ส.บ.ม.ท.เตรียมยื่น 21 ข้อเสนอแนะ ต่อ รมว.ศธ.คนใหม่



#showpic
 
นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท) เปิดเผยว่าตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายณัฏฐพล ทีปสุววรรณ) มีแนวคิดในเรื่องการบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ โดยขอนำข้อมูลโรงเรียนทั้งหมด มาเอ็กซเรย์ศึกษาว่ามีปัญหาอะไรบ้าง แต่ยังให้ความสำคัญ เรื่องครู มา อันดับ 1 ควบคู่กับการยกระดับหลักสูตรการเรียนการสอน ให้ทันโลก ส่วนประเด็น พ.ร.บ.การศึกษาฯ คงต้องมีการนำมาศึกษาในรายละเอียด และยินดีรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย นั้น
 
เห็นว่าเป็นแนวคิดของนักบริหารมืออาชีพที่ไม่ได้คิดนโยบายรายวัน มีความเป็นประชาธิปไตยและเป็นการบริหารแบบมีส่วนร่วม เชื่อว่าการศึกษาไทยจะพบทางสว่างได้ในยุคนี้ อย่างไรก็ตามการจัดทำหลักสูตร การเรียนการสอนให้ทันโลกสำหรับนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาและระดับชั้นมัธยมศึกษานั้นจะต้องดำเนินการโดยผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการพัฒนาผู้เรียนทั้งระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา จึงเห็นควรให้มีหน่วยงานระดับกรมแยกจากกันในการที่จะรับผิดชอบดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายของ รมว.ศธ โดยให้มีการจัดตั้งกรมการมัธยมศึกษาและกรมการประถมศึกษาขึ้นเหมือนกับภาระงานด้านการอาชีวศึกษาและภาระงานด้านการศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัย โอกาสนี้ ส.บ.ม.ท. จะส่งตัวแทนเข้าพบ รมว.ศธ. และยื่นข้อเสนอแนะเพื่อการยกระดับคุณภาพการมัธยมศึกษาดังนี้

1. ให้มีการตั้งกรมการมัธยมศึกษาและกรมการประถมศึกษา เพื่อให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านการมัธยมศึกษาและด้านการประถมศึกษาเป็นผู้วางแผนและจัดการศึกษาในแต่ละด้านให้เป็นไปตามแผนการพัฒนาคุณภาพที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกำหนด

2. ให้มีเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาให้ครบทุกจังหวัดเพื่อให้เกิดความสะดวกในการบริหารจัดการเเละการเดินทางติดต่อราชการ

3. ให้มีเจ้าหน้าท่ีสนับสนุนการสอนเช่นเจ้าหน้าที่ธุรการ เจ้าหน้าท่ีพัสดุ บรรณารักษ์ ฯลฯให้ครบทุกโรงเรียนเพื่อคุณครูจะได้ปฏิบัติหน้าท่ีสอนอย่างเดียว

4. ให้มีนักการภารโรงให้ครบทุกโรงเรียนและให้มีพนักงานขับรถทุกโรงเรียนที่มีรถของโรงเรียน

5. ให้มีการเปิดสอบคัดเลือกบุคคลเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนทุกจังหวัดทุกปี แม้ไม่มีอัตราว่างก็ตามเพื่อจะได้ให้โอกาสรองผู้อำนวยการได้สอบขึ้นบัญชีไว้สำหรับการเรียกตัวเป็นผู้อำนวยการทดแทนอัตรากำลังเกษียณอายุราชการในแต่ละปี และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลักเกณฑ์การย้ายตาม ว 9 ที่ยังมีผลใช้บังคับ

6. ให้ยกเลิกหลักเกณฑ์การเลื่อนวิทยะฐานะตาม ว 24 แล้วให้กลับไปใช้เกณฑ์ ว 13 เดิม เพราะเกณฑ์ตาม ว 24 สร้างความยุ่งยากให้กับข้าราชการครูมาก

