|
โรคไตวาย เกิดจากการที่ไตสูญเสียหน้าที่ ไม่สามารถขับน้ำ และของเสียออกจากร่างกายได้ ทำให้ร่างกายเสียสมดุล และเลือดเป็นพิษ ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลีย ซึม คลื่นไส้ และเสียชีวิตในที่สุดได้
โรคไตวายมี 2 แบบ คือ
- แบบเฉียบพลัน คือไตวายชั่วคราว สามารถฟื้นกลับมาหายเป็นปกติได้
- แบบเรื้อรัง ซึ่งการทำงานของไตเสียอย่างถาวร ไม่สามารถทำหน้าที่ได้อีกแล้ว
โรคไตวายเรื้อรัง ไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียว แต่เป็นภาวะที่ เกิดจากโรคหลายอย่าง สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ โรคเบาหวาน ที่เป็นมานานเกิน 15 ปี เป็นโรคความดันโลหิตสูงนาน ๆ โรคไตอักเสบเรื้อรัง นิ่วก็เป็นสาเหตุที่พบบ่อยในคนไทย สาเหตุของโรคไตวายเรื้อรังนั้นมีหลายอย่างบางอย่างสามารถรักษา และป้องกันการเสื่อม หรือชะลอการเสื่อมของไต ถ้าได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ และ ลดอาหารเค็ม ลดอาหารประเภทโปรตีน ควบคุมเบาหวาน ควบคุมความดันโลหิต ให้อยู่ในภาวะปกติ
ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังส่วนใหญ่ ควรลดอาหารเค็ม เพราะร่างกายไม่สามารถขับเกลือ ออกจากร่างกายได้ตามปกติ ทำให้บวมและความดันโลหิตสูงโรคไตวายเรื้อรัง ไม่ว่าเกิดจากสาเหตุใด สุดท้ายจะทำให้เกิดภาวะ ยูเรเมีย ( Uremia ) เหมือนกัน คือทำให้มีอาการ ซีด บวม อ่อนเพลีย ซึมลง จนหมดสติและชักได้ ร่างกายจะดำรงอยู่ไม่ได้ถ้าไตไม่ทำงานขับถ่ายของเสีย
วิธีที่แพทย์ปัจจุบันใช้รักษาไตวาย
ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการล้างไต ( Dialysis ) แต่การรักษาที่ดีที่สุด คือ การผ่าตัดปลูกเปลี่ยนไตจากคนที่บริจาคไตให้ แต่การปลูกเปลี่ยนไตมีข้อจำกัดที่สำคัญ คือ มีผู้บริจาคไตน้อย มีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังนับร้อยนับพันคนรอการบริจาคไตอยู่ ผู้ป่วยเหล่านี้จะอยู่ได้ด้วยการล้างไต ระหว่างที่รอการปลูกไต
การล้างไตปัจจุบันมี 2 วิธี
- วิธีการล้างไตทางหน้าท้อง ( CAPD : Continuous Ambulatory Peritoneal Dialysis )
วิธีนี้ใช้สายยางฝังไว้ในช่องท้องอย่างถาวร และใส่น้ำยาเข้าไปในช่องท้อง เพื่อล้างเอาของเสียในเลือดออก ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำยาวันละ 4 - 5 ครั้ง ทุกวัน วิธีนี้มีข้อดีที่ทำเองที่บ้านได้ แต่มีข้อเสียเกิดการติดเชื้อในช่องท้องสูงเมื่อทำไปนาน ๆ และมีการสูญเสียโปรตีนออกมาทางน้ำยามากในแต่ละวัน อาจเกิดภาวะขาดอาหารถ้ารับประทานอาหารไม่เพียงพอ
- การฟอกเลือด ( Hemodialysis )
