ชงปรับมาตรฐานผู้บริหารสถานศึกษา



#showpic

ชงปรับมาตรฐานผู้บริหารสถานศึกษา เน้นมาตรฐานเชิงรุกก้าวสู่ผู้นำการเปลี่ยนแปลง

วันที่ 28 ส.ค.60 ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ อดีตประธานกรรมการคุรุสภา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบมาตรฐานวิชาชีพครู ของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยถึงการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบมาตรฐานวิชาชีพครู เมื่อเร็ว ๆ นี้ ยังไม่มีการพิจารณาการจัดทำข้อเสนอการผลิตครูทั้งระบบ เนื่องจากแต่ละกลุ่มยังไม่มีข้อมูลและข้อสรุปที่ชัดเจน ดังนั้นต้องรอผลการศึกษาข้อมูลของแต่ละกลุ่มสักระยะก่อนนำมาประมวลผลวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสียร่วมกัน ส่วนจะทันในการรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2561 หรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจ เพราะตามกระบวนการแม้จะสรุปได้แล้วว่าจะผลิตครู 4 ปี หรือ 5 ปี แต่ก็ต้องมาจัดทำมาตรฐานหลักสูตรใหม่ รวมถึงปรับปรุงมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา(มคอ.1) สาขาครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการควบคู่กันไปด้วย และทุกเรื่องต้องใช้เวลาพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบ

ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมีมติรับทราบแนวทางการมาตรฐานวิชาชีพครู จากเดิมที่มี 11 มาตรฐาน มาเป็นมาตรฐานที่อิงสมรรถนะมากขึ้น แบ่งเป็น 4 มาตรฐานหลัก คือมาตรฐานด้านวิชาการ มาตรฐานด้านทักษะ มาตรฐานด้านทัศนคติ และมาตรฐานด้านชุมชน ซึ่งต่อไปจะให้อิสระมหาวิทยาลัยเลือกผลิตบัณฑิตตามความถนัด และสามารถเน้นได้ว่าจะผลิตบัณฑิตให้มีสมรรถนะตรงตามความถนัดในด้านใด เพื่อให้ตรงกับความต้องการ โดยในวันที่ 8 ก.ย.60 นี้จะนำมาตรฐานดังกล่าวไปประชาพิจารณ์ รายละเอียดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังเห็นว่าเมื่อมีการปรับมาตรฐานวิชาชีพครูแล้ว ควรทบทวนและปรับมาตรฐานวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา มาตรฐานวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา และมาตรฐานวิชาชีพศึกษานิเทศก์ด้วย

โดยเฉพาะมาตรฐานผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งใช้มานานและเป็นการรับซึ่งไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ผลักดันให้ผู้บริหารสถานศึกษา ยกระดับคุณภาพและปรับปรุงการศึกษาให้ดีขึ้น โดยต้องปรับมามาตรฐานเชิงรุก ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้บริหารสถานศึกษาในอนาคต ที่ต้องเป็นผู้นำทางการเปลี่ยนแปลง ส่วนศึกษานิเทศก์ ก็ถือว่าเป็นตำแหน่งสำคัญในการเข้าไปช่วยพัฒนาการเรียนการสอนของครู

ดังนั้น ทางคณะอนุกรรมการฯ จะทำการปรับปรุงมาตรฐานดังกล่าว และเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาที่มี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานพิจจารณาให้ความเห็นชอบ

"ส่วนจะต้องมีการปรับให้มีการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษาและศึกษานิเทศก์ เช่นเดียวกับการปรับการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่าใบอนุญาตฯ ผู้บริหารมีความแตกต่างกับครู โดยเฉพาะผู้บริหารสถานศึกษา ที่ต้องมีประสบการณ์ในการทำงานและประสบการณ์ด้านการบริหารมาระดับหนึ่ง ไม่ได้ใช้ความรู้ทางวิชาการอย่างเดียว และหากเราไปยึดการสอบเพื่อให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตฯ ก็อาจจะไปปิดโอกาสผู้มีความรู้ความสามารถ โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีคุณลักษณะพิเศษ เช่น กลุ่มโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เป็นต้น" ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ไพฑูรย์ กล่าว

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก สยามรัฐออนไลน์ 28 สิงหาคม 2560 

โพสต์เมื่อ 28 ส.ค. 2560 อ่าน 17227 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 แผนงานบุคลากรภาครัฐ งบบุคลากร และงบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างพนักงานราชการ (ครั้งที่ 1) [อ่าน 1413]
ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 6450 การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างอัตราจ้างครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน ครั้งที่ 1 [อ่าน 879]
แนวทางการดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ [อ่าน 1244]
สพฐ.ข้อมูลเพื่อการบริหารงานบุคคลตำแหน่ง ผอ. สพท. [อ่าน 1493]
ซักซ้อมการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 3711]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)