การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ (จบ)



สัปดาห์ที่แล้วได้นำเสนอหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อเยียวยาให้มีหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ในเรื่องของคุณสมบัติของผู้เข้ารับการพัฒนา กรอบเวลาการยื่นขอเข้ารับการพัฒนา และการดำเนินการพัฒนา ในสัปดาห์นี้จะนำวิธีการในทางปฏิบัติมานำเสนอต่อเนื่องกัน ดังนี้

5.ผู้ที่ผ่านการพัฒนาตามหลักสูตรที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้ถือว่าเป็นผู้ผ่านการพัฒนาก่อนแต่งตั้งเฉพาะหลักเกณฑ์และวิธีการนี้เท่านั้น

6.ให้มีการพัฒนาเมื่อปิดภาคเรียนที่ 2 ในช่วงเวลาวันที่ 21 เมษายน-10 พฤษภาคม เพื่อมิให้กระทบต่อการจัดการเรียนการสอน

7.เมื่อผู้ขอผ่านการพัฒนาแล้ว ให้ไปพัฒนา การปฏิบัติงานในหน้าที่ ณ สถานศึกษา เป็นเวลา 1 ภาคเรียน สำหรับผู้ที่ไม่ได้สังกัดสถานศึกษาให้พัฒนาการปฏิบัติงานในหน้าที่ ณ สถานที่ปฏิบัติงาน ในช่วงเวลาเดียวกับผู้ที่ปฏิบัติงานในสถานศึกษา

8.ให้ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นของผู้ที่ผ่านการพัฒนาแล้ว ตั้งคณะกรรมการประเมินการปฏิบัติงานในหน้าที่ ประกอบด้วย ผู้บังคับบัญชาชั้นต้น เป็นประธานกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เหมาะสมและมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าชำนาญการพิเศษ จำนวน 2 คน เป็นกรรมการ

9.เมื่อพัฒนาการปฏิบัติงานในหน้าที่แล้วให้จัดทำเอกสารรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 1 รายการ และผลงานทางวิชาการ จำนวน 1 รายการ รายการละ 4 ชุด และส่งถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ภายในช่วงเวลาวันที่ 5-31 ตุลาคม เว้นแต่ผู้ที่จะเกษียณอายุราชการในปีที่เข้ารับการพัฒนา ให้ส่งเอกสารรายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่และผลงานทางวิชาการ ภายในช่วงเวลาวันที่ 10-30 กันยายน

10.ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ตั้งผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีความรู้ความสามารถและเชี่ยวชาญในสาขาที่จะตรวจและประเมิน ซึ่งมีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะชำนาญการพิเศษหรือเทียบเท่า จากบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ.กำหนดการประเมินผู้ขอ 1 ราย ให้มีกรรมการประเมิน 3 คน โดยต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒินอกสังกัด อย่างน้อย 1 คน

11.เกณฑ์การตัดสิน ผู้ผ่านการประเมินต้องได้คะแนนรวมตามองค์ประกอบข้อ 3 (1)-(4) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 (350 คะแนน)

12.หากผู้ขอผู้ใดเปลี่ยนตำแหน่ง หรือโอน ในระหว่างการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ การดำเนินการตามคำร้องของผู้นั้นถือเป็นอันยุติ เว้นแต่ผู้นั้นได้ส่งเอกสารรายงานผลการปฏิบัติงานที่ครบถ้วนสมบูรณ์ไว้ก่อนเปลี่ยนตำแหน่งหรือโอน

13.การพิจารณาอนุมัติผลการประเมินเพื่อให้มีหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้อนุมัติ ก่อนวันที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้รับเอกสารรายงานผลการปฏิบัติงานที่ครบถ้วนสมบูรณ์
กรณีผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาไม่อนุมัติโดยมิให้มีการปรับปรุง

14.เมื่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาผลการประเมินและมีมติเป็นประการใดแล้ว ให้ถือเป็นอันสิ้นสุด

15.ให้ผู้ขอเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งนี้ ไม่ควรเกินรายละ 8,000 บาท

16.ผู้ที่ไม่ผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้ หากประสงค์จะขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ ให้ขอได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการปกติ ไม่มีสิทธิขอตามหลักเกณฑ์และวิธีการนี้อีก

ดังนั้น จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น เตรียมยื่นเสนอขอเข้ารับการพัฒนาตามกำหนดวัน เวลา ดังกล่าว เพื่อจะได้ไม่พลาดการพัฒนาครั้งนี้

จรุงรัตน์ เคารพรัตน์
ผอ.ภารกิจระบบตำแหน่งและวิทยฐานะที่ 1


ที่มา : มติชน ฉบับวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2556

โพสต์เมื่อ 17 เม.ย. 2556 อ่าน 17299 | 0 ความเห็น

·····

เรื่องอื่นๆ


จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 แผนงานบุคลากรภาครัฐ งบบุคลากร และงบดำเนินงาน เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างพนักงานราชการ (ครั้งที่ 1) [อ่าน 1413]
ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 6450 การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นค่าตอบแทนการจ้างอัตราจ้างครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน ครั้งที่ 1 [อ่าน 879]
แนวทางการดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา มีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ [อ่าน 1244]
สพฐ.ข้อมูลเพื่อการบริหารงานบุคคลตำแหน่ง ผอ. สพท. [อ่าน 1493]
ซักซ้อมการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู และผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ. [อ่าน 3711]

·····

จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)