#showpic
ผลประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนงาน ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศปข.ศธ.) ครั้งที่ 1/2558
สรุปผลการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศปข.ศธ.) ครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันจันทร์ที่ 7 กันยายน 2558 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ โดยมีพันเอก ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะเลขานุการ ศปข.ศธ. เป็นประธานการประชุม โดยมีประเด็นสำคัญจากการประชุมสรุปดังนี้
ที่ประชุมได้รับทราบคำสั่งแต่งตั้ง ศปข.ศธ. โดยมี รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ และมี รมช.ศึกษาธิการ เป็นรองประธานกรรมการ, กรรมการ ประกอบด้วยผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงฯ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ที่ปรึกษา รมช.ศึกษาธิการ คณะทำงานของรัฐมนตรี หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน (สนย./สนผ.) องค์กรหลัก/สำนักงาน กศน./สช. หัวหน้ากลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานรัฐมนตรี และหัวหน้ากลุ่มสารนิเทศ สป. โดยมีเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ เป็นกรรมการและเลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ และผู้อำนวยการ สนย.สป. เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
เพื่อทำหน้าที่ติดตามข้อสั่งการของ รมว.ศึกษาธิการ รับทราบปัญหาข้อขัดข้องในการดำเนินการตามนโยบาย วิเคราะห์ข้อเสนอขององค์กรหลัก/คณะทำงานระดับคลังสมองของรัฐมนตรี เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล และรวบรวมความคีบหน้ารายงานรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันงานสำคัญตามนโยบาย รมว. ศึกษาธิการ 26 เรื่องหลักให้เป็นรูปธรรม มีระบบและเป็นไปตามห้วงเวลาที่กำหนด
ที่ประชุมรับทราบการแบ่งงานให้ รมช.ศึกษาธิการ ขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งแบ่งงานเป็น 2 ส่วน คือ 1) แบ่งงานตามอำนาจหน้าที่ โดยมอบให้พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ดูแลรับผิดชอบ สพฐ.-สอศ.-สำนักงาน กศน. ส่วนนายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ดูแลรับผิดชอบ สกอ.-สกศ.-สสวท.-สทศ. 2) แบ่งงานตามนโยบาย 26 เรื่อง โดยในส่วนนี้จะมีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการมาช่วยขับเคลื่อน รายละเอียดดังนี้
26 นโยบาย |
||||||
ที่ |
นโยบาย |
รมช.ศธ. |
รมช.ศธ. |
ผช.รมต.ศธ. |
||
1 | การแปลงพระราชดำรัสฯ เกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาไปเป็นแผนงานโครงการ | |||||
2 | การปรับปรุงโครงสร้างเวลาเรียน (ป.1-ม.3) | |||||
3 | การประเมินเพื่อความก้าวหน้าที่สอดคล้องกับผลการพัฒนาผู้เรียน | |||||
4 | การจัดทำโครงการอบรมสัมมนาต้องตอบโจทย์ | |||||
5 | การลดภาระงานที่ไม่เกี่ยวกับการสอนของครู การลดนำเด็กออกจากห้องเรียน | |||||
6 | การยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในทุกหลักสูตร | |||||
7 | การนำ ICTมาใช้ใน ศธ.อย่างกว้างขวาง | |||||
8 | การแก้ไขปัญหาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ | |||||
9 | การแก้ไขปัญหาการทุจริต | |||||
10 | การเปลี่ยนค่านิยมให้เข้าสู่อาชีวศึกษาให้มากขึ้น 1) การจัดการศึกษาระบบทวิศึกษา |
|||||
11 | 2) ความร่วมมือกับสถานประกอบการและสถานศึกษาในการฝึกภาคปฏิบัติ จบแล้วสามารถประกอบอาชีพได้ทันที | |||||
12 | 3) การลดเรื่องการทะเลาะวิวาท โดยให้โอกาสนักศึกษาเข้าฝึกงานในสถานประกอบการ | |||||
13 | 4) การทำให้สถานศึกษาอาชีวะมีความเป็นเลิศเฉพาะด้าน | |||||
14 | 5) การจัดการศึกษาอาชีวะมาตรฐานสากล | |||||
15 | สกอ. 1) กำหนดบทบาทการผลิตนักศึกษาให้ชัดเจนตามความถนัดและความเป็นเลิศของแต่ละสถาบัน ลดความซ้ำซ้อน |
|||||
16 | 2) กำหนดให้มี Outcome เช่น การวิจัยและพัฒนาจนเกิดเป็นนวัตกรรมที่เกิดจากทรัพยากรในท้องถิ่น | |||||
17 | 3) สถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ ต้องเป็นพี่เลี้ยงให้แก่โรงเรียนในการพัฒนาท้องถิ่น | |||||