โดยการดูดเลือดจากผู้ป่วยไปล้างเอาน้ำ และของเสียออกโดยใช้ไตเทียม (เครื่องฟอกเลือด) เลือดที่ล้างแล้วจะไหลกลับเข้ามาในตัวผู้ป่วย วิธีนี้ใช้เวลาครั้งละประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อที่จะให้ได้ผลดีควรฟอกเลือดสัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง
จะเลือกวิธีไหนดีขึ้นอยู่กับโรคของผู้ป่วย และความพอใจของผู้ป่วย แพทย์จะอธิบายให้ผู้ป่วยทราบทั้งข้อดี และข้อเสียของทั้ง 2 วิธี และแนะนำวิธีที่เหมาะสมให้ แต่ผู้ป่วยและญาติเป็นผู้ตัดสินใจเลือกเอง ว่าจะล้างไตหรือไม่ แล้วเลือกล้างไตวิธีใด |
สมุนไพรบำบัดรักษาโรคไต
สมุนไพรบำรุงไตสามารถแยกออกได้เป็น 2 ประเภท ประเภทที่บำรุงไตโดยตรง และประเภทที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยขับน้ำออกจากร่างกายเหมาะสำหรับคนที่ไตมีปัญหาขับน้ำ
|
เห็ดหลินจือ รักษาโรคไต
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ วิจัยนำเห็ดหลินจือมารักษาไตเรื้อรัง |
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิจัยนำเห็ดหลินจือมารักษาไตเรื้อรัง ระบุเห็ดหลินจือช่วยฟื้นฟูการทำงานของไต ทางเลือกใหม่แทนกินยากดภูมิคุ้มกัน แพทย์จุฬาฯศึกษากลไกการเกิดภาวะไตวายในร่างกาย พร้อมสร้างทางเลือกใหม่รักษาโรคไตเรื้อรังด้วยสารสกัดเห็ดหลินจือ เผยผลทดสอบเบื้องต้นช่วยผู้ป่วยกลับสู่ภาวะปกติ ระบุสรรพคุณสร้างสมดุลให้ระบบภูมิคุ้มกัน ลดอาการไตอักเสบ ภาวะไข่ขาวรั่วในปัสสาวะ แถมยังเพิ่มประสิทธิภาพระบบไหลเวียนโลหิตและเพิ่มสมรรถภาพการทำงานของไต
รศ.พญ.ดร.นริสา ฟูตระกูล ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ทีมวิจัยค้นพบวิธีรักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเนฟโฟรสิส ชนิด focal segmental sclerosis ที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยากดภูมิคุ้มกัน เช่น สเตียรอยด์ โดยเปลี่ยนให้รับประทานสารสกัดจากเห็ดหลินจือวันละ 750 - 1,000 มิลลิกรัม ควบคู่กับการให้ยาขยายหลอดเลือด พบว่า ช่วยฟื้นฟูระบบการทำงานของไตให้ดีขึ้น อีกทั้งภาวะเนื้อไตตายลดลงอย่างชัดเจน
หลังจากทำวิจัยแล้วพบว่า สาเหตุมาจากสารพิษในเลือด สารอนุมูลอิสระ และการเสียสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน ที่ทำให้สารซัยโตคายน์เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อเซลล์บุผิวหลอดเลือด ทำให้เกิดการหดรัดตัวของหลอดเลือดเพิ่มมากขึ้น จนเกิดความดันภายในไตเพิ่มสูงขึ้น และทำให้ไตเกิดภาวะขาดเลือด เกิดเนื้อไตตายได้
นักวิจัย กล่าว ทั้งนี้ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังเนฟโฟรสิส ชนิด focal segmental sclerosis จะมีอาการเนื้อตัวบวมอย่างเห็นได้ชัด และหากตรวจเลือดและปัสสาวะจะพบภาวะไข่ขาวรั่วในปัสสาวะมากกว่า 3.5 กรัมต่อวัน ส่งผลให้โปรตีนในเลือดต่ำ ปริมาณการหมุนเวียนในเลือดไม่เพียงพอ เลือดในร่างกายพร่อง ข้นหนืด ก่อให้เกิดการอุดตัน และยังมีภาวะเผาผลาญไขมันผิดปกติ ไขมันในเลือดสูง ภาวะต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ไตมีการอักเสบ เสื่อม และถูกทำลายจนเข้าสู่ภาวะไตวายในท้ายที่สุด
