ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาครูและบุคลากรทางการศึกษาฯ ครั้งที่ 2/2558



รศ. นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งพัฒนาระบบการสรรหา และการพัฒนาคุณภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ ครั้งที่ ๒/๒๕๕๘ เมื่อวันพุธที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ ณ ห้องประชุมราชวัลลภ ชั้น ๒ กระทรวงศึกษาธิการ

โดยประธานได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า จะต้องเร่งสรุปการประชุมครั้งนี้ เพื่อนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา หรือซุปเปอร์บอร์ดการศึกษาต่อไป และทั้งนี้ที่ประชุมได้รับรองการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาครูและบุคลากรทางการศึกษาฯ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคมที่ผ่านมา และกำหนดประเด็นปัญหาและสรุปเป็นข้อเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาครูและบุคลากรทางการศึกษา แบ่งเป็น ๓ ด้าน ได้แก่ ด้านการผลิตครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้านบริหารงานบุคคล และด้านการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา

- ด้านการผลิตครูและบุคลากรทางการศึกษา

๑) แผนปรับปรุงการผลิตครูเชิงปริมาณ ได้แก่ การจัดทำแผนความต้องการครู ราย ๑๐ ปี (๒๕๕๙-๒๕๖๘) และราย ๑๕ ปี (๒๕๕๙-๒๕๗๓)

๒) แผนยกระดับคุณภาพการผลิตครู ได้แก่ โครงการพัฒนามาตรฐานวิชาชีพมาตรฐานคุณวุฒิ และระบบการควบคุมการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และโครงการคุรุทายาท

- ด้านการบริหารงานบุคคล

๑) การวางแผนยุทธศาสตร์และข้อมูลสารสนเทศ

๒) การพัฒนากรอบอัตรากำลัง

๓) การสรรหา บรรจุและแต่งตั้งการเปลี่ยนตำแหน่ง/ย้าย/โอน

๔) การประเมินวิทยฐานะ

๕) ข้อเสนอแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

๖) การเสริมสร้างประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน และ ๗) การตรวจสอบ ติดตามการใช้อำนาจ และการประเมินผล

- ด้านการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา

๑) การพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีจำนวนนักเรียนไม่เกิน ๒๐ คน ด้วยการจัดโครงการพัฒนาผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อแก้ปัญหาการจัดการเรียนการสอน (จำนวน ๑,๐๕๙ โรง)

๒) โครงการการพัฒนาครูที่สอนไม่ตรงวิชาเอกในรูปแบบต่อยอดและเชื่อมโยง ในโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ๗,๐๖๘ โรงเรียน จำนวน ๓ รายวิชา ได้แก่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ

๓) โครงการพัฒนาครูที่สอนมากกว่า ๑ ห้องเรียน ซึ่งมีสภาพปัญหา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำ ผู้เรียนขาดคุณภาพ จำนวนโรงเรียน ๑๒,๓๙๓ โรงทั่วประเทศ

 

 

ทั้งนี้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในโอกาสนี้ว่า การแก้ไขปัญหาด้านการบริหารงานบุคคล เห็นชอบควรให้สภาการศึกษา และ ก.ค.ศ. (ร่าง) กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล สำหรับข้าราชการครูและบุคลการทางการศึกษาขึ้นใหม่ ภายในระยะเวลาดำเนินการ ๑ เดือน เพื่อปรับปรุงให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ส่วนด้านการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษานั้น ควรมีความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษา คณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ในเขตพื้นที่ โดยพัฒนาโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน เป็นทีม Coaching, Mentoring พัฒนาร่วมกับเขตพื้นที่ และทำ R&D หรือ Action Research ควบคู่กับการพัฒนาเพื่อให้ได้รูปแบบการพัฒนาของสถานศึกษาแต่ละแห่ง เพื่อได้ผู้เรียนที่มีคุณภาพตามต้องการ 

 

ที่มา กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 28 ตุลาคม 2558

โพสต์เมื่อ 29 ต.ค. 2558 อ่าน 6174 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


สพฐ.ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) [อ่าน 192]
ก.ค.ศ.เห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา [อ่าน 2708]
ก.ค.ศ.เห็นชอบปรับปรุงการเข้าสู่ตำแหน่ง สายงานบริหารสถานศึกษาและบริหารการศึกษา ควรต้องผ่านการเป็นรองผู้อำนวยการฯ มาก่อน และควรมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าชำนาญการพิเศษ [อ่าน 1082]
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 9/2567 เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2567 [อ่าน 5627]
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 2426]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)