"เลขาฯ กพฐ." มอบนโยบาย ผอ.สพท.ทั่วประเทศ ทิศทางสู่การปฏิบัติ



วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ในการประชุมสัมมนาผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ทั่วประเทศ ครั้งที่ 1/2564 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2564 ณ โรงแรมเดอะวัน จังหวัดบึงกาฬ นายอัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ. ได้มอบทิศทางการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ โดยให้นโยบายที่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้องนำไปขับเคลื่อน ดังนี้

1. การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์โควิด 19 ที่ฝากให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง นักเรียน ให้มีความเข้าใจในเรื่องการปรับการเรียนการสอนในสถานการณ์โควิด 19 ทั้งเรื่องการปรับชั่วโมงเรียน การยกเลิกการใช้คะแนน O-NET รวมทั้งขอให้แต่ละเขตพื้นที่การศึกษาได้จัดทำแผนที่จะดำเนินการเปิดเรียน on-site ยึดพื้นที่จังหวัด อำเภอ ตำบล เป็นฐาน โดยต้องพิจารณาดำเนินการให้ครบถ้วนทุกกระบวนการตามคู่มือที่ สพฐ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์ซึ่งเป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข สำหรับกรณีที่โรงเรียนเปิดเรียน on-site แล้ว ขอให้ดูความสมัครใจของผู้ปกครองและนักเรียนที่จะมาเรียน ซึ่งหากผู้ปกครองยังไม่เชื่อมั่น โรงเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานเพื่อให้นักเรียนได้เรียนครบทุกคน

สำหรับกรณีการใช้ชุดตรวจ ATK ขอให้ประสานกับอนามัยหรือหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้มีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้เข้ามาตรวจสอบคัดกรอง มีความห่วงใยและไม่อยากให้รับบริจาคชุดตรวจ ATK มาใช้ในการคัดกรอง และยังคงต้องดำเนินการตามมาตรการไทยเซฟไทย ทั้งนี้ การเปิด on-site ควรเน้นไปที่โรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ในชุมชนขนาดเล็ก สำหรับโรงเรียนขนาดใหญ่ให้พิจารณาจัดการเรียนการสอนได้หลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องเปิด on-site ทั้งโรงเรียน

2. การบริหารการจัดการศึกษาโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน ใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อน ขอให้ดำเนินการแบบมีส่วนร่วม ใช้นวัตกรรมที่มีอยู่ โดยให้ประธานคลัสเตอร์ร่วมดำเนินการ โดยใช้นวัตกรรมที่มีอยู่ และเป็นผู้ประสานการทำงาน ซึ่งต้องมิใช่การบังคับบัญชา ทั้งนี้ การทำงานในแต่ละพื้นที่ให้มีการประสานงานระดับจังหวัดด้วย ในรายละเอียดการดำเนินการอาจแตกต่างกันได้ แต่ขอให้มีหลักการเดียวกัน

สำหรับการขับเคลื่อน สพฐ. ได้ออกแบบองค์ประกอบของการดำเนินงานไว้แล้ว ขอให้ทุกเขตพื้นที่การศึกษาได้ศึกษา และใช้กลไกการทำงานที่มีการประกันคุณภาพและมีการควบคุมคุณภาพ

3. นโยบายเรื่องความปลอดภัย/โอกาสและการลดความเหลื่อมล้ำ/คุณภาพ และประสิทธิภาพ

3.1 ความปลอดภัย มีเป้าหมายที่ต้องดำเนินการเฝ้าระวังจากโรคภัยต่าง ๆ โดยยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องโควิด 19 ภัยจากเทคโนโลยี ภัยจากภัยพิบัติ (อุทกภัย) และภัยจากยาเสพติด โดยขอให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีมาตรการที่เข้มงวด

3.2 การสร้างโอกาสและการลดความเหลื่อมล้ำ ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้ไปติดตาม ค้นหา จากการจ่ายเงิน 2,000 บาท ในกลุ่มเด็ก 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ไม่สามารถจ่ายเงิน 2,000 บาทได้ ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กตกหล่นหรือออกกลางคันหรือไม่ ให้ติดตามช่วยเหลือให้กลับเข้าสู่ระบบ โดยให้วางแนวทางค้นหาติดตามว่าเด็กอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร และจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไร สำหรับกลุ่มที่มารับเงิน 2,000 บาท แต่มีความยากลำบาก ก็ให้วางแนวทางช่วยเหลือว่าต้องดำเนินการอย่างไร

