#showpic

สมศ.เตรียมสรุปผลการดำเนินงานและผลประเมินภายนอกรอบ 4 เสนอรมว.ศึกษาธิการคนใหม่ แจงเหตุชะลอประเมิน และเร่งพัฒนากรอบการประเมินภายนอก

วันนี้ (10 ก.ค.)น.ส.ขนิษฐา ตั้งวรสิทธิชัย รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. เปิดเผยว่า การประเมินคุณภาพภายนอกรอบ 4 เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2559-2563 โดยมีสถานศึกษาทุกสังกัดที่จะต้องเข้ารับการประเมินประมาณ 60,000 แห่ง แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายการศึกษา ทั้งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ การแก้ไขกฏกกระทรวงเกี่ยวกับการประกันคุณภาพการศึกษาและ การกำหนดมาตรฐานการศึกษาชาติใหม่ ดังนั้นระหว่างปี 2559-2561 สมศ. จำเป็นต้องชะลอการประเมินคุณภาพภายนอกรอบ 4 เพื่อปรับกรอบแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกรอบ 4 ให้สอดคล้องตามนโยบายการศึกษาของชาติ

น.ส.ขนิษฐา กล่าวต่อไปว่า ช่วง 3 ปีของการเปลี่ยนผ่าน สมศ. มีการพัฒนากรอบแนวทางการประเมินฯอย่างต่อเนื่อง มีเตรียมการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการประเมินฯ อย่างเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันได้ลงพื้นที่จัดกิจกรรมส่งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกรอบแนวทางการประเมินฯให้แก่สถานศึกษาและหน่วยงานต้นสังกัด นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งเป็นศูนย์เครือข่ายของ สมศ.13 ศูนย์ เพื่อทำหน้าที่ตามภารกิจของ สมศ. ในระดับพื้นที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

“จากกฎกระทรวงว่าด้วยการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2561 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการประเมินคุณภาพภายนอก ในข้อ 3 ที่กำหนดให้สถานศึกษาจัดทำรายงานผลการประเมินตนเอง หรือ SAR เสนอหน่วยงานต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่กํากับ เพื่อทำการวิเคราะห์ผลเป็นรายประเด็นเพิ่มเติมก่อนจัดให้ สมศ. เป็นข้อมูลในการประเมินคุณภาพภายนอกเเป็นไปตามจำนวนสถานศึกษาที่หน่วยงานต้นสังกัดจัดส่งรายชื่อพร้อมรายงานประเมินตนเองของสถานศึกษามาให้ สมศ. ขณะนี้มีหน่วยงานต้นสังกัด ส่งข้อมูลมาจำนวน 664 แห่ง ประเมินไปแล้ว จำนวน 252 แห่ง และอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ผลรายงานประเมินตนเองเพื่อกำหนดวันลงพื้นที่ประเมิน คาดว่าจะแล้วเสร็จในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 และจะทำการประเมินภายนอกในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 อย่างไรก็ตามสมศ.จะต้องสรุปผลการดำเนินงานต่าง ๆรวมถึงการประเมินคุณภาพภายนอกรอบ 4 เพื่อเสนอรมว.ศึกษาธิการคนใหม่ต่อไป”น.ส.ขนิษฐา กล่าว.

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวและอ่านเพิ่มเติมได้จาก เดลินิวส์ วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2562

โพสต์เมื่อ 13 ก.ค. 2562 อ่าน 8708 | 0 ความเห็น