ก.ค.ศ.ปลดล็อกย้ายผู้บริหารโรงเรียนขนาดกลางขึ้นขนาดใหญ่พิเศษ ได้



เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2563 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการวิสามัญเกี่ยวกับการพัฒนานโยบายและระบบบริหารงานบุคคล ที่มี ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เป็นประธาน ได้ หารือ กรณีการโยกย้ายผู้บริหารสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปี 2563 ซึ่งกำหนดให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 25 ตุลาคม 2563 ทั้งนี้ตามหลักหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา ว6/2563 ซึ่งประกาศใช้เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา โดยในหลักเกณฑ์ให้อำนาจส่วนราชการไปกำหนดจำนวนนักเรียนตามขนาดสถานศึกษา โดยให้เป็นไปตามบริบทของพื้นที่ ซึ่งสพฐ.ได้กำหนดขนาดตามจำนวนนักเรียนใหม่ ประกาศเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ดังนี้ โรงเรียนขนาดเล็ก 359 คนลงมา ขนาดกลาง มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 360-1,079 คน ขนาดใหญ่ 1,080-1,679 คน และขนาดใหญ่พิเศษ 1,680 คนขึ้นไป

"ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องเกณฑ์การย้ายผู้บริหารสถานศึกษา แต่ปัญหาในการย้ายครั้งนี้ คือ โรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ ซึ่งสพฐ.ได้ลดขนาดจำนวนนักเรียนลงอยู่ที่ 1,680 คน จากเดิมประมาณ 2,500 คนขึ้นไป ทำให้โรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษและโรงเรียนขนาดเล็กเพิ่มขึ้น ขณะที่ โรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่ลดลง บางจังหวัด ไม่มีโรงเรียนขนาดกลางและขนาดใหญ่เหลืออยู่เลย ทำให้ไม่มีผู้มีคุณสมบัติย้ายมาโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษได้ เพราะ ตามหลักเกณฑ์กำหนดให้ย้ายไล่ตามขนาดของโรงเรียน คือ ย้ายโรงเรียนในขนาดเดียวกัน ย้ายขนาดเล็กไปกลาง ขนาดกลางไปใหญ่ และขนาดใหญ่ไปใหญ่พิเศษ เพื่อป้องกันการวิ่งเต้น" รศ.ดร.ประวิต กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้หารือเรื่องดังกล่าว และมีมติว่า หากคณะกรรมการศึกษาธิการ (กศจ.)ใดมีปัญหาไม่สามารถย้ายได้ โดยเฉพาะข้อขัดข้องที่เกิดจากประกาศของ สพฐ. ที่ให้มีการกำหนดขนาดตามจำนวนนักเรียนใหม่ ให้หารือมายังก.ค.ศ. เพื่อนำประเด็นเข้าหารือเข้าที่ประชุมก.ค.ศ. ที่มีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน พิจารณา เป็นกรณีไป ส่วนสพฐ. จะต้องพิจารณากำหนดขนาดโรงเรียนตามจำนวนนักเรียนใหม่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสพฐ. หากพิจารณาแล้วว่า ไม่เหมาะสม ก็ต้องไปกำหนดใหม่

ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาเรื่องนี้ ต้องปลดล็อกให้ กศจ. สามารถย้ายโรงเรียนขนาดกลางไปขนาดใหญ่พิเศษได้ เพื่อประโยชน์ทางราชการ และป้องกันไม่ให้กลุ่มที่ได้รับการบรรจุใหม่ ข้ามไปบรรจุในโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ ทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการ เพราะผู้ที่บรรจุใหม่บางคนมาจากครูผู้สอนที่ควรสั่งสมประสมการบริหารไล่ตามขนาดโรงเรียน ตรงนี้เป็นหลักคุณธรรมขั้นพื้นฐาน ซึ่งจังหวัดที่มีปัญหามากกว่า 10 จังหวัด หลังจากนี้ สพฐ. ก็จะไปกำหนดขนาดโรงเรียนตามจำนวนนักเรียนใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมจาก FOCUSNEWS วันที่ 21 ตุลาคม 2563

ติดตามข่าวเพิ่มเติมได้จาก www.focusnews.in.th

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โพสต์เมื่อ 21 ต.ค. 2563 อ่าน 25043 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 แผนงานบุคลากรภาครัฐ งบบุคลากร และงบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างพนักงานราชการ (ครั้งที่ 1) [อ่าน 1413]
ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 6450 การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างอัตราจ้างครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน ครั้งที่ 1 [อ่าน 879]
แนวทางการดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ [อ่าน 1244]
สพฐ.ข้อมูลเพื่อการบริหารงานบุคคลตำแหน่ง ผอ. สพท. [อ่าน 1493]
ซักซ้อมการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 3711]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)