#showpic
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 8/2559 เมื่อวันพุธที่ 7 กันยายน 2559 ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในประเด็นที่สำคัญ ดังนี้
การเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สายสะพาย
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ซึ่งมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้พิจารณาเหตุผลความจำเป็นเรื่องการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตามที่ ก.ค.ศ. เสนอ
ซึ่งที่ประชุมดังกล่าวเห็นด้วยในหลักการ โดยในปีงบประมาณ 2559 ขอให้กระทรวงศึกษาธิการเสนอรายชื่อของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา, ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร, ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด ที่มีวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ได้รับเงินเดือนขั้นสูง หรือไม่ต่ำกว่าขั้นสูงของอันดับ คศ.3 และได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ท.ช. มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีบริบูรณ์ ที่เกษียณและยังไม่เกษียณอายุราชการในปีงบประมาณ 2559 โดยให้เสนอรายชื่อไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย ป.ม. ต่อไป
ทั้งนี้ ข้อมูลปัจจุบันของ ผอ./รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ที่จะเสนอขอมีจำนวนทั้งสิ้น 545 คน, ผอ./รอง ผอ.สำนักงาน กศน.จังหวัด จำนวน 4 คน ส่วน ผอ./รอง ผอ.สช.จังหวัด ไม่มี
อนุมัติจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ให้แก่ส่วนราชการ
ที่ประชุมได้อนุมัติจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ให้แก่ส่วนราชการ โดยเป็นการคืนอัตราเกษียณอายุราชการไปยังหน่วยงานการศึกษาเดิมและหน่วยงานการศึกษาที่ขาดแคลนอัตรากำลัง รวมทั้งสิ้น 23,429 อัตรา ดังนี้
ทั้งนี้ ให้ทุกส่วนราชการดำเนินการเกลี่ยอัตรากำลังที่ได้รับอนุมัติไปกำหนดในหน่วยงานการศึกษา ตามหลักเกณฑ์ ดังนี้
1) ให้กำหนดจำนวนและประเภทตำแหน่งตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) กำหนดโดยเคร่งครัด
2) ตำแหน่งที่กำหนดจะต้องมีจำนวนและประเภทตำแหน่งตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
3) ให้กำหนดตำแหน่งในหน่วยงานการศึกษาที่มีอัตรากำลังไม่เกินกรอบอัตรากำลังหรือเกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังที่ ก.ค.ศ. กำหนด
4) ในการใช้อัตราที่ได้รับการจัดสรรคืนอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ให้ใช้อัตรากำลังได้ไม่ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2559
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2556-2559 ของสถาบันการพลศึกษา โดยได้จัดสรรคืนอัตราเกษียณอายุราชการไปยังหน่วยงานการศึกษาเดิมและหน่วยงานการศึกษาที่ขาดแคลนอัตรากำลัง รวมทั้งสิ้น 191 อัตรา แบ่งเป็นตำแหน่งครูผู้ช่วย 18 อัตรา อาจารย์ 160 อัตรา และบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) 13 อัตรา โดยมีเงื่อนไขการเกลี่ยอัตรากำลังเช่นเดียวกัน
แนวคิดการผลิตครูในระบบปิด
รมว.ศึกษาธิการ ได้สอบถามที่ประชุม ก.ค.ศ. เกี่ยวกับแนวคิดการผลิตครูในระบบปิด ซึ่งมีหลักการที่จะให้สถาบันอุดมศึกษาที่ผลิตครู ได้ผลิตนักศึกษาที่จะเข้าสู่วิชาชีพครู ในสาขาตามแต่ละสถาบันมีความถนัด เพื่อให้นักศึกษามีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูฯ ได้ตรงตามสาขา รวมทั้งเพื่อให้นักศึกษามีความมั่นใจว่าเมื่อจบแล้วจะได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นครูผู้ช่วยอย่างแน่นอน
ที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว เห็นชอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ. พิจารณาตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อศึกษารายละเอียดและสำรวจจำนวนและสาขาข้าราชการครูที่จะเกษียณอายุราชการในปีงบประมาณ 2560 และมีแนวคิดที่จะใช้อัตราเกษียณอายุราชการบรรจุเป็นครูผู้ช่วยในอัตราสัดส่วน 40 - 25 - 35 กล่าวคือ บรรจุจากนักศึกษาที่เรียนวิชาชีพครู 40% จากโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น 25% และสอบแข่งขันทั่วไป 35%
รับทราบรายงานผลการรับสมัครสอบแข่งขันครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1/2559
ที่ประชุมได้รับทราบรายงานผลการรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ.2559 สรุปดังนี้
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมได้ขอให้กลับไปทบทวนรายละเอียดร่างหลักเกณฑ์ 2 ฉบับ ที่เสนอให้ที่ประชุมครั้งนี้ได้พิจารณา คือ 1) หลักเกณฑ์และวิธีการสอบคัดเลือกตำแหน่งรองผู้อำนวยการและผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร 2) หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2) ตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อต้องการให้พนักงานราชการ ลูกจ้าง พนักงานจ้างเหมาบริการ หรือลูกจ้างชั่วคราวจากเงินงบประมาณหรือเงินรายได้ของสถานศึกษา ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับงานของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 38 ค.(2) ในสถานศึกษา ได้รับโอกาสในการคัดเลือกและสอบแข่งขันได้ โดยขอให้คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องนำร่างหลักเกณฑ์ทั้งสองไปปรับปรุงแก้ไขตามความเห็นจากที่ประชุม แล้วนำกลับมาให้ที่ประชุมพิจารณาครั้งต่อไป
ดรุวรรณ บุญมาก, บัลลังก์ โรหิตเสถียร : สรุป/รายงาน
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงาน ก.ค.ศ. : ถ่ายภาพ
7/9/2559
ที่มา กระทรวงศึกษาธิการ 7 กันยายน 2559
โพสต์เมื่อ 7 ก.ย. 2559 อ่าน 41565 | 0 ความเห็น
·····
·····
จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)