ไบโอติน เป็นวิตามินที่แพร่หลายในวงการความสวยความงาม สามารถลดปัญหาผมขาดร่วง บำรุงเล็บ และทำให้ผิวมีสุขภาพดี วันนี้ ลองมาทำความรู้จักกับไบโอตินกัน
ไบโอตินคืออะไร?
ไบโอติน (biotin) หรือ วิตามินเอช (vitamin H) หรือที่หลายคนอาจเคยเห็น หรือได้ยินในชื่อ วิตามินบี 7 (vitamin B7) เป็นสารจำเป็นในการเจริญของยีสต์ และจุลินทรีย์หลายชนิด เป็นวิตามินในกลุ่มวิตามินบีซึ่งสามารถละลายน้ำได้ โดยไบโอตินมีความสำคัญต่อการเจริญของเซลล์ การผลิตกรดไขมัน กรดอะมิโนและการเผาผลาญไขมัน
ไบโอตินพบได้ในอาหารประเภทใดบ้าง?
ไบโอตินพบได้ในอาหารที่อุดมไปด้วยไบโอติน ได้แก่ ตับหมู ไตวัว เนื้อวัว ปลาเนื้อขาว ไข่แดง น้ำมันปลา ข้าวกล้อง ข้าวโพด รำข้าวสาลี เมล็ดพืชต่างๆ ยีสต์ ไข่ น้ำนม เนย โยเกิร์ต ผักต่างโดยเฉพาะดอกกะหล่ำ กะหล่ำปลี เห็ด แครอท และผลไม้ต่างๆ
ไบโอตินพบได้ในอาหารหลายประเภท แต่มักจะพบในปริมาณที่น้อยกว่าวิตามินที่ละลายได้ในน้ำชนิดอื่นๆ ถึงกระนั้นร่างกายมนุษย์ก็ต้องการไบโอตินต่อวันเป็นจำนวนน้อยมาก แค่ 100-150 ไมโครกรัมเท่านั้น นอกจากนี้แบคทีเรียในลำไส้ยังสามารถสังเคราะห์ไบโอตินขึ้นมาได้เองอีกด้วย ดังนั้นหากมั่นใจว่าเราทานอาหารที่มีประโยชน์ตามที่แนะนำไปด้านบนอย่างสม่ำเสมอ ก็อาจจะหลีกเลี่ยงภาวะขาดไบโอตินไปได้อย่างอัตโนมัติ
ประโยชน์ของไบโอติน
1. ช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ตามปกติ
2. ช่วยให้กล้ามเนื้อในกระเพาะและลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
3. ช่วยบำรุงผิวหนัง ให้เปล่งปลั่ง เต่งตึง
4. ช่วยบำรุงเส้นผม ลดปัญหาการหลุดร่วงของเส้นผม
5. ช่วยบำรุงดวงตา และปากให้ชุ่มชื้น
6. ช่วยบำรุงตับให้แข็งแรง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อาการของผู้ที่ขาดไบโอติน
- อ่อนเพลีย หมดเรี่ยวแรง และอาจเจ็บปวดกล้ามเนื้อ
- คลื่นไส้ อาเจียน หรืออาจมีความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร เช่น มีอาการเบื่ออาหาร
- มีอาการทางระบบประสาท เช่น ซึมเศร้า ประสาทหลอน นอนไม่หลับ
- เกิดความผิดปกของระบบผิว เช่น เป็นผื่นคัน โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา
- จมูก ปาก และ บริเวณอวัยวะเพศ ผิวแห้ง ผิวคล้ำ และเป็นจ้ำ การรับสัมผัสทางผิวพรรณผิดปกติ
- มีปัญหาผมขาดหลุดร่วง
- ระบบการเผาผลาญไขมันผิดปกติ การเผาผลาญไขมันน้อยลง ทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดสูง
ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย
โพสต์เมื่อ 2 พ.ค. 2565 อ่าน 2,918 ครั้ง
จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)