ครม.อนุมัติแนวทางดึงดูดและจูงใจผู้มีความสามารถเป็นพนักงานราชการศักยภาพสูง



#showpic

วันนี้ (7 กุมภาพันธ์ 2560) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พันเอก อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมีประเด็นเกี่ยวกับ แนวทางการดึงดูดและจูงใจผู้มีความรู้ความสามารถ คุณวุฒิพิเศษ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและมีศักยภาพเป็นที่ประจักษ์ เป็นพนักงานราชการ ศักยภาพสูง ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

เรื่อง แนวทางการดึงดูดและจูงใจผู้มีความรู้ความสามารถ คุณวุฒิพิเศษ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและมีศักยภาพเป็นที่ประจักษ์ เป็นพนักงานราชการศักยภาพสูง

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ดังนี้

1. แนวทางการดึงดูดและจูงใจผู้มีความรู้ความสามารถ คุณวุฒิพิเศษ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และมีศักยภาพเป็นที่ประจักษ์ เป็นพนักงานราชการศักยภาพสูง

2. ให้องค์กรกลางบริหารทรัพยากรบุคคลใช้เป็นแนวทางสำหรับการบริหารอัตรากำลังของส่วนราชการในสังกัดให้สอดคล้องกับความจำเป็นตามภารกิจ มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่า

ทั้งนี้ ให้ส่วนราชการดำเนินการตามแนวทางนี้ โดยมีผลตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 เป็นต้นไป

สาระสำคัญของเรื่อง
สำนักงาน ก.พ. รายงานว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเกี่ยวกับการจ้างงานภาครัฐและการบริหารพนักงานราชการ โดยให้มีการปรับปรุงแนวทางการจูงใจผู้ที่มีความรู้ความสามารถและมีศักยภาพในการปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ เป็นที่ประจักษ์ให้เข้ามาเป็นบุคคลากรภาครัฐ นั้น สำนักงาน ก.พ. ได้จัดทำ “แนวทางการดึงดูดและจูงใจผู้มีความรู้ความสามารถ คุณวุฒิพิเศษ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและมีศักยภาพเป็นที่ประจักษ์ เป็นพนักงานราชการศักยภาพสูง” เสนอคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ (คพร.) พิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว ในการประชุมครั้งที่ 5/2559 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2559 ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มเป้าหมายและแนวทางการดำเนินการ ดังนี้
 

กลุ่มเป้าหมาย
แนวทางและวิธีการดำเนินการ
1. ผู้ที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันหรือการ ประกวด ซึ่งจัดโดยองค์กรหรือสถาบันที่ได้รับการยอมรับในระดับชาติหรือระดับนานาชาติ

2. ผู้ที่มีคุณวุฒิพิเศษซึ่งมีความขาดแคลนหรือหายากเนื่องจากเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาชั้นนำในต่างประเทศในสาขาที่จำเป็นสำหรับการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของส่วนราชการ

3. ผู้ที่สั่งสมความรู้ ทักษะและประสบการณ์จากการปฏิบัติงาน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมีทักษะเฉพาะ  และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ได้รับการยอมรับในระดับชาติและระดับนานาชาติ
1. มีภารกิจ งาน หรือโครงการซึ่งมีความสำคัญ มีความท้าทาย และมีผลกระทบสูงต่อการบรรลุพันธกิจและเป้าหมายของส่วนราชการ

2. ใช้กลไกค่าตอบแทน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการ เพื่อดึงดูดและจูงใจผู้มีความรู้ความสามารถ

3. พิจารณาเงื่อนไขการจ้างงานตามสัญญาจ้างให้ความยืดหยุ่นตามความจำเป็นของภารกิจเพื่อดึงดูดจูงใจและรักษาไว้ซึ่งผู้มีความรู้ความสามารถ

4. มีกระบวนการสรรหาพนักงานราชการที่มีความยืดหยุ่น คล่องตัวไม่ซับซ้อน และสามารถดำเนินการได้ในเชิงรุก

5. พัฒนาระบบและวิธีการปฏิบัติงาน การมอบหมายงาน การรายงานและการประเมินผลการปฏิบัติงานให้ตอบสนองและสอดคล้องกับสภาพและรูปแบบการทำงานของกลุ่มเป้าหมาย

 

ที่มา สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 7 กุมภาพันธ์ 2560

โพสต์เมื่อ 7 ก.พ. 2560 อ่าน 23705 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


สพฐ.ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) [อ่าน 192]
ก.ค.ศ.เห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา [อ่าน 2713]
ก.ค.ศ.เห็นชอบปรับปรุงการเข้าสู่ตำแหน่ง สายงานบริหารสถานศึกษาและบริหารการศึกษา ควรต้องผ่านการเป็นรองผู้อำนวยการฯ มาก่อน และควรมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าชำนาญการพิเศษ [อ่าน 1084]
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 9/2567 เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2567 [อ่าน 5643]
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 2428]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)