คณะทำงานฯจัดตั้งก.อุดมศึกษา ถกนัดแรก วางกรอบการทำงาน ชี้ 14 เดือนตั้งกระทรวงอุดมศึกษา เบื้องต้นก.กำกับดูแล ไม่ใช่ควบคุม แก้ปัญหาคุณภาพอุดมศึกษาทุกมิติ

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2560 ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ศ.นพ.อุดม คชินทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธานคณะทำงานเตรียมความพร้อมจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษา กล่าวภายหลังการประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมฯนัดแรก ซึ่งมีคณะกรรมการทั้งหมด 20 คน โดยมาจากมหาวิทยาลัยทุกกลุ่ม ทั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล มหาวิทยาลัยเอกชนด้วย ว่าที่ประชุมได้มีวางกรอบการทำงาน โดยพิจารณาถึงกรอบระยะเวลาในการศึกษาและจัดทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กระทรวงอุดมศึกษาให้แล้วเสร็จภายในเดือนก.พ.- พ.ค. 2560 นี้ เพื่อจะนำได้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เข้าคณะรัฐมนตรี และเสนอพระราชกฤษฎีกา ประมาณเดือน มิ.ย. –พ.ย.2560 ก่อนที่จะนำกลับมาเข้า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายในเดือนมี.ค. 2561 ในการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษา และให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่คาดว่าจะดำรงวาระ ใน 22 เดือน อย่างไรก็ตาม การพิจารณาจัดทำร่างดังกล่าวฯ ไม่ได้เป็นการเริ่มต้นจากศูนย์ เนื่องจากมีการนำร่างฯ ของสำนักงานคณะกรรมการการอุมดศึกษา (สกอ.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มาศึกษาร่วมด้วย

ทั้งนี้ หลักการเบื้องต้น กระทรวงอุดมศึกษาจะต้องเป็นกระทรวงที่มีปฎิสัมพันธ์กับมหาวิทยาลัย โดยยังคงยึดหลักปรัชญามหาวิทยาลัย ต้องมีอิสระอย่างเต็มที่ในด้านวิชาการ และต้องส่งเสริมสนับสนุน การบริหารจัดการที่ดี เป็นกระทรวงที่กำกับดูแลมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เข้ามาควบคุมมหาวิทยาลัยจนรัดตรึง นอกจากนั้น ต้องมีการตั้ง คณะกรรมการการอุดมศึกษา ที่ไม่ใช่ทำหน้าที่เรื่องวิชาการเท่านั้น แต่ต้องมีบทบาทในทุกมิติ เป็นตัวกำกับดูแลมหาวิทยาลัยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึง ร่างฯ ต้องกำหนดหลักธรรมาภิบาล คุณภาพการศึกษา และคุณภาพบัณฑิต มีกลไกให้กระทรวงใหม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ และบทบาทต้องทำให้หาวิทยาลัยที่จะต้องผลิตบัณฑิตที่ตรงกับความต้องการของประเทศ และอำนาจหน้าที่ บทบาทของสภามหาวิทยาลัย นายกสภามหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัยด้วย กำหนดสิ่งที่ควรทำ ไม่ควรทำ สิ่งไหนห้ามทำ หรือ ห้ามทำเด็ดขาด มีการจัดทำฐานข้อมูล เพื่อเชื่อมโยง ตรวจสอบมหาวิทยาลัยได้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงใหม่ จะไม่มีการเพิ่มบุคลากร และจะใช้งบประมาณไม่เกิน 10 % เพื่อไม่เป็นภาระแก่รัฐบาล โดยจะมีการประชุมความคืบหน้าอีกครั้งในวันที่ 15 ก.พ.2560 ต่อไป 

ขอบคุณที่มาจาก คม ชัด ลึก วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560

โพสต์เมื่อ 5 ก.พ. 2560 อ่าน 11437 | 0 ความเห็น