หลังจากเข้าใจถึงกลไกของสาเหตุโรคไตแล้ว รศ.พญ.ดร.นริสาจึงได้นำเอาสารสกัดจากเห็ดหลินจือ (Ganoderma lucidum) มาทดลองกับผู้ป่วย เนื่องจากมีสรรพคุณในการช่วยฟื้นฟูระบบสมดุลของภูมิคุ้มกัน พร้อมทั้งยังได้รักษาร่วมกับการใช้ยาขยายหลอดเลือดด้วย
สำหรับอาสาสมัครที่เข้ารับการรักษา เป็นผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่มีอาการไข่ขาวรั่วในปัสสาวะต่อเนื่อง 5 - 10 ปี กำลังอยู่ในภาวะไตเสื่อมถอยลงอย่างช้าๆ และไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกัน หลังจากรักษาได้ราว 1 ปี พบว่าภาวะเสียสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันเข้าสู่ระดับปกติ ผู้ป่วยมีการทำงานของไตดีขึ้น ภาวะไข่ขาวรั่วในปัสสาวะลดลง และสามารถฟื้นฟูสมรรถภาพของไตให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้
"ปริมาณของสารสกัดจากเห็ดหลินจือที่มีคุณสมบัติในการรักษาได้นั้น จะอยู่ประมาณ 750 - 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยต้องใช้ร่วมกับยาขยายหลอดเลือด ซึ่งจะเข้าไปช่วยฟื้นฟูกลศาสตร์ไหลเวียนของไตให้ดีขึ้น เพราะเลือดจะไหลเข้าสู่ไตได้มากขึ้น ทำให้ความดันภายในไตลดลง"
นอกจากนี้การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจือในปริมาณดังกล่าวยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงใดๆ ด้วย เนื่องจากเห็ดหลินจือเป็นสมุนไพรที่มีเพดานการบริโภคที่สูงมาก
รศ.พญ.ดร.นริสา ได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคไตว่าผู้ป่วยจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและการดำเนินชีวิตโดยให้ความสำคัญในเรื่องอาหาร น้ำ อากาศ การออกกำลังกาย การกำจัดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนในปริมาณที่จำกัด ควบคุมระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในภาวะปกติ นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารให้ครบ ๕ หมู่ ดื่มน้ำให้มากเพียงพอเพื่อไม่ให้ไตขาดเลือด ที่สำคัญคือควรงดสูบบุหรี่
ทำไมเห็ดหลินจือถึงรักษาโรคไตอักเสบ ไตวายได้
นพ. บรรเจิด ตันติวิท ได้เขียนหนังสือ "หลิงจือ กับ ข้าพเจ้า" ซึ่งอธิบายหลักการทำงานของเห็ดหลินจือ และประสบการณ์ในการรักษาเห็ดหลินจือให้แก่ผู้ป่วย ได้อธิบายถึงการทำงานของเห็ดหลินจือว่าทำไมถึงรักษาโรคไตอักเสบ ไตวายได้
