#showpic

ต้องรอ กศจ.โยกย้ายข้าราชการครู ให้เสร็จเรียบร้อย มิ.ย.

เมื่อวันที่ 30 พ.ค.59 นายสุเทพ ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ตนได้หารือร่วมกับผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อพิจารณา จัดทำปฏิทินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุ และแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ.ครั้งที่ 1/2559 ซึ่งได้เลื่อนไปจากเดิมที่กำหนดประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน ภายในวันที่ 16พ.ค.59 รับสมัครสอบแข่งขัน 23-29 พ.ค.59 เพื่อรอการแก้ไขปัญหาการย้ายครู และให้การบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในช่วงรอยต่อของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) สามารถดำเนินการบริหารงานบุคคลได้อย่างต่อเนื่อง

ซึ่งที่ประชุมเห็นตรงกันว่า การจัดสอบครูผู้ช่วย ควรจะดำเนินการหลังจากที่ กศจ.ย้ายครูเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งล่าสุด ก.ค.ศ.ขยายระยะเวลาการย้าย จากกำหนดเดิม ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย. เป็นให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.59

ดังนั้น คาดว่าจะสามารถรับสมัครสอบคัดเลือกครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1/2559 ได้ภายในเดือน ก.ค.59 แต่ก็ยังไม่ถือเป็นข้อสรุป โดยต้องเสนอให้ คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค (คปภ.) ที่มี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาให้ความเห็นชอบ

"การสอบบรรจุครูผู้ช่วย เป็นเรื่องที่ระดับนโยบายที่ต้องตัดสินใจ โดยจะต้องดูองค์ประกอบความพร้อมในหลาย ๆ ส่วน ทั้งความพร้อมของ กศจ.เอง ที่ต้องแก้ปัญหาเรื่องการย้ายครู ให้เรียบร้อยภายในเดือน มิ.ย. ความพร้อมของเขตพื้นที่การศึกษา ที่ต้องรวบรวมอัตราว่าง เพื่อจะเปิดสอบบรรจุ ส่วนการจัดสอบซึ่งต่อไปจะต้องเป็นอำนาจของ กศจ.นั้น ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่มีปัญหา เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนที่กำหนด โดยส่วนกลางอยู่แล้ว"

นายสุเทพ กล่าวและว่า ส่วนกรณีที่ สพฐ.ถูกปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 ในส่วนของเงินเดือนลง 10,000 กว่าล้านบาท เนื่องจากมีอัตราเกษียณว่างสะสมมา 2 ปี และบรรจุไม่ทัน ประมาณ 30,000 อัตรานั้น ตนทราบเรื่องดังกล่าว โดยได้มอบหมายให้เจ้าหน้าไปดูรายละเอียด แต่ในภาพรวมเชื่อว่าไม่กระทบการการพัฒนาการจัดศึกษา หรือการพัฒนาครูอย่างแน่นอน เพราะ สพฐ.ได้รับงบประมาณในโครงการอื่น ๆ มาเพิ่มเติม ทำให้งบฯ ในภาพรวมถูกตัดไปเพียง 5,637 ล้านบาทเท่านั้น 

ที่มา สยามรัฐ วันที่ 30 พฤษภาคม 2559

โพสต์เมื่อ 31 พ.ค. 2559 อ่าน 9873 | 0 ความเห็น