ก.ค.ศ.เห็นชอบปรับหลักเกณฑ์ย้ายผู้บริหารสถานศึกษา พร้อมเปิดโอกาสทบทวนผู้ได้รับผลกระทบจากการยื่นว.13



#showpic

เมื่อวันที่ 8 ม.ค.นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ปลัดศธ.)ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดว่า ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(บอร์ดก.ค.ศ.)ที่มีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสายงานบริหารสถานศึกษา ในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.)โดยในเรื่องการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาจะมีการปรับหลักเกณฑ์เพื่อความเหมาะสม เช่น เรื่องการกำหนดขนาดโรงเรียน เรื่องคุณสมบัติผู้ที่จะยื่นคำร้องขอย้าย เรื่องของการกำหนดตำแหน่งว่างเพื่อรับการบรรจุหรือกันไว้สอบคัดเลือกใหม่ เรื่องย้ายข้ามจังหวัดให้ย้ายได้จังหวัดเดียว เป็นต้น

ปลัดศธ.กล่าวต่อไปว่า ในเรื่องของขนาดของโรงเรียนที่มี 4 ขนาด คือ ขนาดใหญ่พิเศษ ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ก.ค.ศ.จะให้ส่วนราชการต้นสังกัดไปกำหนดขนาดเองว่าจำนวนนักเรียนเท่าไรถึงจะเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก โดยขนาดเดิมที่เคยกำหนดไว้จะไม่พูดถึงแล้ว ให้ไปกำหนดใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับบริบท ซึ่งจะส่งผลต่อการพิจารณาย้าย โดยให้การย้ายผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องย้ายไปขนาดโรงเรียนที่ใกล้เคียงกัน เช่น โรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ ก็ให้พิจารณาร่วมกับโรงเรียนขนาดใหญ่ โรงเรียนขนาดใหญ่ให้พิจารณาร่วมกับโรงเรียนขนาดกลาง และโรงเรียนขนาดกลางให้พิจารณาร่วมกับโรงเรียนขนาดเล็ก ขณะที่การยื่นขอย้ายคุณสมบัติเดิมกำหนดไว้ 24 เดือนถึงจะมีสิทธิ์ยื่น และให้นับถึงวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี แต่คราวนี้ได้ปรับเหลือเป็น 12 เดือน โดยให้นับวันชนวันให้ครบ 12 เดือน จนถึงวันสุดท้ายของการประกาศยื่นขอย้าย

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องของตำแหน่งว่าง ที่จะเอาไว้กันคัดเลือกหรือรับย้าย ถ้ามีตำแหน่งว่างในแต่ละครั้งให้แบ่งครึ่งสำหรับรับย้าย และครึ่งหนึ่งสำหรับเรียกคนที่ขึ้นบัญชีไว้ ถ้าไม่มีขึ้นบัญชีก็ให้สอบ อย่างไรก็ตามในการพิจารณาการย้ายนั้น เดิมให้มีการพิจารณาในจังหวัดเดียวกันก่อนแล้วค่อยพิจารณาไปจังหวัดอื่น คราวนี้ให้ปรับมาเป็นให้พิจารณาในคราวเดียวกันไม่มีการแยกพิจารณา และให้ยื่นคำร้องขอย้ายได้เพียงจังหวัดเดียว ทั้งนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการและให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 สิงหาคม 2563 นี้ นอกจากนี้ รมว.ศึกษาธิการ ยังมีนโยบายว่าทำอย่างไรจะให้ผู้บริหารสถานศึกษาเก่งๆไปพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่มีปัญหาในเรื่องของคุณภาพ ซึ่งก.ค.ศ.ต้องไปกำหนดหลักเกณฑ์ในการให้ขวัญกำลังใจผู้บริหารเหล่านี้ เช่นเรื่องค่าเช่าบ้าน เรื่องวิทยฐานะ ที่สำคัญถ้าพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กจนประสบความสำเร็จผู้บริหารสถานศึกษาเหล่านี้จะมีสิทธิพิเศษในการย้ายเข้ามาเป็นผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนขนาดใหญ่ได้ด้วย และที่ประชุมยังได้มีมติให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการพิจารณาคุณสมบัติว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ว.13/2556 ให้มาเข้ายื่นทบทวนใหม่ได้ภายใน 90 วัน


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก FOCUSNEWS วันที่ 8 มกราคม 2563

>> แนะนำเว็บไซต์พันธมิตร www.focusnews.in.th

 

 

โพสต์เมื่อ 8 ม.ค. 2563 อ่าน 14874 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


สพฐ.ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) [อ่าน 192]
ก.ค.ศ.เห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา [อ่าน 2708]
ก.ค.ศ.เห็นชอบปรับปรุงการเข้าสู่ตำแหน่ง สายงานบริหารสถานศึกษาและบริหารการศึกษา ควรต้องผ่านการเป็นรองผู้อำนวยการฯ มาก่อน และควรมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าชำนาญการพิเศษ [อ่าน 1082]
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 9/2567 เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2567 [อ่าน 5614]
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 2425]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)