งานวิจัยล่าสุดทุกวันนี้เด็ก ๆ ทั่วโลกใช้คอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น ร่วมทั้งแป้นคีย์บอร์ดแบบดั้งเดิมและแบบสัมผัส ขณะที่การเขียนด้วยมือลดน้อยลง งานวิจัยล่าสุดชี้ว่าอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมองและทักษะเชิงสร้างสรรค์
ศ. คาริน เจมส์ นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยอินเดียน่า ในสหรัฐฯ บอกว่าการเขียนด้วยมือมีความสำคัญต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก ศ. เจมส์ได้ศึกษาเด็กที่อยู่ในวัยที่ยังไม่สามารถสะกดออกมาเป็นคำ ๆ ได้ เพียงแค่อ่านตัวอักษรได้เป็นตัว ๆ เท่านั้น โดยแบ่งเด็กออกเป็นกลุ่ม ๆ และฝึกให้พวกเขาหัดพิมพ์บนแป้นคีย์บอร์ด และมีกลุ่มที่เรียนโดยการเขียน
จากนั้นได้ทดสอบการเรียนรู้ของพวกเขา โดยสแกนสมองเพื่อดูการทำงานของสมองและการใช้ออกซิเจนของสมอง นักวิจัยพบว่าสมองทำงานต่างกันระหว่างการการเรียนรู้โดยการเขียนและการพิมพ์ การกระตุ้นในสมองของเด็กในกลุ่มที่เรียนโดยการเขียนมีลักษณะคล้าย ๆ กับคนที่สามารถอ่านและเขียนได้ ขณะที่การกระตุ้นในรูปแบบนี้ไม่เกิดขึ้นในสมองของเด็กที่เรียนรู้ด้วยการพิมพ์
นอกจากนั้นสมองยังตอบสนองต่อตัวอักษรที่ปรากฏขึ้นต่างกันด้วย ข้อมูลจากการสแกนสมองชี้ให้เห็นว่าการเขียนเป็นกระบวนการที่เชื่อมให้เกิดกระบวนการอ่าน ทำให้เกิดทักษะการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อทางสรีระและความคล่องแคล่วที่จำเป็นต่อพัฒนาการด้านการเรียนรู้
ศ. เจมส์ ชี้ว่า ทุกวันนี้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกพยายามนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในโรงเรียนในกลุ่มเด็กที่อายุยังน้อย และงานวิจัยชิ้นนี้อาจส่งผลต่อนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ในโรงเรียนได้ โรงเรียนบางแห่งในสหรัฐฯ เปิดโอกาสให้ครูใช้วิธีการเขียนแทนการใช้คอมพิวเตอร์ได้ ขณะที่นักการศึกษาบางคนเลิกการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์แล้ว ศ. เจมส์บอกว่าทางออกทางหนึ่งคือให้ใช้ปากกาสไตลัสสำหรับเขียนบนแท็บเล็ตแทน ซึ่งคล้ายกับการเขียนแบบสมัยก่อน
ขอขอบคุณบทความจาก BBC THAI
โพสต์เมื่อ 8 พ.ค. 2558 อ่าน 20,119 ครั้ง
จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)