"ดาว์พงษ์"รับข้อเสนอแบงก์ออมสิน ดึงเงิน ช.พ.ค.รีไฟแนนซ์-ดอกเบี้ยต่ำ-ปรับหนี้



เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังหารือแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ร่วมกับนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน โดยมี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. เป็นประธาน ว่าธนาคารออมสินรายงานความคืบหน้าหลังเปิดให้ครูที่ผิดนัดชำระหนี้มากกว่า 3 งวดขึ้นไป และถูกธนาคารออมสินยื่นโนติสไปแล้ว 13,405 คน เข้าไกล่เกลี่ย ปรากฏว่ามีครูติดต่อขอไกล่เกลี่ย 6,023 คน เริ่มชำระหนี้แล้ว 1,521 คน ปิดบัญชีแล้ว 21 คน ที่เหลืออยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้เช่นเดียวกับผู้ที่เข้าร่วมมาตรการแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ออกไปก่อนหน้านี้ และยุติโครงการไปเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ส่วนผู้ที่ยังไม่มาติดต่ออีก 7,382 คน ทาง ศธ.ได้ขอให้ธนาคารออมสินยื่นโนติสอีกครั้ง หากยังไม่มาติดต่อก็ให้ดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายต่อไป

นพ.กำจรกล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบตามแนวทางที่ธนาคารออมสินเสนอแนวทางให้ใช้เงินอนาคต เช่น การใช้เงินการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ของ สกสค.ที่ใช้ในการค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งญาติจะได้รับหลังจากสมาชิกเสียชีวิต มาใช้รีไฟแนนซ์ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่ค้างชำระกับธนาคารส่วนหนึ่งก่อน แต่ไม่ใช่ก่อหนี้เพิ่ม ส่วนอัตราดอกเบี้ยเป็นเท่าใดยังบอกไม่ได้ โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 6-6.5 ต่อปี ทั้งนี้จะเสนอเรื่องดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 22 ธันวาคม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป ขณะเดียวกันธนาคารออมสินยังเสนอให้นำเงินบำเหน็จตกทอด ซึ่งญาติจะได้รับหลังจากข้าราชการเสียชีวิต มาใช้ในการค้ำประกันเงินกู้เช่นเดียวกับเงินกู้ ช.พ.ค.ได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องแก้กฎหมาย และต้องไปศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ เพราะเกี่ยวข้องกับหลายส่วน อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้ครูที่เป็นหนี้ ในการลดภาระการผ่อนชำระและลดดอกเบี้ยเท่านั้น ไม่ใช่การใช้หนี้แทน

#showads

"ส่วนที่จะเสนอให้ธนาคารออมสินยกเลิกการคืนเงินให้กับกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.และเปลี่ยนมาเป็นลดดอกเบี้ยให้ผู้กู้แทนนั้น พล.อ.ดาว์พงษ์อยากให้นำเงินจำนวนนี้มาใช้บริหารจัดการเรื่องสวัสดิการครูมากกว่าการยกเลิก โดยเฉพาะครูที่อยู่ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) ซึ่งจะได้รับเงินเดือนไม่ตรงในช่วงเปลี่ยนผ่านงบประมาณ ก็อาจนำเงินดังกล่าวไปช่วยก่อนได้ สำหรับครูที่ค้างชำระหนี้ และธนาคารออมสินหักเงินส่วนนี้ไปชำระหนี้แทนนั้น ขณะนี้ สกสค.อยู่ระหว่างติดตามทวงหนี้ ซึ่งจะต้องนำเงินมาคืนทั้งหมด" นพ.กำจรกล่าว

ด้านนายชาติชายกล่าวว่า เงิน ช.พ.ค.เป็นเงินที่ครูนำมาค้ำประกันหนี้อยู่แล้ว แต่ธนาคารพยายามจะบริหารจัดการโดยนำเงินส่วนหนึ่งมาตั้งเป็นวงเงินกู้เพื่อลดภาระในการผ่อนชำระ แต่ไม่ได้นำเงิน ช.พ.ค.มาทั้งหมด 100% หาก ครม.เห็นชอบตามที่ธนาคารออมสินเสนอ ให้นำเงิน ช.พ.ค.มา รีไฟแนนซ์ จะมีครูที่เป็นลูกหนี้ของธนาคารออมสินประมาณ 3 แสนคน สามารถเคลียร์ยอดหนี้ได้ในวงเงินที่เพียงพอ โดยปัจจุบันมีครูที่กู้เงินจากธนาคารออมสินประมาณ 490,000 คน มูลหนี้รวมกว่า 490,000 ล้านบาท

 

ที่มา มติชน ฉบับวันที่ 16 ธ.ค. 2558 (กรอบบ่าย)

 

โพสต์เมื่อ 15 ธ.ค. 2558 อ่าน 8756 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 แผนงานบุคลากรภาครัฐ งบบุคลากร และงบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างพนักงานราชการ (ครั้งที่ 1) [อ่าน 1413]
ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 6450 การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างอัตราจ้างครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน ครั้งที่ 1 [อ่าน 879]
แนวทางการดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ [อ่าน 1244]
สพฐ.ข้อมูลเพื่อการบริหารงานบุคคลตำแหน่ง ผอ. สพท. [อ่าน 1493]
ซักซ้อมการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 3711]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)