#showpic

รมว.ศึกษาธิการ แจง ครูสาวต้องได้กลับมาปฎิบัติหน้าที่เหมือนเดิม สั่งศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้บรรจุเป็นข้าราชการครู ชี้ หน่วยงานราชการต้องรับผิดชอบ เพราะไม่ใช่ความผิดของครู เผยเขตพื้นที่ผิดชัดเจนหากสอบสวนพบส่อเจตนาพิรุธ ผอ.เขตพื้นฯ โดนโทษวินัยแน่

วันนี้ (9 พ.ย.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีของ น.ส.วนาลี ทุนมาก และ น.ส.นิราวัลย์ เชื้อบุญมี ที่สอบบรรจุเป็นข้าราชการครูในตำแหน่งครูผู้ช่วย และได้รับการเรียกตัวไปปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนแล้ว แต่สุดท้ายกลับไม่ได้รับการอนุมัติให้บรรจุเป็นข้าราชการ ว่า ตนได้มอบหมายให้นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไปดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด ที่สำคัญยืนยันแล้วว่าให้ครูทั้ง 2 คนกลับมาปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากการบรรจุโดยที่ไม่ขออนุญาตจากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เป็นความผิดพลาดของรัฐไม่ใช่ความผิดของครู ส่วนจะเป็นความผิดของใครนั้นก็ต้องไปสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ดังนั้นการให้ครูได้กลับเข้ามาบรรจุเป็นข้าราชการจึงไม่ได้เป็นการสร้างบรรทัดฐาน

“ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ต้องไปหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไรหรืออาจจะเป็นรอยต่อในช่วงการเปลี่ยนผ่านระหว่างการแต่งตั้งศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) แต่การที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 38 ไปบรรจุครูโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก กศจ. ถือเป็นความผิดที่ชัดเจน แต่การบรรจุจะมีมูลเหตุจากสิ่งใดนั้นก็ต้องไปสอบสวนหาสาเหตุต่อไป รวมทั้งต้องไปสอบสวนหาสาเหตุอีกว่า ผอ.เขต สพม.38 เคยมีประวัติการทำเรื่องลักษณะนี้มาก่อนหรือไม่ และเจตนาที่ทำแบบนี้เพื่ออะไรกันแน่ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นครูทั้งสองคนไม่ได้มีความผิด แต่ต้องมารับผลกระทบจากความผิดพลาดของระบบราชการ ซึ่งตรงนี้เราต้องหาทางแก้ไขหาความรับผิดชอบจากหน่วยงานราชการ โดยหากการสอบสวนพบว่าได้มีการตักเตือนเขตพื้นที่แล้วว่าอย่าดำเนินการบรรจุ แต่เขตพื้นที่พยายามดื้อดึงที่จะบรรจุก็จะต้องโดนโทษวินัยอย่างแน่นอน” รมว.ศธ.กล่าวและว่า ส่วนการจะบรรจุครูทั้งสองคนอย่างไรนั้นสำนักงานปลัด ศธ.และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) คงต้องไปดูว่าเมื่อครูปฎิบัติหน้าที่การสอนมาแล้ว 5 เดือนอาจจะปรับให้บรรจุเป็นข้าราชการครูอย่างถูกต้องได้ ซึ่งขอไปดูกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อน

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2560 เวลา 13.20 น.

โพสต์เมื่อ 9 พ.ย. 2560 อ่าน 18137 | 0 ความเห็น