ไตที่อักเสบจะมีใยแผลเป็นที่ไต นานเข้าจะหดรัดไต ทำให้ไตเล็กลง รวมทั้งยังรัดเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงไต ทำให้ไตทำงานไม่ได้ ไตเกิดภาวะขาดเลือด
เห็ดหลินจือช่วยรักษาโรคไตอักเสบ ไตวายได้ เพราะ
- เห็ดหลินจือจะช่วยละลายใยแผลเป็นให้อ่อนตัว ไม่ให้ไปรัดเส้นเลือดที่เลี้ยงไต เพื่อให้เลือดไหลไปเลี้ยงไตได้ จึงทำให้ไตทำงานได้ดีขึ้น
- เห็ดหลินจือมีสารนิวคลีโอไชด์ มีคุณสมบัติละลายลิ่มเลือด ไม่ให้ลิ่มเลือดเกาะตัวง่ายจนทำให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือด ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
- เห็ดหลินจือเป็นแอนติออกซิแดนต์สามารถขจัดอนุมูลอิสระได้
- เห็ดหลินจือมีโปรตีน Lz-8 ที่ปรับระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานเป็นปกติ รวมทั้งมีสารเยอรมาเนียมและสารโพลีแซคคาไรด์ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงอีกด้วย
|
กระชาย สมุนไพรบำรุงไต
อาจารย์สุทธิวัสส์ คำภา นักธรรมชาติบำบัด ได้แนะนำ สูตรน้ำกระชาย
สำหรับบำรุงไต บำรุงสมอง บำรุงกระดูกมีแคลเซียมสูง ปรับสมดุลของฮอร์โมน
ส่วนประกอบน้ำกระชาย
|
กระชายเหลืองหรือที่ชาวบ้านเรียกว่ากระชายแกง |
1 ขีด |
ใบโหระพา หรือใบบัวบก (ใส่เพื่อดับกลิ่นกระชาย) |
น้ำผึ้ง |
2 ช้อนโต๊ะ |
มะนาว |
2 ลูก |
น้ำ |
2 แก้ว |
เอากระชายปอกเปลืองแล้วล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ใส่ใบโหระพา กับน้ำแล้วปั่น กรองเอาเฉพาะน้ำ เติมน้ำผึ้งและบีบมะนาว น้ำกระชายที่ปั่นแล้วกรองเอาเฉพาะน้ำแล้ว สามารถเก็บในตู้เย็นได้นาน ทำเก็บไว้กินได้เป็นอาทิตย์
ใบโหระพา หรือใบบัวบก นอกจากใส่เพื่อดับกลิ่นกระชายแล้ว กินใบโหระพาวันละ 7 ยอด เป็นยาอายุวัฒนะ ส่วนใบบัวบกบำรุงสมอง
เสริมด้วยอาหารบำรุงไต อย่างเห็ดหูหนูดำ หากนำเห็ดหูหนูดำรวมกับเห็ดอื่นอีก 2 ชนิด รวมเป็น 3 ชนิดมารวมกัน ทำเป็นต้นจืด ต้มยำ หรือจะแกงก็ได้ แต่อย่าผัดกับทอด นอกจากจะบำรุงไตแล้ว ยังบำรุงตับด้วย |
|
สมุนไพรบำรุงไตอื่นๆ
สมุนไพรไทยบำรุงไต อาจจะต้องใช้เป็นประจำทุกวัน สมุนไพรที่มีอยู่ทั่วไป ที่พอจะหาได้ง่าย และสามารถนำไปใช้โดยไม่มีผลข้างเคียง ยกตัวอย่างเช่น
- ผลหม่อนหรือเรียกว่าลูกหมอน กินสดทั้งผล มีสารประกอบของวิตามินซี ไบโอฟลาโวนอยด์สูงมาก สรรพคุณสมุนไพร : บำรุงไต แก้อาการอักเสบของเนื้อไต
(ลูกหม่อนหาทานยากเสียหน่อย แต่บำรุงไตดีมาก)
- เกสรหรือไหมข้าวโพดและซังข้าวโพด เอาตากแห้งแล้วต้มน้ำดื่มแทนน้ำ
สรรพคุณสมุนไพร : แก้ไตอักเสบ ขับปัสสาวะ แก้บวมน้ำ คนที่เป็นโรคเบาหวานด้วย ทานสูตรนี้ดี รสไม่หวาน หาซื้อข้าวโพดมาทำเองง่าย
- ใบข่อย ใช้ต้มน้ำแบบใบชาดื่มแทนน้ำ
สรรพคุณสมุนไพร : แก้ไตพิการ ขับปัสสาวะ
- ใบ ต้น และรากหรือเหง้าของเตย ต้มดื่มแทนน้ำ