3.3 คุณภาพ มุ่งหวังให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประกาศเป็นนโยบายของเขตพื้นที่ ในเรื่องของการอ่านออกเขียนได้ รักการอ่าน คิดเลขเป็น โดยเฉพาะในระดับชั้น ป.1 ป.2 และป.3 ซึ่งหากเด็กอ่านออกเขียนได้ รักการอ่าน จะทำให้สามารถเรียนรู้วิชาอื่นได้ และค้นพบความชอบความถนัดของตัวเอง นอกจากนี้ยังได้ฝากเรื่องการคิดคำนวณ ขอให้บูรณาการเรียนการสอนให้ตรงกับการใช้ชีวิตประจำวัน สถานการณ์โควิด 19 ถึงแม้ว่าเป็นวิกฤตแต่ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่จะทำให้การคิดเป็นทำเป็น แก้ปัญหาเป็น ไปพร้อมกับการสร้างแรงบันดาลใจ ด้วยการนำเอาปัญหาที่เกิดในหมู่บ้าน ในชีวิตประจำวันมาให้เด็กได้ฝึกแก้ปัญหา ซึ่งถือเป็นการเรียนการสอนแบบ active learning โดยการสร้างแรงบันดาลใจ จะทำให้เด็กประสบความสำเร็จ การสร้างแรงบันดาลใจที่ดีที่สุด คือ ตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอน เรื่องของ 1 กีฬา 1 ดนตรี 1 อาชีพ จะทำให้เด็กมีรายได้ สร้างพื้นฐาน รวมทั้งเรื่องของระเบียบวินัย ความรับผิดชอบมีจิตอาสา กตัญญู ขอฝากให้ทุกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้ความสำคัญด้วย

3.4 ประสิทธิภาพ ขอให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสังเคราะห์โรงเรียนในสังกัด ว่าอยู่ในโครงการใดบ้าง ซ้ำกันอย่างไร จริง ๆ แล้วมีโรงเรียนที่มีคุณภาพจำนวนเท่าใด จากนั้นขอให้ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้เกิดโรงเรียนคุณภาพ จำนวนกี่โรงเรียน และจะเริ่มจากโรงเรียนใดก่อน โดยกำหนดให้มีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน หลีกเลี่ยงการพูดถึงการควบรวมโรงเรียนเนื่องจากอาจไม่ได้รับความร่วมมือจากชุมชน ขอให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปักหมดทำ timeline การพัฒนาโรงเรียนคุณภาพ ในสังกัด

จะทำอย่างไรให้โรงเรียนในสังกัดมีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน โดยประสานความร่วมมือกับท้องถิ่น เขตต้องกระตุ้นให้โรงเรียนหรือ เครือข่ายโรงเรียน ร่วมมือกับชุมชน ท้องถิ่นอย่างไร แสวงหาความมีส่วนร่วม ปักหมุดให้ชัดเจน โดยเฉพาะงบประมาณที่จะลงกลุ่มโรงเรียนคุณภาพ (โรงเรียนมัธยมคุณภาพ โรงเรียนประถมศึกษาคุณภาพ โรงเรียน Stand Alone และโรงเรียนสู่ความเป็นเลิศ) เมื่องบประมาณจัดสรรลงไปเพื่อพัฒนากายภาพแล้ว ให้ยกระดับคุณภาพ โมเดลจึงจะประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ในเรื่องของผู้บริหารโรงเรียน การโยกย้าย กระบวนการพิจารณาส่วนใหญ่อยู่ที่ผู้อำนวยการสำนักงานขตพื้นที่การศึกษา โดยผู้อำนวยการสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาเป็นผู้เสนอ มีการประเมินที่เป็นแบบเดียวกัน มีการกำหนดตัวชี้วัดให้ชัดเจน ต้องการให้ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นอย่างไร เมื่อผู้อำนวยการโรงเรียนได้ตัวชี้วัดจากผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ก็จะไปกำหนดตัวชี้วัดกับครู เมื่อครูสามารถทำได้ตามตัวชี้วัดที่กำหนดได้ มีผลทำให้ผู้อำนวยการโรงเรียนได้ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้ ดังนั้นผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จึงต้องไปวางระบบ/ออกแบบ เรื่องประสิทธิภาพเป็นตัวนำก่อน ก็จะทำให้เรื่องปลอดภัย โอกาส คุณภาพ เกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพตามมา

 

ที่มา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

 

 

โพสต์เมื่อ 12 พ.ย. 2564 อ่าน 5106 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 แผนงานบุคลากรภาครัฐ งบบุคลากร และงบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างพนักงานราชการ (ครั้งที่ 1) [อ่าน 1413]
ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 6450 การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างอัตราจ้างครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน ครั้งที่ 1 [อ่าน 879]
แนวทางการดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ [อ่าน 1244]
สพฐ.ข้อมูลเพื่อการบริหารงานบุคคลตำแหน่ง ผอ. สพท. [อ่าน 1493]
ซักซ้อมการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 3711]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)