ก.ค.ศ.รื้อเกณฑ์รางวัลระดับชาติ ให้ฝ่ายบริหารช่วยคัด-ดันมาตรฐานเพิ่ม เผยปี 59 เปิดยื่น 1-30 เม.ย.ใช้รูปแบบเดิม



เมื่อวันที่ 27 มกราคม พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมหารือเรื่องการปรับหลักเกณฑ์การรับรองรางวัลสูงสุดระดับประเทศ ตาม ว13/2556 หลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ซึ่งใช้มานานแล้ว และเห็นว่าควรจะต้องปรับ เพื่อให้รางวัลสูงสุดระดับประเทศเป็นรางวัลที่สูงสุดจริงๆ เพราะมีผลต่อการพิจารณาการเลื่อนวิทยฐานะของครูด้วย ถ้าง่ายเกินไป หรือไม่มีมาตรฐาน สังคมจะไม่ยอมรับ โดยมอบให้เลขาธิการ ก.ค.ศ.ไปพิจารณาหลักเกณฑ์ที่ควรจะต้องปรับปรุง แล้วเสนอให้ ก.ค.ศ.พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป

พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวต่อว่า สำหรับการพิจารณาผลงานดีเด่น ประจำปี 2559 ยังคงใช้หลักเกณฑ์เดิม โดยเปิดให้ผู้ขอรับการประเมินยื่นคำขอพร้อมแบบรายงาน และข้อเสนอในการพิจารณางานต่อผู้บังคับบัญชา ได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายนนี้ ผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ย้อนหลังติดต่อกัน 3 ปี ระหว่าง วันที่ 1 พฤษภาคม 2556 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2559 โดยส่วนราชการต้นสังกัดเสนอรายชื่อข้าราชการครูฯที่ได้รับการคัดเลือก เสนอให้ ก.ค.ศ.พิจารณาภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบเพิ่มรางวัลดีเด่นระดับชาติ อีก 75 รางวัล จากเดิมมี 206 รางวัล รวม 281 รางวัล

"ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เนื่องจากรางวัลจะไปกระทบกับงบประมาณแผ่นดิน เพราะมีผลต่อการเลื่อนวิทยฐานะ และเลื่อนขั้นเงินเดือน ซึ่งต่อไปจะรวมอยู่ในหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามข้อตกลงในการพัฒนางาน หรือ ว7/2558 ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุง ดังนั้น ผมจึงกำชับว่าหลักเกณฑ์การให้รางวัลต้อง ดูให้รอบคอบ เพราะมีผลต่อเงินที่รัฐบาลจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้น โดยทุกวันนี้แต่ละหน่วยงาน จะเป็นผู้ที่เสนอรายชื่อผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมรับรางวัลในแต่ละด้านมาให้ ก.ค.ศ.เห็นชอบ แต่แนวทางใหม่ ฝ่ายบริหารจะต้องร่วมคิดว่าควรจะมีรางวัลใดบ้าง ที่จะส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาจริงๆ โดยมองในภาพใหญ่ และกำหนดลงเลยว่าแต่ละองค์กรควรจะมีกี่รางวัล โดยที่ผ่านมาไม่ได้กำหนด แต่ละองค์กรอยากเสนอขอก็ขอ จึงทำให้บางรางวัลซ้ำซ้อน อีกทั้ง อาจจะเปิดกว้างให้ภาคเอกชนเข้ามาส่วนร่วมในการจัด แต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนด" พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าว

พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยัง เห็นชอบรับรองรางวัลสูงสุดระดับชาติ ตาม ที่หน่วยงานต้นสังกัดเสนอ 281 รางวัล และ ไม่รับรอง 238 รางวัล จากที่เสนอมา 519 รางวัล

นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่ประชุมเห็นชอบร่างกฎ ก.ค.ศ.การจัดประเภทตำแหน่งระดับตำแหน่งการให้ได้รับเงินเดือน และเงินประจำตำแหน่งของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 39 ค(2) ฉบับที่... พ.ศ. ... ของ สอศ.ที่กำหนดตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นเพิ่มขึ้นอีก 1 ประเภท คือประเภทอำนวยการ จากเดิมที่มีอยู่ 2 ประเภท คือประเภทบริหาร และประเภทวิชาการ โดยประเภทอำนวยการที่กำหนดขึ้นใหม่ ได้แก่ ตำแหน่งผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการสำนัก หรือศูนย์ของสถาบันการอาชีวศึกษาทั้ง 23 สถาบัน แห่งละ 14 อัตรา รวม 322 อัตรา นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ได้รับเงินประจำตำแหน่ง โดยประเภทอำนวยการระดับต้น จะได้รับเงินประจำตำแหน่ง 5,600 บาท และอำนวยการระดับสูง 10,000 บาท จากนี้จะเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป


ที่มา มติชน ฉบับวันที่ 29 ม.ค. 2559 (กรอบบ่าย)

