ครูต้องรู้! คลอดมาตรการแก้หนี้ครู ออกกฎเหล็กคุมวินัย เงินในบัญชีต้องเหลือ 30%



ศธ. คลอดมาตรการแก้ไขปัญหา "หนี้ครู" พร้อมตั้งคณะกรรมการควบคุมการกู้เงินของครู จะไม่ได้ไปสร้างหนี้ซ้ำซ้อนอีก

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. นายสุทธิชัย จรูญเนตร ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ในฐานประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาหนี้สินครูของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครูที่มี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้ครู ซึ่งเริ่มตั้งแต่การลดดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก การลดยอดหนี้ด้วยหุ้นสหกรณ์ หรือการนำเงินสะสมในอนาคตจากจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือเงินโครงการสวัสดิการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ไปลดยอดหนี้ นอกจากนี้ยังมีมาตรการงดการจ่ายค่าธรรมเนียมเงินกู้ เช่น เมื่อผู้กู้ต้องไปทำเงินประกันเงินกู้ ซึ่งกรณีนี้ผู้กู้ส่วนใหญ่จะมีหุ้นอยู่กับสหรกรณ์ออมทรัพย์ครูอยู่แล้ว หรือแม้แต่การมีเงินจากกองทุนสะสมต่างๆ ที่เงินในอนาคต สามารถนำมาค้ำประกันได้จึงไม่จำเป็นให้ผู้กู้ต้องไปทำประกันเงินกู้ เพื่อสร้างภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมไปอีก ซึ่งจะมีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู (สกสค.) ในการแก้ไขประเด็นนี้ด้วย

ที่ปรึกษา รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการควบคุมการกู้เงินของครู เนื่องจากปัจจุบันพบครูมีหนี้จำนวนมาก และไม่มีการควบคุมการปล่อยกู้ให้แก่ครูอย่างเป็นระบบ ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อครูไปกู้เงินสถาบันการเงินจะเห็นแค่ใบรับรองเงินเดือน แต่ไม่ได้มีข้อมูลระบุว่าครูไปกู้เงินจากสถาบันการเงินที่ไหนบ้าง และจะต้องมีศักยภาพกู้เพิ่มได้อีกเท่าไร่ ดังนั้นต่อจากนี้ไปหากครูมีความประสงค์จะไปกู้เงินอีก จะมีคณะกรรมการเข้ามาควบคุม โดยจะทำงานร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถาบันการเงิน ซึ่งครูที่ต้องการจะกู้เงินจะต้องมีเงินเดือนเหลือในบัญชีไม่น้อยกว่า 30% ด้วย สำหรับกรณีการคัดเลือกสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 19 แห่งให้นำร่องแก้หนี้ครูนั้น ขณะนี้มอบหมายให้สกรณ์กลุ่มดังกล่าวไปเขียนแผนเสนอแนวทางมาว่าในมาตรการต่างๆ ที่ ศธ.กำหนดจะเลือกดำเนินการมาตรการไหนได้บ้าง เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเห็นผลเป็นรูปธรรมได้ทันที

“การประชุมในครั้งนี้ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง กรมส่งเสริมการเกษตร สกสค. ไปทำการบ้านกลับมาว่าในมาตรการต่างๆ จะดำเนินการสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน เพราะ รมว.ศึกษาธิการ ได้ย้ำให้ทำมาตรการให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งมาตรการไหนที่ทำได้ให้นำร่องทำไปก่อน เช่น มาตรการลดดอกเบี้ย เป็นต้น เพราะการแก้ปัญหาหนี้ครูเราจะแบ่งตามกลุ่มเป้าหมายตามระดับวิกฤตของหนี้ครู” นายสุทธิชัย กล่าว

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564

#showads

เล็งลดดอกเบี้ยแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โละไม่ต้องทำประกันเงินต้น

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. นายสุทธิชัย จรูญเนตร ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะทำงาน แก้ไขปัญหาหนี้สินครูของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครูที่มี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ.เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้ครู เริ่มตั้งแต่การลดดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก การลดยอดหนี้ด้วยหุ้นสหกรณ์ หรือการนำเงินสะสมในอนาคตจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือเงินโครงการสวัสดิการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ไปลดยอดหนี้เงินต้น

นอกจากนี้ยังมีมาตรการงดการจ่ายค่าธรรมเนียมเงินกู้ รวมถึงการยกเว้นการทำประกันเงินกู้ เนื่องจากผู้กู้ส่วนใหญ่จะมีหุ้นอยู่กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอยู่แล้ว หรือแม้แต่การมีเงินจากกองทุนสะสมต่างๆที่เป็นเงินในอนาคต สามารถนำมาค้ำประกันได้จึงไม่จำเป็นต้องให้ผู้กู้ไปทำประกันเงินกู้ ที่กลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก ซึ่งจะมีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู (สกสค.) ในการแก้ไขประเด็นนี้ด้วย

ที่ปรึกษา รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการควบคุมการกู้เงินของครู เนื่องจากปัจจุบันพบครูมีหนี้จำนวนมาก และไม่มีการควบคุมการปล่อยกู้ให้แก่ครูอย่างเป็นระบบ โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะทำงานร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถาบันการเงิน ซึ่งครูที่จะกู้เงินจะต้องมีเงินเดือนเหลือในบัญชีไม่น้อยกว่า 30%

“การประชุมในครั้งนี้ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง กรมส่งเสริม การเกษตร สกสค.ไปทำการบ้านกลับมาว่า ในมาตรการต่างๆจะดำเนินการสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน เพราะ รมว.ศึกษาธิการ ได้ย้ำให้ทำมาตรการให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งมาตรการไหนที่ทำได้ให้นำร่องทำไปก่อน เช่น มาตรการลดดอกเบี้ย เป็นต้น เพราะการแก้ปัญหาหนี้ครูเราจะแบ่งตามกลุ่มเป้าหมาย ตามระดับวิกฤติของหนี้ครู” นายสุทธิชัยกล่าว.


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก ไทยรัฐ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564

  

โพสต์เมื่อ 9 พ.ย. 2564 อ่าน 6865 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 แผนงานบุคลากรภาครัฐ งบบุคลากร และงบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างพนักงานราชการ (ครั้งที่ 1) [อ่าน 1413]
ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 6450 การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างอัตราจ้างครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน ครั้งที่ 1 [อ่าน 879]
แนวทางการดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ [อ่าน 1243]
สพฐ.ข้อมูลเพื่อการบริหารงานบุคคลตำแหน่ง ผอ. สพท. [อ่าน 1493]
ซักซ้อมการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 3711]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)