วินัยข้าราชการครูเกี่ยวกับการเลือกตั้ง



สวัสดีค่ะเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน ในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2557 นี้ ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของท่านทั้งหลาย เนื่องจากเป็นวันเลือกตั้งอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งเป็นองค์คณะบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา โดยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษานั้นๆ จะเป็น ผู้ลงคะแนนเลือกตั้ง เพื่อเลือกผู้สมัครเลือกตั้ง เข้ามาเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งประกอบด้วยอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครู อนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา และอนุกรรมการผู้แทนบุคลากรทางการศึกษา ประเภทละ 1 คน

เพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนใจให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ใน 169 เขตพื้นที่การศึกษา ที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2557 ว่า การเลือกตั้งผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มิใช่เป็นเพียงสิทธิที่จะไปลงคะแนนเลือกตั้งเท่านั้น หากแต่ต้องถือว่าเป็นหน้าที่ตามบทบัญญัติของกฎหมาย ตามมาตรา 83 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ที่กำหนดให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีหน้าที่วางรากฐานให้เกิดระบอบการปกครองเช่นว่านั้น การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความสำคัญต่อทุกคนเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ดิฉันขอนำบทบัญญัติเกี่ยวกับวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในการปฏิบัติตนในการเลือกตั้งมาบอกกล่าวกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กล่าวคือ ตามมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน กำหนดไว้ว่า "ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องวางตนเป็นกลางทางการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่ และในการปฏิบัติการอื่นที่เกี่ยวข้องกับประชาชน โดยต้องไม่อาศัยอำนาจและหน้าที่ราชการของตนแสดงการฝักใฝ่ ส่งเสริม เกื้อกูล สนับสนุนบุคคล กลุ่มบุคคล หรือพรรคการเมืองใด

ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการดำเนินการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการทุจริตโดยการซื้อสิทธิหรือขายเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือการเลือกตั้งอื่นที่มีลักษณะเป็นการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งจะต้องไม่ให้การส่งเสริมสนับสนุน หรือชักจูงให้ผู้อื่นกระทำการในลักษณะเดียวกัน การดำเนินการที่ฝ่าฝืนหลักการดังกล่าวนี้ เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง" ส่วนท่านที่เป็นผู้บังคับบัญชาก็ต้องมีหน้าที่ป้องกันมิให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระทำผิดวินัย และไม่อาศัยอำนาจหน้าที่ราชการของตน กระทำการใดๆ อันมิชอบด้วยกฎหมายอีกด้วย

ที่ดิฉันได้นำบทกฎหมาย มาบอกกล่าวเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในวันนี้ ก็เพื่อเตือนสติทุกท่าน ให้พึงระวังและอย่าได้กระทำการใดๆ ที่จะนำมาซึ่งการกระทำผิดวินัยดังกล่าว และในฐานะที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาถือเป็นปูชนียบุคคลที่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้เรียนและสังคม ก็ต้องแสดงพลังประชาธิปไตยอันบริสุทธิ์ เพื่อให้เป็นการเลือกตั้งที่ใสสะอาดและได้ผู้แทนที่ดี มีความรู้คู่คุณธรรม มาบริหารงานบุคคลอันจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ราชการต่อไป แล้วพบกันสัปดาห์หน้าค่ะ

ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ.

 

ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2557

โพสต์เมื่อ 4 ก.ย. 2557 อ่าน 11571 | 1 ความเห็น

ความคิดเห็นที่ 1 | โดย คุณdam (โพสต์เมื่อ 5 ก.ย. 2557 เวลา 09:43 น.)
ถ้าทำอย่างตรงไปตรงมาไม่ลูบหน้าปะจมูกกัน รับรองประเทศชาติก้าวหน้ามโหฬารแล้ว ทุกวันนี้รู้แต่ไม่ทำ ถึงทำก็แอบเอื้อให้กัน

·····

เรื่องอื่นๆ


จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 แผนงานบุคลากรภาครัฐ งบบุคลากร และงบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างพนักงานราชการ (ครั้งที่ 1) [อ่าน 1413]
ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 6450 การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างอัตราจ้างครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน ครั้งที่ 1 [อ่าน 879]
แนวทางการดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ [อ่าน 1244]
สพฐ.ข้อมูลเพื่อการบริหารงานบุคคลตำแหน่ง ผอ. สพท. [อ่าน 1493]
ซักซ้อมการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 3711]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)