18 | สำนักงาน กศน. 1) จัดโครงการติวเข้มเติมเต็มความรู้ |
|||||
19 | 2) จัดโครงการเรียนร่วมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมฯ ตอนปลาย เพื่อพัฒนากำลังคนด้านอาชีวศึกษาให้มากขึ้นและตรงตามความต้องการ | |||||
20 | 3) ส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาคนทุกช่วงวัย โดยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต | |||||
21 | 4) ให้ กศน.ตำบล เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเชื่อมประสานระหว่างบ้าน วัด โรงเรียน โดยดำเนินการในรูปคณะกรรมการ กศน.ตำบลในวัด | |||||
22 | สกสค. | |||||
23 | การอำนวยการเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน | |||||
24 | การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา | |||||
25 | การปฏิรูปการศึกษา | |||||
26 | การสอนให้นักเรียนนักศึกษาตัดสินใจโดยการใช้ความเป็นจริง (fact) มากกว่าความรู้สึก (Feeling) |
- ช่วงเวลา 1-2 สัปดาห์นี้ จะเน้นการติดตามแผนการดำเนินงานและผลการดำเนินงานใน 3 เรื่อง คือ การยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษ การปรับลดเวลาเรียน และการเปลี่ยนค่านิยมในการเรียนอาชีวศึกษา โดยขอให้คณะทำงานและผู้รับผิดชอบจัดทำผังแนวความคิด (Mind Map) ให้มีความก้าวหน้าเพื่อเสนอในวันศุกร์ที่ 11 กันยายนนี้, สำหรับโครงสร้างหลักสูตรและกิจกรรมที่จะดำเนินการตามนโยบายลดเวลาเรียนนั้น จะต้องนิ่งภายในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ เพื่อประกาศใช้ในช่วงเปิดภาคเรียนเดือนพฤศจิกายนนี้
- การดำเนินการตาม Roadmap 26 นโยบาย ให้ สนย./สนผ.ทุกองค์กรหลักและหน่วยงานต่างๆ จัดทำรายละเอียดการดำเนินการตามนโยบายให้เสร็จสิ้นภายใน 2 สัปดาห์นี้ เพื่อให้เป็นกรอบแนวทางดำเนินการขับเคลื่อนตลอดปีงบประมาณ 2559 รวมทั้งใช้ในการขออนุมัติจัดสรรวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ของกระทรวงศึกษาธิการด้วย ซึ่งขอให้พิจารณาดำเนินการตามแนวคิดของ รมว.ศึกษาธิการ คือ ฉีกปัญหาให้ขาด ต้องลงไปถึงฐานข้อมูลระดับต่างๆ และนำตารางประสานสอดคล้องมาใช้จัดทำ Roadmap และเมื่อกระทรวงศึกษาธิการได้เห็นชอบ Roadmap แล้ว จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อรับทราบ ซึ่งจะมีผลต่อการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐบาล เช่น งบกลาง ต่อไปด้วย
- จะมีการประชุมคณะกรรมการชุดนี้ทุกวันจันทร์ เวลา 9.30 น. ณ ห้องประชุมราชวัลลภ ซึ่งผลจากการประชุม ศปข.ศธ. ถือเป็นแนวทางดำเนินการขับเคลื่อนตามนโยบายดังกล่าวได้ทันทีโดยยังไม่ต้องรอหนังสือสั่งการ และก่อนหน้านั้นทุกวันพฤหัสบดีจะมีการประชุมเฉพาะคณะทำงานรัฐมนตรีและ สนย./สนผ. เพื่อจัดเตรียมข้อมูลการประชุม ซึ่ง สนย.สป. จะเป็นผู้ติดตามประสานงานข้อมูลโดยตรงกับองค์กรหลักและหน่วยงานในกำกับ
- เรื่องร้องเรียนต่างๆ ขอให้ทุกหน่วยงานให้ความสนใจและดำเนินการ และควรมีการรายงานผลความคืบหน้าต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับเป็นระยะๆ ด้วย โดยเฉพาะเรื่องที่มาจาก ปปช. และ สตง. นั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบควรจะต้องชี้แจง รายงานผลความคืบหน้า ข้อยุติ ให้ทันภายในกำหนดระยะเวลา
- งานด้านประชาสัมพันธ์ จากการที่รัฐบาลได้จัดพิมพ์ "จดหมายข่าวรัฐบาลเพื่อประชาชน" รายปักษ์ขึ้น จึงเป็นช่องทางสำคัญที่ทุกหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการควรให้ความสำคัญ โดยสลับหมุนเวียนส่งไปตีพิมพ์เผยแพร่ ซึ่งข้อมูลข่าวสารก็จะต้องสอดคล้องกับ 26 นโยบายกระทรวงศึกษาธิการด้วย ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบให้กลุ่มสารนิเทศ สป. ไปหารือกับกลุ่มงานด้านประชาสัมพันธ์องค์กรหลักต่างๆ ต่อไป รวมทั้งหารือแนวคิดและแนวทางดำเนินการสื่อสาร "เสมาสนเทศ" แล้วให้นำเสนอต่อที่ประชุม ศปข.ศธ. พิจารณาครั้งต่อไปด้วย
ที่มา กระทรวงศึกษาธิการ วันที่ 7 กันยายน 2558
โพสต์เมื่อ 8 ก.ย. 2558 อ่าน 16764 | 0 ความเห็น
·····
·····
จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)