ก.ค.ศ.รื้อหลักเกณฑ์ประเมินครู



#showpic

“หมอธี” ถก ก.ค.ศ.รื้อหลักเกณฑ์ประเมินครู ประกาศชัด แบบประเมินเลื่อนเงินเดือนครูใหม่ต้องให้ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้ประเมิน

วันนี้ (27 มี.ค.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแบบประเมินผลการปฎิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้เป็นเครื่องมือในการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือน โดยเกณฑ์การประเมินจะทำตามตัวชี้วัดประกอบด้วย ด้านการจัดการเรียนการสอน การบริหารจัดการชั้นเรียน การพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ และงานอื่นๆที่ได้รับมอบหมาย โดยให้ผู้บังคับบัญชา (ผู้อำนวยการโรงเรียน) ประเมินจากการประเมินตนเองของผู้รับการประเมิน ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าการประเมินรูปแบบใหม่จะไม่เป็นธรรมนั้น ยืนยันว่าแบบประเมินนี้เป็นธรรม เพราะมีระเบียบการประเมินอย่างรัดกุมเข้มข้น รวมถึงหากเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่อาจทำให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดูแลไม่ทั่วถึงนั้นก็สามารถมอบหมายให้รองผอ.รร.ช่วยดูแลได้ อีกทั้งผู้รับการประเมินไม่พอใจก็สามารถยื่นอุทธรณ์และร้องเรียนได้ตามลำดับขั้นตั้งแต่กศจ.ไปจนถึงปลัดศธ. ซึ่งแบบประเมินดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ทันที

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการกรอบแนวทางการจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือเหตุพิเศษ ใน 4 กรณี ได้แก่ กรณีมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เช่น ครม.อนุมัติให้นักเรียนได้รับทุนจากโครงการสำคัญและต้องบรรจุเป็นข้าราชการครู เป็นต้น กรณีมีสัญญาผูกพันตามโครงการพิเศษ/นักเรียนทุน กรณีบรรจุในพื้นที่เกาะบนภูเขาสูง เสี่ยงภัย หรือพื้นที่พิเศษ หรือการบรรจุและแต่งตั้งในสถานศึกษาที่มีลักษณะพิเศษตามที่ส่วนราชการกำหนดและกรณีความจำเป็นพิเศษอื่นกศจ./อ.ก.ค.ศ.อนุมัติ ทั้งนี้ที่ประชุมหารือในหลักเกณฑ์นี้นาน เนื่องจากผู้ทรงคุณวุฒิมีข้อโต้แย้งหลายประการ เช่น พื้นที่ภูเขาสูงต้องระบุควาสูงของภูเขาด้วยว่าสูงเท่าไหร่ และยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าหลักเกณฑ์จะเปิดทางให้มีการวิ่งเต้นบรรจุคนของตัวเองเข้าสู่ตำแหน่งได้ ซึ่งไม่ต้องกังวล เพราะการดำเนินการเรื่องนี้ทำในรูปแบบองค์คณะที่เป็นกศจ.อีกทั้งสังคมสามารถตรวจสอบได้

“ที่ประชุมยังเห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยต่อจากนี้ไปการบรรจุแต่งตั้งจะกระจายอำนาจให้ส่วนราชการดำเนินการไม่ผ่าน ก.ค.ศ.โดยก.ค.ศ.จะทำหน้าที่เหมือนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ที่เป็นหน่วยงานกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานตำแหน่งเท่านั้น ส่วนวิธีการคัดเลือกจะเป็นสอบหรือไม่สอบนั้น ซึ่งเท่าที่ทราบจะไม่มีการสอบแล้ว ทั้งนี้การใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวฉบับปรับปรุงใหม่จะเริ่มดำเนินการได้หลังจากที่มีการบรรจุแต่งตั้งผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ขึ้นบัญชีไว้ก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว เช่น สพฐ.จะคัดเลือกผู้อำนวยการโรงเรียน สพฐ.ก็มีอำนาจตัดสินเองว่าจะสอบหรือไม่สอบ หรือจะใช้วิธีการไหนก็ได้ โดย ก.ค.ศ.ไม่ต้องมาผ่านก.ค.ศ.แล้ว เป็นต้น” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันพุธที่ 27 มีนาคม 2562

 

 

โพสต์เมื่อ 28 มี.ค. 2562 อ่าน 5433 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 แผนงานบุคลากรภาครัฐ งบบุคลากร และงบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างพนักงานราชการ (ครั้งที่ 1) [อ่าน 1413]
ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 6450 การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างอัตราจ้างครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน ครั้งที่ 1 [อ่าน 879]
แนวทางการดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ [อ่าน 1244]
สพฐ.ข้อมูลเพื่อการบริหารงานบุคคลตำแหน่ง ผอ. สพท. [อ่าน 1493]
ซักซ้อมการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 3711]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)