ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารธุรกิจต่างชาติชี้อินโดนีเซียและไทยเป็นประเทศที่มีคอร์รัปชั่นมากที่สุดในเอเชีย เอเอฟพี อ้างผลการสำรวจของบริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ (เพิร์ค) ว่า สิงคโปร์และฮ่องกงยังรั้งตำแหน่ง 2 อันดับแรกของประเทศที่มีการคอร์รัปชั่นน้อยที่สุดในภูมิภาค แม้ว่าจะมีความวิตกเรื่องการฉ้อโกงของภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอินโดนีเซียจะถูกมองในแง่ลบ แต่เพิร์คระบุว่ามีความก้าวหน้าอย่างแท้จริงเกี่ยวกับการจัดการกับปัญหานี้ภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีสุสิโล บัมบัง ยูโดโยโน ที่กำลังพยายามให้ได้รับการเลือกตั้งกลับมาอีกในเดือนกรกฏาคมนี้ แต่แน่นอนว่า คะแนนที่ได้แสดงว่าการคอร์รัปชั่นในภาครัฐและเอกชนยังอยู่ในระดับสูงมาก ขณะเดียวกันผลการสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในอินโดนีเซียชื่นชมแนวทางของคณะกรรมาธิการต่อต้านการทุจริต ในการต่อสู้กับการคอร์รัปชั่น มากกว่าผู้ที่อาศัยในประเทศอื่นๆ ที่ติดอันดับไม่ดีเช่นกัน ผลสำรวจครั้งนี้ มาจากผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 1,700 คนจาก 14 ประเทศเอเชีย รวมทั้งออสเตรเลีย และสหรัฐ ที่นำมาเปรียบเทียบ ตามระบบนี้ คะแนน 0 หมายถึงดีที่สุด และ 10 คือแย่ที่สุด ทั้งนี้อินโดนีเซียได้คะแนน 8.32 ด้านไทยถูกมองเป็นประเทศที่มีการคอร์รัปชั่นมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ด้วยคะแนน 7.63 ซึ่งเพิร์ค ระบุว่า นักลงทุนกังวลเรื่องเสถียรภาพทางการเมืองมากยิ่งขึ้น และมีผู้บริหารต่างชาติจำนวนน้อยมาก ที่เห็นว่าการคอร์รัปชั่นทำให้ประเทศน่าดึงดูดใจน้อยลงในแง่การเข้ามาอยู่อาศัย หรือทำธุรกิจ ส่วนกัมพูชารั้งอันดับประเทศที่มีคอร์รัปชั่นสูงสุดเป็นอันดับ 3 ด้วยคะแนน 7.25 ตามด้วยอินเดีย 7.21 และเวียดนาม 7.11 ทั้งนี้ประเทศที่ได้คะแนนสูงกว่า 7.0 ถือว่ายังมีปัญหาคอร์รัปชั่นมาก ขณะเดียวกันฟิลิปปินส์ที่ติดอันดับเบอร์ 1 ด้านคอร์รัปชั่นเมื่อปีกลาย กลับมารั้งตำแหน่งอันดับ 6 นับจากท้าย ด้วยคะแนน 7.0 ขณะที่มาเลเซียได้คะแนน 6.70 ไต้หวัน 6.47 จีน 6.16 มาเก๊า 5.84 เกาหลีใต้ 4.64 และญี่ปุ่น 3.99 โดยประเทศที่ได้คะแนนระหว่าง 4.0-7.0 ถือว่ามีระดับการคอร์รัปชั่นปานกลาง ส่วนสิงคโปร์ที่มีการคอร์รัปชั่นน้อยที่สุด ได้คะแนน 1.07 ตามด้วยฮ่องกง 1.89 ด้านออสเตรเลียมีคะแนน 2.40 และสหรัฐ 2.89 พร้อมกันนี้เพิร์ค ระบุว่า มีความเป็นไปได้ว่าแรงกดดันจากเศรษฐกิจถดถอยจะทำให้การคอร์รัปชั่นในภาคเอกชนสูงขึ้นในปีนี้ ข้อมูลจาก :

Advertisement