สรรพคุณสมุนไพร : แก้กระษัย ไตพิการ ขับปัสสาวะ
- ดอกบานไม่รู้โรยเฉพาะดอกสีขาว ใช้ต้มน้ำดื่มแบบน้ำชาแทนน้ำ
สรรพคุณสมุนไพร : แก้กระษัย แก้โรคทางเดินปัสสาวะ ขับปัสสาวะ
- เปลือก เหง้า และตะเกียงสับปะรด ต้มกับน้ำจนเดือด เคี่ยวนาน 15 นาที
สรรพคุณสมุนไพร : แก้กระษัย บำรุงไต ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว
- หญ้าใต้ใบทั้งต้น ต้มกับน้ำจนเดือด เคี่ยวนาน 15 นาที
สรรพคุณสมุนไพร : กระตุ้นสมรรถภาพไต
- ต้นหญ้าหนวดแมว หั่นตากแห้งชงกินแบบน้ำชาต่างน้ำ
สรรพคุณสมุนไพร : แก้กระษัย ทำให้ไตมีกำลัง ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว สำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจต้องระมัดระวัง ถ้าใช้หญ้าหนวดแมวแล้วอาจทำให้หัวใจสั่น เพราะหญ้าหนวดแมวจะบีบหัวใจนิดหน่อย
- ถั่วเหลือง นมถั่วเหลือง เต้าหู้ เป็นประจำ หรือจะใช้สารสกัดจากถั่วเหลืองที่ชื่อไอโซฟลาโวน หรือเจนีสเตอิน ครั้งละ 1 เม็ด (25 -30 มก.) วันละ 2 ครั้ง หลังอาหาร
สรรพคุณสมุนไพร : เสริมสมรรถภาพไต ทำให้ไตทำงานได้ดีขึ้น
สมุนไพรขับปัสสาวะ มีสมุนไพรไทยหลายชนิดที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เป็นการขับเอาน้ำออกจากร่างกาย ลดอาการบวมน้ำได้ดี ที่หาได้ง่ายและไม่มีผลข้างเคียง สามารถเอามาต้มน้ำดื่มหรือกินเป็นอาหารได้เช่น ลูกเดือย ใบเตย น้ำเต้า ตะไคร้ กระเจี๊ยบ กระชาย บวบเหลี่ยม อ้อย (ลำต้น) |
อาหารที่ควรควบคุมสำหรับคนเป็นโรคไต
- งดอาหารที่มีเกลือโซเดียมมาก อาหารที่มีรสเค็ม เกลือ น้ำปลา ซีอิ๊ว ผงชูรส เพราะไตไม่สมารถขับโซเดียมออกจากร่างกายได้ เมื่อเกลือในร่างกายมีมาก มันจะอุ้มน้ำเอาไว้มากเกินไป จนคนที่เป็นโรคไตมีอาการบวม
- จำกัดโปรตีน แนะนำว่าในแต่ละวัน อาหารที่เป็นเนื้อสัตว์น่าจะมีปริมาณวันละเท่ากับ 1 ฝ่ามือ แต่สำหรับคนที่เป็นโรคไตเนฟโฟรติก มีการสูญเสียโปรตีนในปัสสาวะ ให้ใช้วิธีกินโปรตีนคุณภาพสูงเข้าไปทดแทน คือกินเฉพาะไข่ขาวในระหว่างที่ตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ วิธีนี้จะดีกว่าการกินอาหารโปรตีนมาก ๆ เพื่อป้องกันการสูญเสียทางไตเอาไว้ก่อน แนะนำว่า ให้กินไข่ขาววันละ 4-6 ฟองจะช่วยทดแทนโปรตีนที่สูญเสียไปกับปัสสาวะในแต่ละวัน หากไม่มีโปรตีนรั่วออกมาในปัสสาวะแล้วก็ให้งดการกินไข่ขาวไป
- งดสารปนเปื้อนในอาหารเด็ดขาด เช่น สีผสมอาหาร กลิ่นสังเคราะห์ รสชาติสังเคราะห์ สารกันบูด กันเชื้อรา ฯลฯ เพราะสารเคมีเหล่านี้ล้วนเป็นภาระให้ไตต้องขับออกนอกร่างกาย
.....การบำบัดรักษาสุขภาพร่างกายโดยวิธีธรรมชาติพืชสมุนไพรนับว่าเป็นทางเลือกรักษาอีกวิธีหนึ่ง..ที่ทำให้หลีกเลี่ยงการสะสมสารเคมีในร่างกายจากการทานยาประจำ..
ด้วยรักและห่วงใย : ครูรัชนี คุณานุวัฒน์
|