ปธ.กพฐ.ชี้รร.ดัง ควรเปิดโอกาสให้เด็กรร.อื่นร่วมเรียนออนไลน์ด้วย



ประธานบอร์ดกพฐ. ถก รับมือเปิดเรียน 14 มิ.ย.ยึดการเรียน 5 รูปแบบตามสภาพพื้นที่การควบคุมของศบค.จังหวัด แนะ ประสานกสทช.สำรวจความต้องการนักเรียนขอทีวีให้เด็กเรียนผ่านช่องดีแอลทีวี

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกพฐ.ว่า  ที่ประชุมได้หารือถึงการจัดการเรียนการสอนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งจะมีการเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 อย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ โดยการเปิดภาคเรียนดังกล่าวจะยึดการเรียนการสอน 5 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบการเรียน On-site เรียนที่โรงเรียน โดยมีมาตรการเฝ้าระวังตามประกาศของ ศบค. On-air เรียนผ่าน DLTV On-demand เรียนผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ On-line เรียนผ่านอินเทอร์เน็ต และ On-hand เรียนที่บ้านด้วยเอกสาร แต่ในพื้นที่สีแดงเข้มจะไม่สามารถจัดการเรียนแบบ On-site ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นโรงเรียนสามารถเลือกรูปแบบการเรียนดังกล่าวให้เหมะสมกับสภาพพื้นที่ตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จังหวัดกำหนด
           
ประธานกพฐ.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ในส่วนของโรงเรียนที่เรียนผ่านรูปแบบ On-air ของโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมนั้นที่ประชุมมีข้อเสนอให้ใช้เงินจากกองทุนเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาของศธ.มาช่วยดำเนินการ เพราะบางครอบครัวอาจมีโทรทัศน์หรือมีลูกเรียนคนละชั้น  รวมถึงการขอรับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดสรรโทรทัศน์ให้แก่นักเรียนด้วยการสำรวจความต้องการของนักเรียนว่าต้องการจำนวนโทรทัศน์กี่เครื่องถึงเพียงพอต่อการเรียนในรูปแบบ On-air นอกจากนี้อยากให้การเรียนในรูปแบบ On-line ได้ให้เด็กโรงเรียนอื่นๆได้เข้ามาร่วมเรียนกับห้องเรียนของโรงเรียนดังๆด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการปิดกั้นโอกาสทางการศึกษาของเด็ก รวมถึงการเรียนใน 5 รูปแบบดังกล่าวจะต้องมีการประเมินผลสัมฤทธิ์ด้วยว่ารูปแบบใดตอบโจทย์การเรียนของเด็กมากที่สุด เพื่อจะได้ส่งเสริมการเรียนรูปแบบนั้นได้อย่างเต็มที่
           
“สำหรับการวัดและประเมินในการเรียนยุคโควิดจะมีวิธีการอย่างไรนั้น ผมเห็นว่าเราไม่ควรมองที่ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน แต่ให้มองวิธีการจัดการเรียนการสอนมากกว่าว่าเด็กได้รับประโยชน์จากการเรียนใน 5 รูปแบบใดมากที่สุด ซึ่งครูต้องมีการปรับวิธีการของสอนรูปแบบใหม่ๆด้วย เพราะแม้จะหมดวิกฤตโควิดไปแล้ว แต่เชื่อว่ารูปแบบการเรียนรู้ของเด็กจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน ทั้งนี้การวัดและประเมินผลหากเลื่อนชั้นอัตโนมัตินั้น ผมมองว่าจะต้องให้ครูผู้สอนเลื่อนสอนตามเด็กไปด้วย เช่น เด็กป.1 เลื่อนชั้นขึ้นป.2 ครูที่สอนเด็กป.1 จะต้องเลื่อนสอนตามเด็กคนเดิมไปด้วย เพราะครูผู้สอนจะรู้ว่าเด็กของตัวเองเก่งหรือด้อยจุดไหน เป็นต้น” รศ.ดร.เอกชัย กล่าว.

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564 

โพสต์เมื่อ 11 มิ.ย. 2564 อ่าน 5770 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


สพฐ.ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) [อ่าน 193]
ก.ค.ศ.เห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา [อ่าน 2730]
ก.ค.ศ.เห็นชอบปรับปรุงการเข้าสู่ตำแหน่ง สายงานบริหารสถานศึกษาและบริหารการศึกษา ควรต้องผ่านการเป็นรองผู้อำนวยการฯ มาก่อน และควรมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าชำนาญการพิเศษ [อ่าน 1089]
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 9/2567 เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2567 [อ่าน 5687]
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 2438]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)