กฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพ พ.ศ. 2562



เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ กฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพ พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ดาวน์โหลดไฟล์แนบ

ที่มา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 2 พฤษภาคม 2562

ประกาศแล้ว! เพิ่มบำเหน็จดำรงชีพเป็น 5 แสนบาท-ผู้รับบำนาญ 1.6 แสนคนเฮ ได้เงินเพิ่ม

ราชกิจจาฯ แพร่กฎกระทรวง เพิ่มบำเหน็จดำรงชีพเป็นสูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาท จากเดิมไม่เกิน 4 แสนบาท “กรมบัญชีกลาง” มีผู้ได้ประโยชน์เพิ่มเติม 1.59 แสนคน


เมื่อวันที่ 2 พ.ค. เว็บไซด์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ กฎกระทรวง กำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพ พ.ศ. 2562 และให้กฎกระทรวงฉบับดังกล่าวมีผลบังคับเมื่อพ้นกำหนด 60 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

สำหรับสาระสำคัญกฎกระทรวงฉบับนี้ กำหนดให้บำเหน็จดำรงชีพให้จ่ายในอัตรา 15 เท่าของของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 5 แสนบาท โดยให้มีสิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ตามวิธีการ ดังต่อไปนี้

(1) ผู้รับบำนาญ ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 60 ปี ให้มีสิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกิน 2 แสนบาท

(2) ผู้รับบำนาญ ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไปแต่ไม่ถึง 70 ปี ให้มีสิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกิน 4 แสนบาท แต่ถ้าผู้รับบำนาญนั้น ได้ใช้สิทธิตาม (1) ไปแล้ว ให้ขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกินส่วนที่ยังไม่ครบตำมสิทธิของผู้นั้น แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 4 แสนบาท

(3) ผู้รับบำนาญ ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ให้มีสิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกิน 5 แสนบาท แต่ถ้าผู้รับบำนาญนั้น ได้ใช้สิทธิตาม (1) หรือ (2) ไปแล้ว ให้ขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกินส่วนที่ยังไม่ครบตามสิทธิของผู้นั้น แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 5 แสนบาท

ในกรณีที่ได้มีการนำสิทธิในบำเหน็จตกทอดไปเป็นหลักทรัพย์ในการประกันการกู้เงินกับสถาบันการเงินไปแล้ว ให้จ่ายบำเหน็จดำรงชีพแก่ผู้รับบำนาญตามสิทธิที่จะได้รับ แต่ต้องไม่เกินจำนวนที่เหลือจากสิทธิในบำเหน็จตกทอดที่นำไปเป็นหลักทรัพย์ในการประกันการกู้เงิน

นอกจากนี้ ในกรณีที่ผู้รับบำนาญหรือข้าราชการ ซึ่งออกจากราชการมีกรณีหรือต้องหาว่ากระทำความผิดวินัยหรืออาญาก่อนออกจากราชการ จะขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้เมื่อกรณีหรือคดีถึงที่สุดและมีสิทธิรับบำนาญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมการกำหนดอัตราและวิธีการรับบําเหน็จดํารงชีพ จะเป็นไปตามกฎกระทรวงกําหนดอัตราและวิธีการรับบําเหน็จดํารงชีพ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 ซึ่งกำหนดให้บำเหน็จดํารงชีพให้จ่ายในอัตรา 15 เท่าของบํานาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 4 แสนบาท โดยกำหนดให้ผู้รับบํานาญ ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 60 ปีบริบูรณ์ ให้มีสิทธิขอรับบําเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกิน 2 แสนบาท ส่วนกรณีผู้รับบํานาญ ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ให้มีสิทธิขอรับบําเหน็จดํารงชีพได้ไม่เกิน 4 แสนบาท

ทั้งนี้ การเพิ่มการจ่ายบำเหน็จดำรงชีพเป็นไม่เกิน 5 แสนบาท จากเดิมไม่เกิน 4 แสนบาท ทางกรมบัญชีกลาง ระบุว่า จะทำให้ข้าราชการบำนาญได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น 159,094 คน แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนเงินที่ชัดเจนได้


ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก ไบรท์ทีวี วันพฤหัสบดี ที่ 2 พฤษภาคม 2562

โพสต์เมื่อ 3 พ.ค. 2562 อ่าน 26572 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


สพฐ.ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) [อ่าน 189]
ก.ค.ศ.เห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา [อ่าน 2700]
ก.ค.ศ.เห็นชอบปรับปรุงการเข้าสู่ตำแหน่ง สายงานบริหารสถานศึกษาและบริหารการศึกษา ควรต้องผ่านการเป็นรองผู้อำนวยการฯ มาก่อน และควรมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าชำนาญการพิเศษ [อ่าน 1078]
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 9/2567 เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2567 [อ่าน 5584]
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 2421]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)