ก หรือช่องทางอื่นได้ตามความเหมาะสมตามบริบทและความพร้อมของสถานศึกษาและผู้เรียนโดยคำนึงถึงคุณภาพผู้เรียนเป็นสำคัญ
3.การสอนซ่อมเสริม กรณีที่ผู้เรียนมีความรู้ทักษะกระบวนการหรือเจตคติคุณลักษณะ ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดสถานศึกษาต้องจัดสอนซ่อมเสริมเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือจาก การสอนตามปกติเพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และพัฒนาโดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายและตอบสนอง ความแตกต่างระหว่างบุคคลเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของผู้เรียนอย่างทันท่วงที
4.เพื่อลดปัญหาของผู้เรียนในการติด 0 ร มส จึงได้กำหนดบทบาทของผู้ที่เกี่ยวข้องดังนี้
บทบาทครู
นอกจากนี้ ยังได้กำหนดบทบาทของสถานศึกษาและนักเรียน ดังนี้
บทบาทสถานศึกษา
บทบาทนักเรียน
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้เน้นย้ำให้คำนึงถึงประโยชน์ของผู้เรียนเป็นสำคัญ
โพสต์เมื่อ 18 ธ.ค. 2566 อ่าน 26658 | 0 ความเห็น
·····
·····
จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)