เมล็ดฟักทอง เล็กๆ นี้ก็มีคุณค่าไม่แพ้ผลฟักทองลูกโตๆ เหมือนกัน โดยคุณค่าทางอาหารนั้นก็เช่น ให้โปรตีนมากรองลงมาจากถั่วลิสง มีไขมันต่ำ ให้ธาตุเหล็กสูง นอกจากนั้นก็ยังมีแร่ธาตุอย่างแคลเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี วิตามินเอ และมีใยอาหารอีกด้วย
นอกจากนั้นยังช่วยลดไขมันในเส้นเลือด เพราะไขมันในเมล็ดฟักทองเป็นกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว จึงช่วยลดไขมันในเส้นเลือด แก้โรคหลอดเลือดอุดตันได้ ช่วยให้ต่อมลูกหมากทำงานเป็นปกติ เพราะในเมล็ดฟักทองมีแร่ธาตุสังกะสี ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตทั่วไป และการพัฒนาของอวัยวะสืบพันธุ์ ตลอดจนการทำงานตามปกติของต่อมลูกหมาก อีกทั้งแร่ธาตุฟอสฟอรัสที่มีอยู่มากก็จะช่วยยับยั้งการเกิดผลึกนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ และหากกินเมล็ดฟักทองในขณะท้องว่างวันละสองครั้งก็จะช่วยขับพยาธิตัวตืด พยาธิเส้นด้าย พยาธิตัวกลม พยาธิใบไม้ได้อีกด้วย
และที่สำคัญ รสชาติหวานๆ มันๆ ของเมล็ดฟักทองนั้นก็ยังถูกปากใครหลายๆ คนเสียด้วยสิ
นอกจากจะเป็นอาหารที่มีคุณค่าสูงแล้ว ฟักทองยังเป็นยารักษาโรคมาตั้งแต่สมัยก่อนด้วย คนรุ่นใหม่อย่างเราน่าจะลองกินฟักทองเป็นยากันบ้าง
วิธีทำก็แสนง่าย ...
1. เอาเนื้อฟักทองครึ่งกิโลกรัมมานึ่งให้สุก แล้วราดด้วยน้ำผึ้ง กินวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น ติดต่อกันประมาณ 5-7 วัน จะช่วยบรรเทาอาการหอบหืดได้นาน 6 เดือน ถึง 2 ปี
2. ต้มฟักทอง 250 กรัมกับน้ำสะอาด แล้วกรองน้ำให้สะอาดเอามาดื่ม จะช่วยรักษาโรคเบาหวานได้
3. นำดอกฟักทองกับตับหมูไปต้มรวมกัน กินเป็นกับข้าว สามารถรักษาโรคตาบอดกลางคืนได้
4. แกะเปลือกเมล็ดฟักทองออกให้เหลือแต่เนื้อใน จากนั้นนำไปคั่วแล้วบดเป็นผง ผสมน้ำอุ่นดื่มครั้งละ 30 กรัม ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมให้คุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูก
5. แกะเปลือกเมล็ดฟักทองออกให้เหลือแต่เนื้อใน กินดิบๆ ติดต่อกัน 3 วันจะช่วยถ่ายพยาธิไส้เดือนได้
6. คั่วเมล็ดฟักทอง 150 กรัมให้สุก กินเนื้อในเพื่อขับพยาธิตัวตืด
|