7. ให้มีการเสนอให้ครูวิทยะฐานะชำนาญการพิเศษและรองผู้อำนวยการโรงเรียนวิทยะฐานะชำนาญการพิเศษ ได้รับเครื่องราชฯชั้นสายสะพาย เมื่อเกษียณอายุราชการ

8. ให้มีการแก้ไขหนี้สินครูอย่างจริงจังโดยให้มีการพักหนี้ หรือ ลดดอกเบี้ยและขยายเวลาการชำระหนี้

9. ให้ครูอัตราจ้างที่จ้างด้วยเงินงบประมาณของทางราชการได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครู หลังจากผ่านการประเมิน

10. ให้คืนอำนาจการบรรจุแต่งตั้งตามมาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารข้าราชการครู และบุคคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2542 ให้เป็นอำนาจของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

11. ให้มีผู้แทนครูและผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาในองค์คณะการบริหารงานบุคคลทุกคณะ

12. ให้มีการปรับปรุง สร้างบ้านพักครูหรือแฟลตของครูให้เหมาะสมและเพียงพอ

13. ให้มีการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนของนักเรียนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของการเปลี่ยนแปลงของโลกและให้ลดวิชาการเรียนให้น้อยลงแต่สอดคล้องกับความต้องการในการประกอบอาชีพของนักเรียน

14. ให้มีการปรับปรุงแก้ไขวิธีการวัดและการประเมินผลให้มีแนวทางที่เป็นการวัดเพื่อพัฒนาผู้เรียนอย่างแท้จริง

15. ให้รัฐวางแผนการผลิตบุคคลากรอาชีพต่างๆล่วงหน้า 10 ปีให้มีความเพียงพอต่อความต้องการของประเทศ ไม่ผลิตบุคคลากรในวิชาชีพที่ล้นงานและให้วางแผนการสร้างบุคคลากรในวิชาชีพนั้นๆตั้งแต่ในระดับมัธยมศึกษา

16. ให้ยกเลิกการทำ PLC และการทำ Logbook และไม่ให้นำเอาเรื่องดังกล่าวไปผูกติดกับการเลื่อนวิทยฐานะ

17. ให้ครูมีหน้าที่สอนเพียงอย่างเดียว ไม่ให้นำโครงการพิเศษใดๆมาให้ครูทำอันเป็นการเพิ่มภาระ

18. ในรอบปีหนึ่งๆให้มีการประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาเพียงครั้งเดียว

19. ให้มีการนำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับที่ กอปศ.ยกร่างมาพิจารณาใหม่โดยให้มีการแต่งตั้งข้าราชการครูให้มีส่วนร่วมในการยกร่างและให้มีการทำประชาพิจารณ์ทั้งฉบับอย่างแท้จริง

20. กรณีข้าราชการครูเกษียณอายุราชการ หรือสถานศึกษามีอัตราว่าง ขอให้มีการบรรจุและแต่งตั้งโดยเร็วโดยในส่วนของผู้บริหารโรงเรียนนั้นให้ไปปฏิบัติหน้าท่ีภายในวันที่ 1 ตุลาคม และในส่วนของคุณครูให้ไปปฏิบัติหน้าท่ีภายในวันที่ 1 พฤษภาคม ของทุกปี

21. กรณีรัฐบาลขยายระยะเวลาเกษียณอายุราชการข้าราชการ นั้น ขอให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการให้ทันก่อนวันที่ 30 กันยายน 2562 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก นายรัชชัยย์ ศรสุวรรณ นายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท) 19 ก.ค.2562

โพสต์เมื่อ 19 ก.ค. 2562 อ่าน 10467 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


สพฐ.ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) [อ่าน 193]
ก.ค.ศ.เห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา [อ่าน 2715]
ก.ค.ศ.เห็นชอบปรับปรุงการเข้าสู่ตำแหน่ง สายงานบริหารสถานศึกษาและบริหารการศึกษา ควรต้องผ่านการเป็นรองผู้อำนวยการฯ มาก่อน และควรมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าชำนาญการพิเศษ [อ่าน 1085]
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 9/2567 เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2567 [อ่าน 5649]
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 2430]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)