"หมออุดม"ย้ำสทศ.ต้องออกข้อสอบคิดวิเคราะห์



#showpic

“หมออุดม” มอบนโยบายสทศ. เน้นข้อสอบและการวัดผลต้องให้เด็กคิดวิเคราะห์ ย้ำข้อสอบ-เฉลยคำตอบต้องไม่ผิด ขณะที่”สัมพันธ์”เล็งประเมินจิตอาสา คุณธรรม จริยธรรม 62 ปี

วันนี้( 27 ธ.ค.) ที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.) ศ.นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการได้เดินทาง-มามอบนโยบายและรับฟังปัญหาอุปสรรคการดำเนินงานของ สทศ. โดยมีรศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุพฤกษ์ ผอ.สทศ. กรรมการบริหาร สทศ .และบุคลากร ร่วมรับฟัง ซึ่งศ.นพ.อุดม กล่าวว่า บอร์ดบริหาร และสทศ.มีความสำคัญมากต่อการศึกษา เพราะตนเชื่อว่าการทดสอบและการวัดผลของ สทศ.จะพลังขับเคลื่อนให้ระบบการเรียนการสอนในโรงเรียนเป็นไปตามการวัดผล ซึ่งที่ผ่านการประเมินผลจะเน้นการท่องจำจึงทำให้เด็กเน้นท่องจำ จนคิดวิเคราะห์ไม่เป็น ดังนั้นตนฝากให้สทศ.ช่วยหาวิธีการประเมินผลที่เน้นการวัดสมถรรนะ และการคิดวิเคราะห์ของเด็กให้มากขึ้น เพราะการคิดวิเคราะห์จะเป็นพื้นฐานทำให้เด็กเกิดการคิดสร้างสรรค์ การเป็นผู้นำ สามารถสื่อสารกับคนอื่นได้ และยังสามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนดี ไม่ดี อย่างไรก็ตามสทศ.จะต้องไปทบทวนการออกข้อสอบทุกระดับให้เน้นการคิดวิเคราะห์มากขึ้น

 

“ผมยังย้ำเรื่องของข้อสอบที่สทศ.ต้องออกไม่เกินหลักสูตร เพราะที่ผ่านมามีการกล่าวว่าข้อสอบเกินหลักสูตร จนทำให้เด็กต้องไปกวดวิชา ขณะเดียวกันครูก็กั๊กวิชา เพื่อเอาไปสอนพิเศษ รวมทั้งข้อสอบและเฉลยคำตอบต้องไม่ผิด เพราะเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญ หากผิดพลาดครั้งเดียวจะไม่มีคนเชื่อถือ หาก สทศ. สามารถออกแบบทดสอบให้มีความเข้มข้น ถูกต้องแม่นยำ และโปร่งใส จะสามารถสะท้อนถึงกระบวนการเรียนการสอนที่จะต้องปรับตัวให้สอดรับได้ และผมเองก็มอบนโยบายในส่วนการเรียนการสอนว่าจะต้องมีการปรับระบบใหม่แล้ว เพราะหากจะยกระดับประเทศ เราจะต้องปรับตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา ไม่ใช่ปรับเพียงแค่ระดับอุดมศึกษา รวมถึง สทศ. จะต้องพัฒนาไปสู่เรื่องการใช้ดิจิทัลเป็นฐานให้มากขึ้นด้วย เพื่อให้ทันต่อโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และตอบสนองต่อเด็กรุ่นใหม่” ศ.นพ.อุดม กล่าว

ด้านรศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ สทศ.ได้มีการดำเนินการปรับระบบการทดสอบต่าง ๆตามนโยบายที่รมช.ศึกษาธิการต้องการอยู่แล้ว โดยการทดสอบในศตวรรษที่ 21 จะแบ่งออกเป็นส่วน 2ส่วนคือ 1. ส่วนวัดความรู้ในเนื้อหาวิชาต่าง ๆและ2.ส่วนการวัดสมรรถนะความคิดสร้างสรรค์ การคิดวิเคราะห์ และการสื่อสาร ทั้งพัฒนาการสอบจากสิ่งที่ทำอยู่คือเป็นไปตามมาตรฐานหลักสูตร ก็จะเร่งพัฒนาให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งอนาคตตนอยากเห็นการประเมินผลจะไม่ให้คะแนนเป็นผ่านหรือตก แต่จะให้คะแนนเป็นระดับ เนื่องจากต้องการให้การทดสอบเป็นการวัดผลเพื่อพัฒนาตัวเอง ส่วนการวัดผลเรื่องคุณธรรมความดีนั้น ก็กำลังสร้างเครื่องมือวัด เพื่อให้การวัดผลรอบด้าน ทั้งความรู้และปัญญา ความดี เช่น เด็กร.ร.ตำรวจตระเวนชายแดน เรียนไม่เก่งมาก แต่มีวินัยสูง หรือ สามเณร เป็นกลุ่มเด็กด้อยโอกาส แต่ก็มีคุณธรรม เป็นต้น คาดว่าจะประเมินในปี 2562

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันพุธที่ 27 ธันวาคม 2560 เวลา 17.15 น.

 

โพสต์เมื่อ 28 ธ.ค. 2560 อ่าน 7541 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


สพฐ.ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) [อ่าน 188]
ก.ค.ศ.เห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา [อ่าน 2700]
ก.ค.ศ.เห็นชอบปรับปรุงการเข้าสู่ตำแหน่ง สายงานบริหารสถานศึกษาและบริหารการศึกษา ควรต้องผ่านการเป็นรองผู้อำนวยการฯ มาก่อน และควรมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าชำนาญการพิเศษ [อ่าน 1077]
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 9/2567 เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2567 [อ่าน 5565]
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 2416]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)