ก.ค.ศ.ปรับเกณฑ์การตัดสินตามหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ



การปรับเกณฑ์การตัดสินตามหลักเกณฑ์และวิธีการ
ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ 

(ว ๙ - ว ๑๑ / ๒๕๖๔)
และแนวปฏิบัติในการนำผลการประเมินที่ไม่ผ่านตามเกณฑ์การตัดสินเดิมมาพิจารณาใหม่ 

(ส่งพร้อมหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ ๐๒๐๖.๓/๖๗๙ ลงวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๖)

ตามที่ ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และตำแหน่งศึกษานิเทศก์ ตามหนังสือ สำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ ๐๒๐๖.๓/ว ๙ - ว ๑๑ ลงวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔ โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นมา และได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ ๐๒๐๖.๓/๔๕๖ ลงวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖ และ ที่ ศธ ๐๒๐๖.๓/๖๐๕ ลงวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๖ นั้น

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๙ (๔) และมาตรา ๕๔ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ ก.ค.ศ. จึงมีมติปรับเกณฑ์การตัดสินตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ และกำหนดแนวปฏิบัติในการนำ ผลการประเมินที่ไม่ผ่านตามเกณฑ์การตัดสินเดิมมาพิจารณาใหม่ ดังนี้

๑. ปรับปรุงเกณฑ์การตัดสินสำหรับการประเมินเฉพาะด้านที่ ๑ และด้านที่ ๒ ของตำแหน่งครู ตำแหน่ง ผู้บริหารสถานศึกษา และตำแหน่งศึกษานิเทศก์ ทุกวิทยฐานะ โดยกำหนดให้ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินต้องได้คะแนน แต่ละด้าน ดังนี้

ด้านที่ ๑ ต้องได้คะแนนจากกรรมการไม่น้อยกว่า ๒ ใน ๆ คน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๖๕ สำหรับ การขอมีวิทยฐานะชำนาญการ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๗๐ สำหรับการขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๗๕ สำหรับการขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ และไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๐ สำหรับการขอเลื่อนเป็น วิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ

ด้านที่ ๒ ต้องได้คะแนนจากกรรมการไม่น้อยกว่า ๒ ใน ๓ คน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๖๕ สำหรับ การขอมีวิทยฐานะชำนาญการ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๗๐ สำหรับการขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ไม่ต่ำกว่า ร้อยละ ๗๕ สำหรับการขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ และไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๐ สำหรับการขอเลื่อนเป็น วิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ

๒. กำหนดแนวปฏิบัติในการนำผลการประเมินที่ไม่ผ่านตามเกณฑ์การตัดสินเดิมมาพิจารณาใหม่ ดังนี้

๒.๑ กรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือส่วนราชการได้แจ้งมติไม่อนุมัติไปแล้ว ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือส่วนราชการทบทวนผลการประเมินดังกล่าวตามเกณฑ์การตัดสินใหม่ แล้วแจ้ง สำนักงาน ก.ค.ศ. เฉพาะกรณีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์การตัดสินใหม่ เพื่อปรับปรุงข้อมูลผลการประเมิน ในระบบ DPA ให้สอดคล้องกับเกณฑ์การตัดสินใหม่ และเสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

๒.๒ กรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือส่วนราชการยังมิได้นำเสนอผลการประเมิน ที่ไม่ผ่านตามเกณฑ์การตัดสินเดิมต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ ที่ ก.ค.ศ ตั้ง ให้ทบทวนผลการประเมินตามเกณฑ์การตัดสินใหม่ แล้วให้นำเสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาต่อไป


ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊คสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
 

 

ดาวน์โหลดไฟล์แนบ

ที่มา สำนักงาน ก.ค.ศ.

 

 

โพสต์เมื่อ 29 เม.ย. 2566 อ่าน 23925 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


สพฐ.ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) [อ่าน 193]
ก.ค.ศ.เห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา [อ่าน 2732]
ก.ค.ศ.เห็นชอบปรับปรุงการเข้าสู่ตำแหน่ง สายงานบริหารสถานศึกษาและบริหารการศึกษา ควรต้องผ่านการเป็นรองผู้อำนวยการฯ มาก่อน และควรมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าชำนาญการพิเศษ [อ่าน 1089]
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 9/2567 เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2567 [อ่าน 5699]
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 2441]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)