#showads

เล็งแก้เกณฑ์ครูได้รับรางวัล-เลื่อนวิทยฐานะ

ก.ค.ศ.เล็งปรับแก้เกณฑ์ครูได้รับรางวัลสูงสุดระดับประเทศให้มีมาตรฐานชัดเจน สังคมยอมรับ และเพิ่มรางวัลจากเดิม 206 เป็น 281 รางวัล เพื่อให้ครูกลุ่มนี้ได้รับการเลื่อนวิทยฐานะทันที “ดาวพงษ์” ย้ำผลงานต้องดีต่อการศึกษาจริงๆ เพื่อไม่ให้งบประมาณสูญเปล่า

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมมีการพิจารณาเรื่องการปรับการรองรับรางวัลสูงสุดระดับประเทศ ตาม ว.13/2556 เพราะเห็นว่าเกณฑ์ดังกล่าวใช้มานาน และควรมีการปรับให้รางวัลเป็นรางวัลที่มีคุณค่าสูงสุดจริงๆ จากเดิมที่จะพิจารณาแค่ 206 รางวัล ก็เพิ่มเป็น 281 รางวัล ซึ่งจะมีผลต่อการเลื่อนวิทยฐานะของครูด้วย ถ้ารางวัลง่ายเกินไปหรือไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน สังคมก็จะไม่ยอมรับ จึงมอบหน้าที่ให้นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ไปพิจารณากฎกติกาหรือหลักเกณฑ์มาเสนอให้ทราบในการประชุมครั้งต่อไป ทั้งนี้ยังคงยึดในหลักเกณฑ์เดิมไปก่อนจนกว่ากติกาใหม่จะแล้วเสร็จ

พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาในเรื่องการพิจารณารางวัลดังกล่าวเป็นเรื่องที่แต่ละหน่วยงานเสนอบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมรับรางวัลในแต่ละด้านมาให้ ก.ค.ศ.เป็นผู้พิจารณา แต่แนวทางใหม่ที่จะให้เป็นไปนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเป็นคนคิดว่าควรจะมีรางวัลกี่ประเภท ด้านไหนบ้าง ถึงจะส่งผลให้การศึกษาดีจริง เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ควรจะมีกี่รางวัล ประเภทไหนบ้าง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กี่รางวัล สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) กี่รางวัล เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีการกำหนดอย่างชัดเจน ทำให้อาจจะเกิดการซ้ำซ้อน และหากภาคเอกชนสนใจจะร่วมจัดรางวัลระดับชาติก็สามารถเข้ามาได้ แต่เกณฑ์และคุณสมบัติของผู้เข้ารับรางวัลจะต้องตรงตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำหนดไว้

“อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในอนาคตจะมีการเลิกใช้ ว.13 และปรับมาเป็นหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะหรือเลื่อน ว.7/2558 ก็จะต้องมีการปรับในส่วนนี้อยู่ดี ซึ่งจะสามารถใช้เกณฑ์นี้ต่อไปได้ และที่ประชุมก็ได้หารือกันอย่างกว้างขวาง เพราะเรื่องรางวัลมีผลต่อการเลื่อนวิทยฐานะ และจะนำไปสู่การเพิ่มเงินเดือน ส่งผลกระทบต่องบประมาณ เพราะฉะนั้นต้องดูให้ดี ให้เหมาะสมกับเงินของรัฐบาลที่ต้องจ่ายเพิ่ม” รมว.ศธ.กล่าว

ด้านนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาฯ กอศ.) กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่ประชุมได้เห็นชอบร่างกฎ ก.ค.ศ.การจัดประเภทตำแหน่งระดับตำแหน่งการให้ได้รับเงินเดือน และเงินประจำตำแหน่งของตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่น ตามมาตรา 39 ค (2) ฉบับที่... พ.ศ..... ของ สอศ. ที่มีการกำหนดตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นเพิ่มขึ้นอีก 1 ประเภท คือ ประเภทอำนวยการ จากเดิมที่มีอยู่ 2 ประเภท คือ ประเภทบริหาร และประเภทวิชาการ โดยประเภทอำนวยการที่กำหนดขึ้นใหม่ ได้แก่ ตำแหน่งผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักหรือศูนย์ของสถาบันการอาชีวศึกษาทั้ง 23 สถาบัน แห่งละ 14 อัตรา รวม 322 อัตรา นอกจากนี้ยังกำหนดให้ได้รับเงินประจำตำแหน่ง โดยประเภทอำนวยการระดับต้นจะได้รับเงินประจำตำแหน่ง 5,600 บาท และอำนวยการระดับสูง จำนวน 10,000 บาท หลังจากนี้จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป. 

 

ที่มา ไทยโพสต์ วันที่ 28 มกราคม 2559
http://www.thaipost.net/?q=เล็งแก้เกณฑ์ครูได้รับรางวัล-เลื่อนวิทยฐานะ

โพสต์เมื่อ 28 ม.ค. 2559 อ่าน 7193 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 แผนงานบุคลากรภาครัฐ งบบุคลากร และงบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างพนักงานราชการ (ครั้งที่ 1) [อ่าน 1413]
ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 6450 การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างอัตราจ้างครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน ครั้งที่ 1 [อ่าน 879]
แนวทางการดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ [อ่าน 1244]
สพฐ.ข้อมูลเพื่อการบริหารงานบุคคลตำแหน่ง ผอ. สพท. [อ่าน 1493]
ซักซ้อมการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 3711]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)